‘เนื้อใน’เกราะกำบัง โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

อยู่ขั้ว “ลุง” ช่างมีโชควาสนา

มีข้อพิพาทอะไรก็มักจะชนะฉลุย

ร่อแร่อย่างกรณีงบปี 2563 ก็ไปได้ต่อ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ
5 รัฐมนตรี จะถูกซักฟอก

Advertisement

ก็ปรากฏ “องครักษ์” ขึ้นมาปกป้องอย่างอึกทึกครึกโครม

จนทำให้ที่ นายวิษณุ เครืองาม เคยประกาศไว้ว่า จะใช้ “สุจริต เป็นเกราะกำบัง ศาสตร์พ้อง” เป็นแนวต่อสู้

ถูกกลบด้วยวลี “องครักษ์ เป็นเกราะกำบัง พวกพ้อง” เป็นที่เรียบร้อย

ก็เอาเถอะ ไม่ว่ากัน

มารอดูสิว่าองครักษ์จะปกป้องนายกฯ และรัฐมนตรีได้แค่ไหน

และว่าไปองครักษ์ที่เปิดตัวออกมาคราวนี้ ก็ไม่ได้มีเหตุผลเพราะความ “ภักดี” อย่างเดียว

หากแต่มีผลประโยชน์ “ร่วม” บางอย่างผสมปนเปอยู่ด้วย

ถ้าสังเกต การก่อตัวขององครักษ์ในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ครั้งนี้ ที่แบ่งออกเป็น 3 เสี้ยวคือ อ.-ส.-ว.

แท้จริงก็คือ 3 ก๊กใน พปชร.ที่กำลัง “ฝัน” ในเรื่องเดียวกันนั่นแหละ

อ. ก็ อนุชา นาคาศัย ตัวแทนของกลุ่มสามมิตร ที่ผิดหวังแต่ไม่สิ้นหวังมาหลายครั้ง
ไม่ว่าเก้าอี้รัฐมนตรี หรือเลขาธิการพรรค

ส. ก็ สุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ประธาน ส.ส.พรรค พปชร. ดาวรุ่งพุ่งแรง ที่พร้อมขอแชร์อำนาจในพรรคอย่างคึกคัก

ว. ก็ วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล ที่ใช้งานในสภา แผ่อิทธิพลเข้าไปมีบทบาทในพรรค ทำให้ญาติและกลุ่ม ส.ส.เข้าไปมีบทบาทในรัฐบาลอย่างไม่อาจมองข้าม

องครักษ์ อ.ส.ว. ที่แม้จะมีเป้าหมายปกป้องนายกฯ และ 5 รัฐมนตรีเหมือนกัน

แต่ก็ถูกจับตาว่า คงมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ว่าใครจะทำผลงานเข้าตา สามารถเล่นบทองครักษ์ได้ดีกว่า

เพราะสามารถนำเอาผลงานครั้งนี้ไปเคลมกับผู้มีอำนาจในพรรคและนอกพรรคได้ว่า
ควรจะได้รับการสมนาคุณ ตอบแทนกลับคืนมามากน้อยแค่ไหน

โดยเฉพาะการคาดหมายว่า หลังการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะปรับ
คณะรัฐมนตรีเพื่อให้รัฐบาลดูดีขึ้น

แน่นอน ทั้งสามก๊ก อ.-ส.-ว. ต่างก็คาดหวังว่า นอกจากจะรักษาฐานอำนาจ หรือเก้าอี้รัฐมนตรีเดิมเอาไว้แล้ว

ยังสมควรจะได้รับโบนัสเพิ่มเติมด้วย

นี่จึงมีการคาดหมายว่า ในองครักษ์ อ.-ส.-ว. คงแข่งขันกันสูง ชนิดไม่มีใครยอมใคร

อะไรที่สามารถแสดง “พาว” ของกลุ่มตนได้ก็ต้องแสดง

และที่โชว์ให้เห็นแล้วก็คือ การฟื้นกลับคืนมาของกลุ่มสามมิตร “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-
สมศักดิ์ เทพสุทิน-สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ที่เชื่อมโยงแนบแน่นไปถึง อนุชา นาคาศัย

“วงอาหาร” โชว์ตัวว่าหวนกลับมาแล้ว โดยมี ส.ส.มาร่วมกว่า 40 คนนั้นไม่ใช่สิ่งธรรมดา

ด้วยมันบอกถึงความเป็นกลุ่มก้อน ที่ชี้เป็นชี้ตายทางการเมืองของใครก็ได้

ขณะเดียวกันก็ยังเรียกร้องการเอาใจใส่ในระดับพิเศษ

คือหากกลุ่มสามารถเล่นบทบาทองครักษ์ได้ดี ก็ควรมีผลตอบแทน ทั้งเก้าอี้ในคณะรัฐมนตรี และในพรรค

ที่สำคัญ นอกจากเป็นองครักษ์ให้ “นาย” แล้ว ยังเป็นองครักษ์ให้กับคนในกลุ่มด้วย

นั่นคือ ไม่สมควรที่จะมีใครในกลุ่มสามมิตรจะถูกปลดออกจากรัฐมนตรี

ตรงกันข้าม มีแต่สมควรเพิ่ม

นี่คือ “สัญญาณทางการเมือง” ที่อ่านได้ พร้อมๆ กับการประกาศตัวเป็นองครักษ์ในศึกซักฟอกครั้งนี้

ซึ่งแน่นอน คงไม่ได้หมายถึงเฉพาะกลุ่มสามมิตร หากแต่หมายถึงกลุ่มอื่นๆ ที่พร้อม
จะโชว์พลังของตนด้วย

เนื้อใน “เกราะกำบัง” ขององครักษ์ ที่ดูแข็งแกร่งนั้น

เอาเข้าจริงก็มี “รอยแยก” แห่งการแข่งขันเพื่อชิงอำนาจใน พปชร.แฝงอยู่อย่าง
น่าระทึกใจด้วย!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image