รบ.หนีฝ่ายค้านไม่พ้น โดย ศุกร์ มังกร

การเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลของแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

เสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อเสนอความเห็น หนทางแก้ไขปัญหาโควิด-19 และพิจารณาพระราชกำหนดกู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท จำนวน 3 ฉบับ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในทางการเมืองล้วนหลากหลายมุมมอง!

ทว่าการส่งระดับแกนนำ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ไปเอง แทนที่จะเป็นเจ้าหน้าที่พรรค

Advertisement

ถือว่าเป็นการให้เกียรตินายกฯเป็นอย่างยิ่ง!

กระนั้นบทสรุปแล้ว “บิ๊กตู่” คงไม่ “ตอบรับ” ข้อเรียกร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้าน

นั่นก็หมายความว่ารัฐบาลขอแก้วิกฤตโควิดระบาด วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตสังคมไปตามลำพังในฐานะฝ่ายบริหาร

Advertisement

“รัฐสภา” ซึ่งอยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติ โดยเฉพาะ “ฝ่ายค้าน” อย่ามาสะเออะ “แย่งซีน” ช่วงปิดสมัยประชุม

ทำให้เข้าใจได้ว่าไม่อยากฟังอภิปรายให้เสียเวลา น่ารำคาญ!

พรรคร่วมฝ่ายค้านเองคงทำใจรัฐบาลไม่ให้ร่วม “สังฆกรรม” ก็ไม่เป็นไร?

ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องได้ “อภิปราย” เมื่อเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ในวันที่ 22 พฤษภาคม

รัฐบาลจะหลบลี้หนีหน้าไปไหนไม่ได้!

เป็น “ไฟต์บังคับ” ที่รัฐบาลกับฝ่ายค้านต้องมาเผชิญหน้ากันบนเวที “สภา” และในคณะกรรมาธิการต่างๆ

ข้ออ้างว่ากลัวติดเชื้อไวรัสโควิด เหมือนที่อ้างมาตลอดระหว่างว่างเว้นการประชุมมา 3 เดือนคงไม่ได้แล้ว

แรกเริ่มที่โควิดออกฤทธิ์น่าสะพรึงกลัวและสภาเพิ่งปิดสมัยประชุมหลังศึกซักฟอกเสร็จสิ้น

“แฟลชม็อบ” ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา กำลังลุกลามบานปลายก็มีอัน “สงบศึก” ลงชั่วคราว

ขณะนั้นรัฐบาลได้เรียกร้องให้ฝ่ายค้านมาร่วมมือกันแก้วิกฤต กระแสสังคมก็อยากเห็น

สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน ออกคำแถลงว่าพร้อมจะร่วมมือกับรัฐบาล

แต่ไม่บังเกิดผล!

เหตุรัฐบาลไม่หยิบยื่นมิตรไมตรีไปถึงฝ่ายค้าน

ปากว่าตาขยิบ!

มีเพียง “ลิ่วล้อ” หางแถวหน้าเดิมของรัฐบาลออกมาโต้ตอบ สวนกลับฝ่ายค้านไม่เว้นแต่ละวัน

ท่ามกลางภาวะวิกฤตซ้อนวิกฤตครั้งนี้ ระยะห่างทางการเมืองระหว่าง “รัฐบาล” กับ “ฝ่ายค้าน” ขยายกว้างถ่างออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ

ฝ่ายค้านเองก็คงนั่งไล่นับวัน “สภาเปิด”!

เมื่อนั้นคงได้เห็นการทำหน้าที่ “ตรวจสอบ” อย่างเข้มข้น

ถึงตอนนั้นรัฐบาลจะมาตีขลุมต่อว่าฝ่ายค้านไม่ให้ความร่วมมือไม่ได้

“อาวุธ” ของฝ่ายค้านที่จะงัดออกมาใช้ “สัประยุทธ์” ในการทำหน้าที่ควบคุมรัฐบาลทั้งการอภิปรายพระราชกำหนด พ.ร.บ.เยียวยา พ.ร.บ.โอนงบฯ พ.ร.บ.งบประมาณปี’64

การเชิญรัฐมนตรีหรือหน่วยราชการมาชี้แจงในคณะกรรมาธิการ การเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฯลฯ

ณ วันนั้น แม้รัฐบาลจะ “ติดปีก” ก็มิอาจบินหนีฝ่ายค้านไปได้!?!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image