รื้อรธน.-โละแผนชาติ โดย ศุกร์ มังกร

โรคระบาดไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ถือเป็น “มหันตภัย” ที่สร้าง “หายนะ” อย่างมหาศาลทั้งชีวิตมวลมนุษยชาติ เศรษฐกิจ การเมือง และสังคม

แม้พิษร้ายจาก “ศัตรูเชื้อโรค” ที่มองไม่เห็นแต่ติดต่อและแพร่ระบาดได้ง่ายยังไม่คลี่คลายและไม่รู้จะใช้เวลาอีกนานเท่าไร

หรืออย่างน้อยก็ใช้เวลาเป็นปีกว่าผลทดลอง ทดสอบ วัคซีน จะสามารถผลิตออกมาใช้หยุดยั้งไวรัสร้ายตัวนี้ได้

นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของโลก ชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ประเทศไทยก็เช่นกัน

Advertisement

ประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลง!?

หากไม่เตรียมการรับมือ ฟื้นฟู เยียวยา ประเทศตั้งแต่บัดนี้ อาจเป็นการวิ่งไล่ตามปัญหาเหมือนที่เป็นมาตลอด 3-4 เดือน

ดังนั้น สิ่งที่ควรรื้อ-โละ คือ

Advertisement

หนึ่ง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 ถ้าศึกษาให้ดี พิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนก็จะพบว่ากฎหมายสูงสุดฉบับนี้ นอกจากไม่เป็นประชาธิปไตยแล้ว ยังเขียนขึ้นมาเพื่อให้การสืบทอดอำนาจของ คสช.ดำเนินไปได้

ดั่งบทสรุปรวบรัดจากแกนนำ พปชร.ว่า “ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา”

โดยวางกลไกต่างๆ ไว้เป็นเครื่องมือ อาทิ ระบบเลือกตั้ง-การสรรหา ส.ว.-องค์กรอิสระหรือแม้กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่?

ซึ่งตลอด 3 ปีมานี้ โดยเฉพาะหลังจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นต้นมา

ล้วนแต่มีปัญหาสารพัน!?

หนึ่ง บทบัญญัติในหมวดที่ 16 ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศและบทเฉพาะกาล กลายเป็นสิ่งที่ล้าสมัยไปในพริบตาเมื่อเกิดโศกนาฎกรรมโควิด-19

หนึ่ง ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (2561-2580) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2561 “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว”

ที่เขียนเป็นคติพจน์ประจำชาติท่องจำกันขึ้นใจว่า “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”

หนึ่ง แผนปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน ที่ออกเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2561 อาทิ แผนปฏิรูปประเทศด้านการเมือง แผนปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ แผนปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน และแผนการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ฯลฯ

ลองพลิกไปอ่านคำนำ อารัมภบท สภาพการณ์ปัญหา ที่ปรากฏทั้งในแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ

ล้วนเป็นบริบทเดิมๆ!?

ณ เวลานี้ความหายนะ ความล่มจมมาเยือนแล้วเพราะโควิด-19 ไม่ต่างกับการเกิดสงคราม

เพียงแต่ไม่ได้รบราฆ่าฟันด้วยนิวเคลียร์ หรืออาวุธยุทโธปกรณ์

หากแต่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง!

ดังนั้น องคาพยพของขบวนการสืบทอดอำนาจข้างต้น ก็เสมือนเชื้อโรคร้ายที่แพร่เชื้อ “เผด็จการ”

จนนำไปสู่การเกิด “แฟลชม็อบ” แบบไฟลามทุ่งของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด

ที่ออกมาตะโกนขับไล่ “ผู้นำ” และให้ยุบองค์กรที่เป็นผลพวงของรัฐธรรมนูญ

ซึ่งรอวันปะทุอีกรอบ!

ยาหมดอายุกินไปมีแต่เป็นอันตรายต่อร่างกายฉันใด รัฐธรรมนูญและกลไกที่เป็นผลพวงถ้ายังอยู่ต่อไปก็รังแต่จะทำให้ชาติบ้านเมืองล้าหลัง ตกยุค

และพบกับความวิบัติหายนะมากยิ่งขึ้น!?!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image