| ผู้เขียน | โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ |
|---|
ในบรรดาสมาชิกของพรรคเดโมแครตผู้สมัครเข้าชิงชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาในวันที่ 3 พฤศจิกายนปีนี้นั้น กำลังรณรงค์เพื่อเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตเพื่อไปเผชิญหน้า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นตัวยืนของพรรครีพับลิกันในฐานะประธานาธิบดีผู้ดำรงตำแหน่งอยู่แล้ว ปรากฏว่ามีผู้สมัครอายุน้อยเพียง 38 ปี ที่กำลังได้รับความสนใจกล่าวขวัญถึงจากสื่ออเมริกันอย่างมากว่าน่าจะเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับประธานาธิบดีทรัมป์ได้คืออดีตนายกเทศมนตรีหนุ่มไฟแรงจากเมืองเซาท์ เบนด์ ในมลรัฐอินเดียนาที่มีภูมิหลังที่น่าทึ่งมากคือ นายพีท บุดดิเจช เนื่องจากดูแล้วมีลักษณะตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิงของทั้งสองฝ่าย
จากประสบการณ์ของผู้เขียนเมื่อ พ.ศ.2543 ผู้ได้นั่งรถประจำทางผ่านมลรัฐอินเดียนาระหว่างทางต้องผ่านเมืองเซาท์ เบนด์และเมืองแกรี่ด้วยความสังเวชสลดใจเนื่องจากทั้งสองเมืองนี้เป็นเมืองที่กำลังจะตาย ผู้เขียนมองเห็นตัวเมืองที่ทรุดโทรมและบ้านช่องที่ร้างนับร้อยๆ หลังเรียงกันเป็นตับ เนื่องจากอุตสาหกรรมหลักของทั้งสองเมืองนี้โรงงานผลิตรถยนต์และโรงงานถลุงเหล็กกล้าได้ปิดตัวลงตั้งแต่ พ.ศ.2506
แต่ปรากฏว่าเมื่อพีท บุดดิเจช ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองเซาท์ เบนด์เมื่อ พ.ศ.2555 เขาก็สามารถพลิกฟื้นสภาพของเมืองเซาท์ เบนด์ขึ้นมาได้อย่างน่ามหัศจรรย์ด้วยการชักชวนธุรกิจต่างๆ มาเปิดกิจการและลงทุนในเมืองเซาท์ เบนด์จนเมืองเซาท์ เบนด์กลับมาคึกคักมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากนายกเทศมนตรีคนแล้วคนเล่าอ้างว่าเมื่อธุรกิจหลักปิดตัวไปแล้วก็ไม่มีทางจะทำอะไรได้จึงทำให้ชาวเมืองเซาท์ เบนด์ตัดสินใจเลือกเด็กหนุ่มอายุ 29 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีและนายกฯพีทก็สามารถพลิกฟื้นเมืองเซาท์ เบนด์ขึ้นมาตามสัญญาได้สำเร็จ
ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีสมัยที่สองพีท บุดดิเจช ได้รับเลือกตั้งอย่างล้นหลามคือได้รับคะแนนเสียงถึง 80% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่เขาประกาศตนเป็นคนรักร่วมเพศอย่างเปิดเผยในมลรัฐอินเดียนา ซึ่งถือว่าเป็นรัฐของพวกอนุรักษนิยมรังเกียจพวกเกย์เป็นอย่างสูง แต่ด้วยผลงานอันโดดเด่นของเขาทำให้เขาได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่สองอย่างเต็มภาคภูมิ
เมื่อหมดวาระการดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีสมัยที่สองเขาจึงตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตเพื่อชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดีต่อไป
พีท บุดดิเจช มีเชื้อสายมอลตาซึ่งเป็นประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กสองเกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของยุโรป มีเนื้อที่เพียง 316 ตารางกิโลเมตร (เล็กกว่าเกาะภูเก็ตซึ่งมีเนื้อที่ 543 ตารางกิโลเมตร) มีประชากรทั้งหมดประมาณ 475,000 คน เมืองหลวงชื่อเมืองวัลเลตตา จัดเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งหนึ่งในยุโรป มีผู้มาครอบครองและถูกแย่งชิงนับครั้งไม่ถ้วนในอดีตจนกระทั่งตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2344 และได้รับเอกราชเมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ.2507
บิดาของพีท บุดดิเจช คือ โจเซฟ บุดดิเจช เกิดและเติบโตที่เกาะมอลตาได้โอนสัญชาติเป็นชาวอเมริกันโดยเป็นศาสตราจารย์ทางวรรณคดีและเป็นผู้เชี่ยวชาญวรรณกรรมของอันโตนีโอ กรัมชี อยู่ที่มหาวิทยาลัยนอเตอร์เดมที่เมืองเซาท์ เบนด์ ในมลรัฐอินเดียนาเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อ พ.ศ.2560
พีท บุดดิเจช เกิดในเมืองเซาท์ เบนด์ ที่มีประชากรราว 100,000 คน ในมลรัฐอินเดียนา มีความสามารถพิเศษคือ เขาพูดได้ถึง 8 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาสเปน ภาษานอร์เวย์ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอิตาลี ภาษามอลตา ภาษาอารบิคและภาษาดารี (เปอร์เซียที่ใช้กันในอัฟกานิสถาน) เขาเรียนจบการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มีเพื่อนร่วมรุ่นที่เรียนไม่จบคือ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของบริษัทเฟซบุ๊กที่คนไทยติดกันงอมแงม
นอกจากนี้ เขายังได้รับทุนการศึกษาโรดส์ ซึ่งเป็นรางวัลระดับบัณฑิตศึกษาระดับนานาชาติสำหรับนักศึกษาที่เรียนที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ทุนการศึกษาโรดส์นี้ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ.2445 ถือว่าเป็นทุนการศึกษาที่ทรงเกียรติที่สุดเทียบเท่ากับทุนเล่าเรียนหลวงของไทยเรานั่นเอง
พีท บุดดิเจช เคยทำงานเป็นที่ปรึกษาในบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจแมคเคนซี ถึง 3 ปี แล้วจึงสมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองเซาท์ เบนด์ บ้านเกิดของตัวเอง 2 สมัย
ในช่วงสมัยที่สองที่เขาเป็นนายกเทศมนตรีอยู่นั้นเขาได้เข้าเป็นทหารไปปฏิบัติการที่ประเทศอัฟกานิสถานเป็นเวลา 7 เดือน และชีวิตส่วนตัวพีท บุดดิเจช เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ยอมรับว่าเป็นเกย์อย่างเปิดเผย แถมยังเพิ่งแต่งงานเมื่อ พ.ศ.2558 กับเพื่อนชายชื่อ เชสเทน เกลซเมน มีอาชีพเป็นครูสอนหนังสือระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ถึงแม้ว่าการรณรงค์หาเสียงเพื่อช่วงชิงตำแหน่งตัวแทนของพรรคเดโมแครตจะดำเนินไปจนกระทั่งสิ้นเดือนมิถุนายนปีนี้เพื่อที่จะเลือกตัวแทนของพรรคจำนวน 3,979 คน เพื่อไปลงคะแนนเลือกตัวแทนพรรคเพื่อชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดีในปลายปีนี้ยังยาวไกล แต่คนอย่างพีท บุดดิเจช เป็นคนที่แปลกใหม่ทำให้รู้สึกสดชื่นในบรรยากาศของการเมืองอเมริกันขณะนี้เหมือนกับสำนวนที่ว่า “A breath of fresh air” ทำให้เขาเป็นคู่แข่งที่น่าจะเป็นมากที่สุดคนหนึ่งในการชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดีปลายปีนี้
โกวิท วงศ์สุรวัฒน์
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
