ด้วยท่วงทำนองของครูบาอาจารย์กับสถานะของคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อ นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา กล่าวถึง “โควิด-19” ทำให้ผู้คนต้องสนใจรับฟัง
โปรดฟังอีกครั้ง !
“ผมยืนยันว่า มีแน่ รอบแรกคนตายจำนวนหนึ่ง แต่รอบสองคนตายมากกว่ารอบแรกกว่าเท่าตัว ถ้า 1 วันมีคนติดเชื้อ 100 คน มันกระจายไปแล้ว เวลากระจายมันคูณยกกำลังสอง ไม่ได้คูณสอง”
นับเป็นวรรคทองที่ชวนสยอง !
รอบแรกโควิด-19 ระบาดในประเทศไทยมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกราคม 2563 ประจักษ์แล้วว่า คนไทยตั้งใจติดตามรับฟังข้อมูลข่าวสารการแพร่ระบาดพร้อมกับร่วมมือกันปฏิบัติตามคำชี้แนะของทางการอย่างดียิ่ง
ผลปรากฏตามที่ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ กูรูด้านเศรษฐกิจบรรยายเอาไว้เมื่อวันก่อนคือ เรามีเตียงไว้ 15,000 เตียง เราสามารถทดสอบโรคได้วันละ 200,000 ราย มีห้องแล็บทั่วประเทศมากถึง 167 ห้อง และมีห้อง
“ไอซียู” ที่คอยไว้ 2,000 ห้อง ยังไม่ได้ใช้เลย
เป็นที่แน่ชัดว่า “โควิด-19” เสมือนสินค้านำเข้า
หากว่า “คัน” ก็ต้อง “เกา” ให้ถูกจุด !
คำพูดของ “หมอประสิทธิ์” ผู้สันทัดด้านระบาดวิทยาดุจดัง “กระสุน” ที่ถูกลั่นไกออกไป
นัดแรก เกรงว่าจะยังไม่สงบสนิท
สับไกซ้ำเป็นนัดที่สองว่า
“บางคนเข้าใจว่าผมต้องการออกมาขู่ ถ้าเราดูประวัติ (โควิด-19) ที่ผ่านมาถึงวันนี้ ผมติดตามทุกประเทศทุกวัน ผมถึงมั่นใจว่ารอบสอง มาแน่”
“โควิด-19” คุกคามโลกมาเกือบครึ่งปีจนถึงในวันนี้ไม่เพียงแต่ “หมอประสิทธิ์” เท่านั้นที่สนใจติดตามสถานการณ์ในทุกประเทศและทุกวัน
ผู้อื่นคนอื่นก็ติดตามทุกประเทศทุกวัน
ไม่ควรทำให้การพยากรณ์สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 คล้ายคำทำนายหมอผีในตำนานภูติ
“โควิด-19” ไม่ใช่ความลี้ลับ
ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่พัฒนามาไกลทำให้ความเข้าใจและการรับมือกับ “โควิด-19” นั้นแตกต่างไปจาก “ไข้หวัดสเปน” เมื่อปี ค.ศ.1918 เป็นอย่างมาก
ผู้มีความรู้ ผู้มีหน้าที่ ผู้มีความปรารถนาดีอย่าได้ใช้วิธี “ข่มขู่” หรือใช้อำนาจ “ปิดกั้น” เสรีภาพในการดำเนินชีวิต
ที่ควรทำคือชวนให้คิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์แล้วช่วยกัน “ยกระดับ” ด้านสุขอนามัยของคนไทยให้ดีขึ้นด้วยความรู้ !?!!