ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
บ้านเชียง (อ. หนองหาน จ. อุดรธานี) เป็นชุมชนคนพวน จึงมีอาคารนิทรรศการไทพวน สร้างต่างหากอยู่ในบริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง
ประวัติความเป็นมาของชาวพวนบ้านเชียง มีอย่างไร? ในนิทรรศการและหนังสือนำชมบอกไว้คลุมเครือ
จึงไม่พบความเกี่ยวดองระหว่างพวนบ้านเชียงกับพวนดงศรีมหาโพธิ์ (ปราจีนบุรี) เพราะแต่เดิมย่านหนองหาน บ้านเชียง กุมภวาปี อุดรธานี เป็นที่ชุมนุมใหญ่ของคนพวน ก่อนโยกย้ายลงไปภาคกลาง มีในหนังสือศาลาแบ่งปัน เอกสารประกอบนิทรรศการประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ที่ศาลามโหสถ อ. ศรีมโหสถ จ. ปราจีนบุรี (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2556 หน้า 166-172) จะยกมาดังนี้
คนพวน ปราจีนบุรี ไปจากเมืองหนองหาน (อุดรธานี) และเมืองหนองคาย
ร่างสารตราเจ้าพระยาจักรีฯ เรื่องส่งครัวเมืองพวน เมืองเวียงจัน พ.ศ. 2380 ระบุว่า ให้กวาดต้อนครัวคนพวนจากเมืองหนองคายและเมืองหนองหาน (อุดรธานี) ไปไว้ที่เมืองปราจีนบุรี
คนพวนกลุ่มหนึ่งจากเวียงจันและบริเวณสองฝั่งโขง ถูกกวาดต้อนสมัย ร.3 คราวศึกเจ้าอนุเวียนจัน เมื่อ พ.ศ. 2369 ให้ลงไปตั้งบ้านเรือนหลักแหล่งใหม่อยู่บริเวณป่าดงทางตะวันออกของกรุงเทพฯ ตั้งแต่นครนายก, ปราจีนบุรี, จนถึงฉะเชิงเทรา (มีคนพวนกลุ่มอื่นถูกกวาดต้อนไปตั้งหลักแหล่งที่อื่นๆ อีกหลายแห่ง)
เฉพาะเขตดงศรีมหาโพธิ์ ให้ตั้งบ้านเรือนตั้งแต่ลำน้ำปราจีนบุรี ที่ต่อไปจะได้ชื่อ อ. ศรีมหาโพธิ, อ. ศรีมโหสถ (จ. ปราจีนบุรี) กระจัดกระจายต่อเนื่องถึงเขตดงยาง บริเวณลำน้ำท่าลาด ที่ต่อไปจะได้ชื่อ อ. พนมสารคาม (จ. ฉะเชิงเทรา)
นอกจากนั้นยังมีลาวอีกกลุ่มหนึ่งไปตั้งบ้านเรือนอยู่ อ. พนัสนิคม (จ. ชลบุรี)
หลังศึกเจ้าอนุเวียงจัน มีคนพวนในลาวและในอีสานรับรู้ถึงหลักแหล่งใหม่ของคนพวนในไทย ว่าทำมาหากินราบรื่นดี ก็พากันทยอยเคลื่อนย้ายอย่างสมัครใจมาอยู่ร่วมเครือญาติด้วยกับพวกอยู่มาก่อน คนพวนก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อน แล้วสร้างความสัมพันธ์เชื่อมโยงส่งข่าวถึงกัน
ร่างสารตราเจ้าพระยาจักรี เรื่องส่งครัวเมืองพวน เมืองเวียงจันฯ พ.ศ. 2380 ระบุชัดเจนว่า “ครัวพวนครัวเวียงจัน” จากเมืองหนองคาย และเมืองหนองหาน (คือ อุดรธานี) “ให้ลงทางเมืองปราจีนบุรี”
คนพวนมาจากไหน?
หนังสือศาลาแบ่งปัน มีงานบอกเรื่องราวคนพวนมาจากไหน? จะยกมาสู่กันพิจารณาสนับสนุนนิทรรศการไทพวน ในพิพิธภัณฑ์บ้านเชียง