ชะตากรรมของการศึกษาไทยในปีหนู : โดย รศ.ดร.ธงชัย สมบูรณ์

(ภาพ AFP)

เพราะการศึกษาเป็นความยิ่งใหญ่ของสังคมมนุษยชาติที่สร้างขึ้นการศึกษาเป็นผลรวมของการกระทำที่มีประโยชน์มีคุณค่าในทุกๆ ด้าน แต่ทั้งนี้ชะตากรรมทางการศึกษาของสังคมนั้นมิได้เป็นกรรมเก่าแต่ประการใดทั้งสิ้น ชะตากรรมทางการศึกษาเป็นเรื่องราวที่เกิดจากการกระทำของผู้คนในรัฐชาติร่วมกันต่างหากซึ่งเรียกว่า วิบากกรรมร่วม เพราะฉะนั้นวิบากกรรมร่วมที่ดีจะส่งผลการพัฒนาประเทศชาติในทิศทางที่ดีเสมอแต่วิบากกรรมร่วมที่ไม่ดีก็จะส่งผลที่ไม่ดีตามมาด้วย จะเห็นได้ว่าบางครั้งผู้ที่ได้รับผลกรรมนั้นอาจจะไม่รู้เรื่องหรือไม่รับทราบแต่ทั้งนี้ก็เป็นไปในลักษณะ “ตกกระไดพลอยโจร” ฉะนั้น การสร้างชะตากรรมร่วมที่ดีต้องมาจากจริตที่งดงามของผู้มีอำนาจและผู้คนในรัฐชาติร่วมกัน

การศึกษาไทย: ปัจจัยที่ส่งผลให้ “ชะตาขาด”

ถึงแม้ว่าการศึกษาไทยจะได้มีการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่องแต่ทำไมจึงยังไม่มีการพัฒนาที่ยั่งยืน สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะเป็นคำถามที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในสังคม ยิ่งไปกว่านั้นมีคำถามอื่นที่ว่าการศึกษาไทยมีเวรกรรมขนาดนั้นหรือ การศึกษาไทยไม่เคยทำบุญบ้างเลยมาหรือ บางครั้งบางสมัยจะเห็นว่าการศึกษาไทยได้มีการทำ “สังคายนา” กันยกใหญ่แต่หาได้พ้นจากบ่วงกรรมหรือวิบากกรรมไม่

ซึ่งจากอดีตจนถึงปัจจุบันจะพบว่าชะตากรรมหรือวิบากกรรมของการศึกษาชาติมีลักษณะดังนี้

Advertisement

1.การที่รัฐชาติได้ผู้บริหารทางการศึกษาไม่สอดคล้องกับ “เนื้องาน” ผู้บริหารทางการศึกษาบางคนมาจากบุญเก่าแต่กลับมาสร้างกรรมใหม่ที่ไม่ดีต่อการศึกษา ซึ่งดูเหมือนว่าจะทวนกระแสของกรรมจริงที่เป็นอยู่อย่างเห็นได้ชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นระบบการคัดกรองผู้บริหารทางการศึกษายังมีระบบเส้นสายที่ยากจะแก้ไข เส้นสายบางสถานศึกษาถึงแม้ว่าจะมีการกรวดน้ำและอุทิศผลบุญไปให้ยังไม่พอเพียง ยังมีการสิงสถิตอยู่มิยอมออกไปแต่อย่างใด

2.รอยต่อของการพัฒนาในการศึกษาในแต่ละระดับไม่เชื่อมโยงกันกล่าวคือ ความเชื่อมโยงที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดทักษะการสั่งสมกรรมในการเรียนรู้ที่ดีนั้นแทบจะหายไปในปัจจุบัน สถานศึกษาในทุกระดับต่างมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ทางตัวเลขและระดับของสถานศึกษาเป็นหลัก ทักษะทางชีวิตพื้นฐานของผู้เรียนถดถอยลงอย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่น ผู้เรียนขาดทักษะในการเขียนจะเห็นได้จากผลสอบของหลายๆ สถานศึกษาที่มีการออกข้อสอบเป็นแบบอัตนัยหรือข้อสอบข้อเขียน ผลปรากฏว่ามีผู้เรียนจำนวนมากที่เขียนข้อสอบไม่ได้เลยหรือเขียนได้น้อยมาก ทักษะทางความคิดที่ตกผลึกและเสนอความรู้ความคิดออกมายังไม่ดีเท่าที่ควร เมื่อเป็นเช่นนี้ชะตากรรมของชาติก็คงจะเป็นวิบากกรรมร่วมต่อไปและไม่มีทางที่จะพ้นบ่วงกรรม

3.การจัดการเรียนรู้ที่ขาดผลสัมฤทธิ์ที่แท้จริง ผลบุญที่เกิดขึ้นจากการจัดการเรียนรู้ที่แท้จริงคือ การที่ผู้เรียนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีภูมิคุ้มกันที่ดี เพราะปัจจุบันการศึกษาไทยมีภูมิคุ้มกันที่บกพร่องหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นระบบบริหารจัดการที่ยังไม่เอื้อต่อการพัฒนาในทุกระดับเพราะบางครั้งการบริหารจัดการยังไม่สามารถตัดสินใจในการดำเนินหรือการกระทำได้เองยังต้องอิงแอบกับ “หน่วยเหนือ” นอกจากนี้ งบประมาณที่ไม่เพียงพอกับการจัดการ เฉกเช่น “น้ำที่เตรียมไว้มีปริมาณน้อยไม่พอกับบทสวดกรวดน้ำฉันนั้น”

Advertisement

4.ผู้คนทางการศึกษาที่เป็นผู้สอนนั้นมีจำนวนมากที่ไม่ได้สร้างชะตากรรมของตนเองตามกรรม (การกระทำ) ที่ได้รับมอบหมายกล่าวคือ ไม่มีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ขาดการเอาใจใส่ต่อการจัดการเรียนการสอน บางแห่งของสถานศึกษายังมีลักษณะบาปบุญอย่างเห็นได้ชัดเพราะภาพที่เกิดขึ้นคือ “ช่างเป็นบุญของพวกเราที่ได้เรียนกับอาจารย์ท่านนั้น ช่างเป็นกรรมของพวกเราที่ได้เรียนกับอาจารย์ท่านนี้”

การสร้างบุญเพื่อต่อชะตากรรมของการศึกษา

ผลบุญคือการกระทำที่เป็นกุศลทำแล้วเกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม ผลบุญที่แท้จริงนั้นต้องเกิดจากความตั้งใจจริงและจิตที่เป็นกุศลเท่านั้นถึงจะเรียกได้มหาบุญ การสร้างบุญเพื่อต่อชะตากรรมของการศึกษาไทยนั้นสามารถทำได้ดังนี้

1.ทานมัย หมายถึงการให้กล่าวคือการให้งบประมาณที่พอเหมาะและเพียงพอต่อหน่วยงานการศึกษาในทุกระบบและทุกระดับ การให้ที่ยิ่งใหญ่และสามารถต่อชะตากรรมการศึกษาของชาติที่ดีอีกประการหนึ่ง คือ รัฐบาลต้องให้หรือมอบหมายคนที่มีความรู้ความสามารถทางการศึกษามาบริหารจัดการหน่วยงานทางการศึกษา ทานมัยที่จะเกิดมรรคผลต่อการเรียนรู้ที่เป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่ต่อไปอีกคือ การให้เวลาผู้สอนอย่างจริงจังเพราะที่ผ่านมาขยะทางวิชาการหรือบาปกรรมที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้อุบัติขึ้นบ่อยมาก

2.ศีลมัย หมายถึงการประพฤติดีมีระเบียบวินัย ชะตากรรมของการศึกษาของรัฐชาตินั้นต้องปลูกฝังความประพฤติที่ดีและมีระเบียบให้กับผู้คนในรัฐชาติ ผู้ที่มีความอาวุโสจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้วัยเยาว์ อนึ่ง ผู้ที่มีอำนาจนั้นจะต้องประพฤติตนภายใต้อำนาจแห่งระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้องด้วย ถึงจะรียกว่ามีศีลมัย นอกจากนี้ เพื่อสืบชะตาการศึกษาให้ดีขึ้นต้องมีการส่งเสริมการศึกษของรัฐชาติให้เกิดวินัยในการจัดการเรียนรู้เพื่อความเป็นสังคมโลกที่ดีงามมากกว่าที่เป็นอยู่

3.ภาวนามัย หมายถึงการฝึกอบรมจิตใจ จากอดีตจนปัจจุบันจะเห็นได้ว่า การศึกษาไทยมีการบ่มเพาะผู้คนในรัฐชาติทุกระดับและถือได้ว่าอัตราส่วนและจำนวนของผู้คนในประเทศได้รับการศึกษามากขึ้น แต่ภาพที่ปรากฏยังพบตามสื่อสาธารณะทั่วไปคือ จิตใจของผู้คนมีลักษณะเสื่อมลงปัญหาความรุนแรงและอาชญากรรมมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จนบางครั้งดูเป็นเรื่องปกติวิสัยสำหรับสังคมในยุคปัจจุบันไปแล้ว ชะตากรรมของการศึกษาไทยในมิติด้านภาวนามัยนั้นต้องสร้างความศิวิไลซ์ในฐานคิดของผู้คนที่ต้องการความศิวิไลซ์ในทุกๆ มิติ การศึกษาจะเป็นเพียงแค่การขับเคลื่อนเท่านั้น

ถ้าจิตใจของผู้คนในรัฐชาติศิวิไลซ์แล้ว ความศิวิไลซ์ต่างๆ จะตามโดยปราศจากคำถามทั้งปวง

กล่าวตามความเป็นจริงแล้ว ชะตากรรมใดๆ นั้นมิใช่เรื่องของเวรกรรมทั้งสิ้น ชะตากรรมที่ดีย่อมเกิดจากกระทำดีภายใจจิตใจที่เป็นกุศล ชะตากรรมทางการศึกษาก็เช่นกันจะเป็นผลรวมของการกระทำของคนไทยทั้งประเทศ และที่สำคัญจะไม่ใช่ผลที่มาจากโชคชะตาหรือฟ้าลิขิตแต่ประการใด หากเป็นการกระทำที่เกิดจากอำนาจของผู้คนทุกภาคส่วน ทุกเพศทุกวัยและทุกอาชีพที่พร้อมจะยอมให้เกิดขึ้นเป็นชะตากรรมร่วมที่ดีขึ้น

แต่ที่แน่ๆ ทุกคนหรือทุกฝ่ายที่มีอำนาจในการจัดการศึกษาขอเพียงอย่างเดียวท่านอย่าทำให้ การศึกษาไทยชะตาขาดในปีหนูนี้ก็พอครับ!!!

รศ.ดร.ธงชัย สมบูรณ์

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image