น่าสนใจศึกษาค้นคว้า “หลักการ” และ “ทรรศนะ” ซึ่งซ่อนอยู่ในคำวินิจฉัยที่ให้ยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี
มติ 7 ต่อ 2 มีทรรศนะ มีหลักการอย่างไร
ศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่ศาลยุติธรรม !
ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คือว่าด้วยข้อสงสัยทางการเมืองอันเกี่ยวข้องกับ “คน” และ “กติกา”
ก่อนหน้านี้ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยกล่าวว่า “ผมเชื่อว่าทุกคะแนนที่พรรคอนาคตใหม่ได้มาเป็นเพราะประชาชนเชื่อศรัทธาในแนวทางพรรคอนาคตใหม่”
ก่อนหน้านี้เช่นกัน “สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ” กล่าวถึง “ธนาธร” ว่า “ลูกชายฉันคนนี้เขาสะอาด”
สำหรับ “ธนาธร” เคยประกาศ “การเมืองแห่งความหวัง” เอาไว้ว่า จะใช้วิธีทำงานการเมืองแบบใหม่ นำเสนอนโยบายและวาระที่ก้าวหน้า กระจายอำนาจ ทลายการผูกขาด
“จะเป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีคนใดคนหนึ่ง หรือเพียงไม่กี่คนเป็นเจ้าของ จะระดมทุนจากฐานราก ไม่ใช่จากนายทุน” !
เมื่อประชาชนกว่า 6.3 ล้านเสียงเลือก “พรรคอนาคตใหม่ ธนาธร” ก็เลยได้เป็น “ผู้นำทางการเมือง” ในระบอบรัฐสภาคนหนึ่ง เหมือนๆ กับผู้นำหรือแกนนำคนอื่นๆ ในพรรคการเมืองอื่น
ระบบรัฐสภาเป็น “เวที” ที่เปิดกว้าง ถ้าหากมี “ข้อสงสัยทางการเมือง” ในชั้นที่ถึงกับจะเป็น “อันตรายต่อระบบ” ศาลรัฐธรรมนูญก็จะทำหน้าที่เป็นผู้ชี้ขาด
คำชี้ขาดนั้นเรียกว่า “มติ”
มติ 7 ต่อ 2 จึงย่อมสะท้อนถึง “ทรรศนะ”
ทรรศนะของ “เสียงข้างมาก” เห็นว่า การที่พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินนั้นเป็นการ “รับบริจาคเงิน” ที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเชื่อว่า กระทำผิดมาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560
ให้ยุบพรรคการเมืองและตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี ห้ามมิให้กรรมการบริหารพรรคไปจดพรรคการเมืองใหม่ หรือมีส่วนร่วมตั้งพรรคใหม่ 10 ปี
คำตัดสินนี้คือ การจำคุกทางการเมือง 10 ปี ไม่มีอุทธรณ์ ฎีกา !
แต่ “เสียงส่วนน้อย” กลับมี “ทรรศนะ” ว่า ที่มาตรา 72 “เน้น” คือ การปกป้องพรรคการเมืองให้พ้นจากผู้มีอิทธิพลครอบงำซึ่ง “บริจาคเงิน”
มาตรา 72 ออกแบบมาเพื่อสกัดกั้น “เงินสกปรก” ที่ปูลาดไปสู่การยึดอำนาจรัฐ
ที่มาตรา 72 มุ่งสกัดคือ “แหล่งที่มา” ของเงิน ไม่ใช่วิธีการ (กู้ยืม)
คำแถลงที่แสดงความกังวลของสถานทูตแคนาดา ประจำประเทศไทย จึงน่าขบคิด
“สิทธิทางการเมืองขั้นพื้นฐานกำลังตกอยู่ในอันตราย” !?!!