ไทยต้องไม่เป็นอู่ฮั่นสาขา 2 : โดย ธีรเวทย์ ประมวญรัฐการ

(ภาพ AFP)

เมื่อครั้งที่โลกเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดซาร์สเมื่อ 16-17 ปีก่อน กว่าองค์การอนามัยโลกจะได้รับแจ้งจากรัฐบาลจีนว่าพบคนไข้รายแรกที่เมืองฝอซาน มณฑลกวางตุ้ง เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2545 ก็ล่วงเข้าเดือนที่สาม (มกราคม 2546) ยอดผู้เสียชีวิตครั้งนั้นเกือบ 400 ในช่วง 8 เดือนที่ทั้งโลกต้องร่วมชะตากรรมกับจีน ถือเสียว่าเป็นความบกพร่องโดยสุจริตของจีนเมื่อปี 2546 ที่ยังบริหารประเทศแบบรวมศูนย์

อย่างไรก็ตาม เทียบกับยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา 427 ราย นับถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมาต้องถือว่าน่าตกใจ เพราะยอดคนตายปี 2563 ภายในเดือนเศษทำลายสถิติยอด 8 เดือนรวมกันของปี 2546 ไปแล้ว!

แต่ทั้งหมดต้องถือเป็นบทเรียน โดยเฉพาะรัฐบาลไทยขณะนี้ต้องทบทวนและระวังเป็นพิเศษ

มีข้อมูลของ ตม. ล่าสุดระบุว่ามีนักท่องเที่ยวจีนที่ยังกลับเมืองจีนไม่ได้นับถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 กว่า 1.3 แสนคน เฉพาะที่มาจากเมืองอู่ฮั่นกว่า 1.3 พันคน

Advertisement

แม้รายงานไม่ระบุถึงสาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนมีมากมายปานนั้น แต่พอจะอนุมานได้ว่าในช่วงที่โลกกำลังตระหนกกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา และเฝ้าระวังการเข้าเมืองของนักท่องเที่ยวชาวจีนตลอดเดือนมกราคม 2563 (หลังมีรายงานเสียชีวิตรายแรกจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เมืองอู่ฮั่นเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563) ไทยยังเต็มไปด้วยกระแสข่าวความพยายามออกนโยบาย “ชิมช้อปใช้อินเตอร์” กระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากจีนของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ที่ดูออกจะทวนกระแสโลก

แต่ยังมิทันที่ ครม.จะอนุมัติก็มีข่าวเล็กๆ ที่อาจทำให้รัฐบาลอาจหลงพอใจเมื่อนักท่องเที่ยวจากเมืองจีนกว่า 5 หมื่นคนหลุดออกมาก่อนนายสี จิ้นผิง สั่งห้ามคนจีนออกนอกประเทศหวุดหวิด ในจำนวนนั้นกว่า 2 หมื่นคนพลัดเข้าไทย ที่เหลือกระจายอย่างเบาบางไปตามประเทศอื่น (สิงคโปร์รับไปเป็นรองจากไทยก็เพียงหลักพันต้นๆ นอกนั้นหลักร้อย หลักสิบก็มี)

นั่นสะท้อนว่าในขณะที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกในเดือนมกราคม 2563 ออกมาตรการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากจีน ไทยอยู่ในอารมณ์ “เฉยๆ” อย่างที่พอจะดูดีคือนายกฯออกมาแถลงการณ์ว่ามีความตั้งใจดี ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาลที่จะรับมือได้

Advertisement

แต่ใจอย่างเดียวได้พิสูจน์ให้รัฐบาลได้เห็นแล้วว่า นอกจากไม่พอยังมีปัญหาตามมา เพราะการแถลงหรือให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาของผู้นำรัฐบาลว่า พร้อมเกินร้อย อย่าห่วง รู้มานานแล้ว บลา บลา บลา ไม่ปรากฏว่ามีข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่จะสนับสนุนถ้อยคำอย่างเพียงพอ

จึงเห็นว่าแม้แต่มาตรการป้องกันพิ้นฐาน เช่น หน้ากากมีพอไหม แพงไปหรือเปล่า ตลอดไปจนถึงแผนอพยพคนไทยออกจากเมืองอู่ฮั่น จึงดูเลื่อนลอยอึมครึม

พอญี่ปุ่น สหรัฐ ไม่เว้นพม่า เกาหลีใต้ ฯลฯ ส่งเครื่องบินไปรับคนของเขาออกจากเมืองอู่ฮั่นกลับบ้านได้แล้ว แต่ไทยยังต้องรอ จึงเท่ากับยืนยันว่ารัฐบาลมิได้บูรณาการทรัพยากรเพื่อระดมสรรพกำลังให้กับภารกิจรับมือวิกฤตนี้อย่างเพียงพอ

ความเชื่อถือที่รัฐบาลควรจะได้รับจึงถดถอยลงไปอย่างน่าเสียดาย และสุดท้าย แทนที่รัฐบาลจะได้โฟกัสกับการทำสงครามไวรัสโคโรนาอย่างเต็มสรรพกำลัง หรือควรได้กำหนดยุทธศาสตร์ของสงครามไวรัสครั้งนี้ว่า “ไทยต้องไม่เป็นอู่ฮั่นสาขา 2” กลับต้องมาเปิดสงครามข่าวสารในสมรภูมิ “เฟคนิวส์” โดยไม่จำเป็นเลย

ธีรเวทย์ ประมวญรัฐการ

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image