ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
เผยแพร่ |
ถามว่าอะไรคือปัจจัยชี้ขาดทำให้ทัพ “อ้วนเสี้ยว” พ่ายแพ้ต่อทัพของ “โจโฉ” อย่างหมดรูปและอย่างสิ้นเชิงในการยุทธ์ที่กัวต๋อ
คำตอบ เพราะว่าโจโฉดำเนินกลยุทธ์ตามที่ “ซุนฮิว” เสนอ นั่นก็คือ
“ขอให้ท่านไปป่าวร้องว่าจะแบ่งทหารออกเป็น 2 ทาง ทาง 1 จะเข้าตีเมืองลิมหยงเพื่อตัดทางถอยของอ้วนเสี้ยว เมื่ออ้วนเสี้ยวได้ข่าวแล้วก็จะตกใจแบ่งกำลังออกต้านทานเรา (ทาง 1) เราก็ช่วงชิงโอกาสที่ทัพของเราเคลื่อนไหวอยู่นั้นบุกเข้าโจมตี”
อัน “หลี่ปิงเอี้ยน” และ “ซุนจิ้ง” สรุปจากตำราพิชัยสงครามของ “ซุนวู” ว่า
“รบสามัญด้วยการรบพิสดาร” นั่นก็คือ ทำให้ข้าศึกเข้าใจว่าเป็นการรบพิสดาร แต่เราเข้าใจโจมตีแบบสามัญ
“รบพิสดารด้วยการรบสามัญ” นั่นก็คือ ทำให้ข้าศึกเข้าใจว่าเป็นการรบแบบสามัญ แต่เราเข้าโจมตีแบบพิสดาร
ที่ว่า “รบพิสดาร” นั้นเสมอเป็นเพียง “กลลวง”
นั่นก็คือ ใช้สงครามข่าวสาร ปล่อยข่าวลือ สร้างความตระหนก กระทั่งอ้วนเสี้ยวจัดแบ่งกำลังออกเป็น 8 ทาง เพราะคิดว่าโจโฉจะรบแบบพิสดาร
เท่ากับเป็นการประสานการรบแบบสามัญเข้ากับการรบแบบพิสดาร
กลลวงที่ว่านั้นคืออะไร คือ การสร้างความตื่นตระหนกทางด้านการข่าว ทำให้อ้วนเสี้ยวจำเป็นต้องกระจายกำลังออกไปถึง 8 ทาง
เท่ากับอ้วนเสี้ยวเปิดแนวรบขึ้น 8 แนวรบพร้อมๆ กัน
การเปิดแนวรบหลายด้านเป็นข้อห้าม 1 ซึ่งทุกตำราพิชัยสงครามเตือนเอาไว้ว่าไม่สมควรกระทำ
เพราะทำให้ยากแก่การบังคับบัญชา
เพราะทำให้กระจัดกระจายกระทั่งในที่สุด ที่เคยเป็น “จุดแข็ง” กลับกลายเป็น “จุดอ่อน” และสร้างอาการพะว้าพะวัง
ต่อให้กำลังของอ้วนเสี้ยวมากกว่าโจโฉเพียงใด ก็แทบไม่มีความหมาย
ผลที่สุดกำลังของโจโฉก็รวมศูนย์เข้าพิชิตทัพหลวงของอ้วนเสี้ยว กระทั่งตัวอ้วนเสี้ยวเองต้องหนีกระเซอะกระเซิง
ยุทธนิยายสามก๊กสำนวนแปล วรรณไว พัธโนทัย บรรยายว่า
ทัพโจโฉตามมาถึงริมฟากน้ำ ฆ่าทหารอ้วนเสี้ยวตาย 80,000 กว่าคน เลือดไหลนองท่วมท้องธาร ศพลอยน้ำจำนวนนับไม่ถ้วน
แล้วทหารโจโฉก็เก็บทรัพย์สินข้าวของของทัพอ้วนเสี้ยวไปจนหมดสิ้น
การเปิดแนวรบหลายด้านจนเกินไปถือเป็นเรื่อง “ต้องห้าม” ไม่ว่าจะเป็นยุคของสามก๊ก ไม่ว่าจะเป็นยุคของจูหยวนจาง
ไม่ว่าจะเป็นการยุทธ์ในสมรภูมิ ไม่ว่าจะเป็นการยุทธ์ทางการเมือง
นโยบายแนวร่วมอันเสนอโดยโลซกให้กับซุนกวนจึงเป็นเรื่องดี นโยบายแนวร่วมอันเสนอโดยขงเบ้งให้เล่าปี่จึงเป็นเรื่องดี นโยบายแนวร่วมอันเสนอโดยสุมาอี้ให้โจโฉจึงเป็นเรื่องดี
เพราะ 1 เท่ากับตัดปัญหาเรื่องการเปิดแนวรบหลายด้าน
เพราะ 1 เท่ากับสามารถรวมศูนย์กำลังให้เป็นดั่งกำปั้นเหล็กกระหน่ำฟาดเอาชัยปรปักษ์ได้อย่างทรงพลัง
อ้วนเสี้ยวพ่ายแพ้โจโฉที่กัวต๋อเพราะถูก “กลลวง”
กลลวงจากกระบวนการ “ปล่อยข่าว” กระทั่งต้องกระจายกำลังและก่อสงครามหลายแนวหลายด้านจนเกินไป
ขณะที่โจโฉกำชัยได้เพราะสามารถรวมศูนย์กำลังเข้าตีอย่างเป็นฝ่ายกระทำ
แปรรบพิสดารเป็นรบสามัญ ประสานรบสามัญให้กลายเป็นรบพิสดารไปด้วยขณะเดียวกัน
ไม่ว่าแม่ทัพในสมรภูมิ ไม่ว่าแม่ทัพในสนามการเมือง จำเป็นต้องยึดกุมหลักการสร้างแนวรบให้มั่น
แม่ทัพที่ฉลาดย่อมเปิดแนวรบหลักเพียงด้านเดียว รวมศูนย์กำลังทุกอย่างที่มีอยู่ในมือเพื่อไปเอาชนะปรปักษ์ทางการเมืองให้จงได้
เมื่อใดที่เปิดแนวรบ “หลายด้าน” จนเกินไปก็เท่ากับละเมิดหลักการ