เห็นใจเถิดเห็นใจบ้าง โดย เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์

สมาชิกสภานิติบัญญัติ หรือสมาชิกรัฐสภา มี 2 สภา คือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาจากการเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อ และสมาชิกวุฒิสภาชุดแรกให้เป็นไปตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

หน้าที่สำคัญของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคือนำเสนอกฎหมาย แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย และอื่นๆ ที่เกี่ยวกับกฎหมาย รวมทั้งไว้หรือไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรี กับนำเสนอให้รัฐบาลแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน การเสนอให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญ ส่วนการเปิดสมัยประชุมสมัยสามัญ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ กราบบังคมทูลฯ ฯลฯ

ขณะนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนหนึ่งจะเสนอให้เปิดประชุมวิสามัญ แต่เนื่องจากอยู่ในภาวะสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด และยังไม่ยุติลง ซึ่งรัฐบาลอยู่ระหว่างการแก้ไขเพื่อให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว แต่ยังไม่สามารถกระทำได้ เป็นเพียงบรรเทาและลดการแพร่ระบาดลงไปได้บ้าง

ดังนั้น ไม่น่าเชื่อว่าการพูดจาปราศรัยในภาวะเดียว คือภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะนี้ จะนำไปสู่การแก้ไขของรัฐบาลหรือของใคร ขอให้เป็นหน้าที่ของการสาธารณสุข และการแพทย์ ซึ่งแม้ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายคนจะมีอาชีพเดิมเป็นแพทย์เป็นพยาบาล แต่น่าจะเป็นเรื่องของแพทย์พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ในปัจจุบันเป็นผู้ติดตามแก้ไขเพื่อให้การบรรเทาของเชื้อไวรัสให้ลุล่วงไปด้วยดีน่าจะดีกว่า

Advertisement

ด้วยการพิจารณาแก้ปัญหาเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บเป็นเรื่องทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูงโดยตรง ไม่ใช่เรื่องการแสดงความคิดเห็นของบุคคลในวงการอื่นที่แม้จะทราบเรื่องโรคภัยไข้เจ็บบ้าง แต่เรื่องของไวรัสครั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเฉพาะกาล และน่าจะต่อเนื่องมาในเวลาพอสมควร ทั้งยังเป็นความร่วมมือในวงการแพทย์และวงการสาธารณสุขทั้งระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการและระดับวิชาการชั้นสูง

เท่าที่ทราบและปรากฏเป็นข่าว นักวิชาการทางการแพทย์ทั้งของไทยและของวงการทั่วโลกอยู่ระหว่างคิดค้น “วัคซีน” เพื่อทำการรักษาป้องกันไวรัสตัวนี้อย่างขะมักเขม้น ทั้งในขั้นการทดลอง เห็นว่าน่าจะสำเร็จลุล่วงไปในไม่นานนี้

เรื่องที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะหยิบยกนำมาพูดจากัน น่าจะเป็นเรื่องการช่วยเหลือประชาชนที่ตกอยู่ในภาวะขาดแคลน โดยเฉพาะเรื่องทางเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลใช้วิธีการยับยั้งการแพร่กระจายของโรคด้วยการใช้กฎหมายบังคับเรื่องการทำมาหากิน การเดินทาง และการไปมาหาสู่กัน ซึ่งประชาชนในอาชีพและวิชาชีพต่างปฏิบัติตามด้วยดี แม้จะมีผู้ละเมิดบ้างเป็นเรื่องของบุคคลที่ไม่เดือดร้อนเรื่องการทำมาหากิน และทำไปเพื่อประโยชน์ของตัวเอง

Advertisement

ประการสำคัญ เมื่อรัฐบาลใช้กฎหมายเพื่อยับยั้งการกระทำบางอย่าง เป็นเหตุให้คนยากจนหาเช้ากินค่ำ และหากินตามชายเฟือยเดือดร้อน ซึ่งแม้ว่าทั้งรัฐบาลและภาคเอกชนจะปฏิบัติหน้าที่และช่วยกันดูแลเรื่องข้าวปลาอาหาร แต่เป็นมื้อเป็นคราว
รัฐบาลต้องไม่ลืมว่า ในระยะยาวบรรดาผู้หาเช้ากินค่ำ และหากินตามชายเฟือย ซึ่งในยามปกติย่อมหากินได้ปกติ แม้จะวันต่อวัน แต่เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้จึงทำให้ประชาชนบางส่วน “อดอาหาร” และไม่สามารถทำงานหาเงินมาใช้วันต่อวันได้ ทั้งกลางวันและกลางคืน

กับประชาชนบางส่วนที่เป็นผู้สูงอายุซึ่งยังปฏิบัติหน้าที่การงานได้ โดยเฉพาะต้องอาศัยความเป็นผู้มีประสบการณ์ไปประชุมเป็นคณะกรรมการ อนุกรรมาธิการ อนุกรรมการ พอจะมีรายได้ช่วยตัวเองบ้าง เป็นอันหมดรายได้ ซึ่งเป็นเบี้ยประชุมที่เคยได้รับสำหรับผู้ที่ไม่มีบำนาญกับใครเขา

ดังนั้น การคลี่คลายปรับเวลาให้ผู้สูงอายุมีโอกาสเดินทาง โดยที่ตัวผู้สูงอายุเองต้องป้องกันตัวเองและดูแลตัวเอง มีโอกาสออกไปปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการในการประชุม โดยให้หน่วยงานนั้นมีการประชุมบ้างเดือนสองเดือนครั้งก็ยังดีกว่าระงับการประชุม หวังว่าในรอบเดือนต่อไปรัฐบาลควรจะผ่อนปรนเรื่องนี้บ้าง จะดีไม่น้อย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image