⦁…ค่อยๆ คลายล็อก เตรียมปล่อยผี “เฟส-2” ได้เฮกันในไม่กี่วันข้างหน้า “3 กลุ่ม” หลากหลายอาชีพได้เฮ หลังปิดตัวตายมาเดือนกว่าๆ จนไม่เหลือแม้กระทั่ง “เงินก้นถุง” ที่จะถูกเลขท้าย “ล็อต 2” อาทิ ภัตตาคาร-
สวนอาหาร-ร้านอาหาร-ห้างสรรพสินค้า-ศูนย์การค้า-สวนสนุก-ศูนย์ประชุม-ร้านค้าปลีก-เสริมสวย-กีฬากลางแจ้ง-นวดเฉพาะเท้า-ทีมถ่ายทำทีวี แต่มีข้อจำกัด ดูแล้วขำ อนุญาต “ไม่เกิน 5 คน” น่าจะ “ถ่ายทุกข์”
มากกว่า “ถ่ายแบบ”
⦁…แม้สถานการณ์แพร่ระบาด “โควิด-19” เกือบจะเข้าสู่ “ภาวะปกติ” แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังสงวนท่าที ไม่คลายเกลียวง่ายๆ คือ “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” โดยเฉพาะน่าจะลั่นดาลต่อไปอีกนาน คือ “ประกาศเคอร์ฟิว” ตรึงไว้ที่เก่าเวลาเดิม 22.00-04.00 น.
⦁…โดยเฉพาะสถานบริการกลางคืน ผับบาร์ สถานบันเทิงอื่นๆ ไม่ได้กลัวว่าจะมีใครแหกคิวมั่วสุมยามวิกาล แดกดื่มกันดึกดื่น แล้วจะเป็นห้องเครื่องให้ “โควิด-19” กลับมาโจมตีระลอก 2
⦁…แต่ว่ากันว่า ไฮไลต์หลัก ที่ต้องพึ่งบริการ “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” เพราะ “บิ๊กตู่” หลงใหลได้ปลื้มอำนาจที่มีอย่างท่วมท้นล้นเหลือ “เพียงผู้เดียว” ดังที่ทราบกันว่า หลังประกาศ “เคอร์ฟิว” ไม่มีใครกล้าหือกล้าอือ อำนาจไหลมา “รวมศูนย์” ที่คนคนเดียว “หัวหน้าพรรคร่วม” มิต่างอะไรกับขอนไม้ไร้ค่า
⦁…กลับไปที่ข่าวข้น “บมจ.การบินไทย” ที่ชงงบขอกู้เงินเพิ่ม 54,000 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟู และให้รัฐบาลค้ำประกันเพื่อนำเงินไปเสริมสภาพคล่องระยะสั้น ซึ่งปรากฏว่า ผู้คนทุกวงการ
⦁…ไม่ว่าอ้วน ต่ำ ดำเหม็น ไม่มีขาว ไม่มีดำ ไม่ว่าเหลือง-ไม่ว่าแดง ตีฆ้องร้องป่าวกันเสียงเดียว “ไม่เห็นด้วย” บ้างก็ว่า “เจ้าจำปี” ยังหมกเม็ด ไม่แค่เงินกู้ระยะสั้น 54,000 ล้านบาท ยังมี “แผนเพิ่มทุน” ตามมาอีก 80,000 ล้านบาท
⦁…การที่รัฐบาลไม่ว่าจะ “พล.อ.ประยุทธ์” หรือรัฐบาลไหนก็ตาม ทำไม่ได้ผิดกฎหมาย เพราะผู้ถือหุ้นร้อยละ 49 มีเอกชน-กองทุนต่างชาติ มี “กฎหมายห้าม” รัฐบาลค้ำเงินกู้ให้เอกชน ขืนค้ำไม่ดูตาม้าตาเรือ “ติดคุก” ลูกเดียว
⦁…เหนือสิ่งอื่นใด “การบินไทย” ขาดทุนติดต่อกันมา 3 ปี มีหนี้สินสะสมรวม 2.44 ล้านบาท ดังนั้น ไม่ควรย่างสามขุมเข้าไปอุ้มเผือกร้อนอีกต่อไป เอาเงิน 2 กอง จำนวน 134,000 ล้านบาท ที่จะนำไปถมทะเลการบินไทย สู้เอาไปช่วยคนจน 6-7 ล้านคนน่าจะดีกว่า
⦁…ถูกกวนปีก หมายทลายห้างให้ตกเก้าอี้ในช่วงสถานการณ์กำลังชุลมุนกับ “วิกฤตโควิด-19” สำหรับ “ฉัตรชัย ศิริไล” แต่ตอบโจทย์ด้วยผลงาน กับ 4 ปีที่ผ่านมา บนเก้าอี้ใหญ่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ “ธอส.” มีรูปธรรมจับต้องได้ สะท้อนจากตัวเลขทางการเงินด้านต่างๆ จนเป็นที่ประจักษ์
⦁…ในแง่ของผู้บริหารองค์กร สินทรัพย์รวมที่เพิ่มขึ้นจาก 9 แสนกว่าล้านบาทในปี 2558 เป็น 1.24 ล้านบาท ในปี 2562 คิดเป็นร้อยละ 38.37 ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั้งรายได้น้อย ปานกลาง ขณะเดียวกัน “ธอส.” ยังสนับสนุนนโยบายรัฐบาล “บิ๊กตู่” ที่มุ่งเน้นให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง
⦁…สรุป 4 ปีที่ “ฉัตรชัย ศิริไล” นั่งเก้าอี้ตัวใหญ่ใน “ธอส.” นอกจากเครื่องหมายทางการค้าอันเป็นผลงานแล้ว ยังการันตีด้วยรางวัลจากองค์กรต่างๆ มากมาย ทั้งผลการดำเนินงานเป็นเลิศในระดับมาตรฐานโลก
รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ มาแล้วอีกมากมาย
พลุน้ำแข็ง
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่