โรงเรียนเปิดแล้วโควิด-19žยังไม่จบ

ถ้านับจากวันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน ก็เหลืออีกเพียง 12 วัน โรงเรียนจะเปิดเทอม
วันที่ 1 กรกฎาคมนี้แล้ว เด็กๆ พากันดีใจจะได้ไปโรงเรียน พบหน้าเพื่อนพ้องน้องพี่ เจอคุณครู แต่พ่อแม่ ผู้ปกครองวิตก หวั่นไหว

แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยคลี่คลายลง ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่กลายเป็นศูนย์ แต่กระแสสังคมที่มีต่อการเปิดโรงเรียน ยังสะท้อนให้เห็นถึงความประหวั่นพรั่นพรึง ไม่มั่นใจในความปลอดภัยอยู่ไม่น้อย

ด้วยความเป็นห่วงบุตรหลาน เด็กเล็กจนถึงเด็กโตจะตกอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงของการ กระจายเชื้อจนเป็นเหตุของการกลับมาแพร่ระบาดใหม่อีกครั้ง คณะแพทย์พยากรณ์ว่า หากเกิดขึ้นจะรุนแรงยิ่งกว่าครั้งแรกมากนัก ซึ่งยังไม่จบสิ้นเพราะยังไม่มีวัคซีนป้องกันและกำจัดเชื้อโรคร้ายให้หมดไป

แต่อีกกระแสความคิดหนึ่งก็ยืนยันว่า การศึกษาหาความรู้ การเล่าเรียนเขียนอ่านของเด็กเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ควรหยุดยาวนานขนาดนี้ ขณะที่การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ต่างๆ จะให้สถานบันเทิงเปิดก่อน ผู้คนเลยพากันตำหนิติเตียน จะให้เปิดแหล่งอบายมุข สถานบันเทิง
เริงรมย์ก่อนเปิดโรงเรียน

Advertisement

เป็นไปได้อย่างไร อบายมุข ความสนุกสนานรื่นเริงบันเทิง มาก่อนการศึกษาหาความรู้ ต้องเปิดโรงเรียนก่อนเปิดสถานบันเทิง ถึงจะถูกต้อง

ฝ่ายบันเทิงก็แย้งว่า เป็นเรื่องของปากท้อง การมีงานทำ มีเงินมาจับจ่ายใช้สอย ซื้ออาหารใส่ท้องเพื่อความอยู่รอด ไม่เช่นนั้นจะอดตายเพราะไม่มีจะกินเสียก่อน ตายเพาะเชื้อโรคโควิด

ครับ ต่างฝ่ายต่างล้วนมีเหตุผล น่าฟัง น่าเห็นใจด้วยกันทั้งคู่
กลับมาที่โรงเรียนกันดีกว่า ท่ามกลางสถานการณ์กำลังจะดำเนินไป หน่วยงานที่รับผิดชอบสำคัญ คือกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขเตรียมมาตรการรับมืออย่างไร ทั้งด้านสาธารณสุข การระวังป้องกันและการรักษาเยียวยา และด้านการศึกษา การจัดการสภาพแวดล้อมของโรงเรียน ห้องเรียน และการจัดการเรียนการสอนทำอย่างไร

Advertisement

ผมพอทราบข่าวสารความเคลื่อนไหวมาบ้าง เลยถือโอกาสเก็บมาเล่าสู่กันฟังต่อ ช่วยกันถ่ายทอดออกไปเพื่อความร่วมมือร่วมใจในการปฏิบัติ ลดความตื่นตระหนก เปลี่ยนเป็นความตระหนักให้ได้มากที่สุด

กระทรวงศึกษาธิการกับกระทรวงสาธารณสุขประชุมปรึกษาหารือถึงมาตรการที่จะดำเนินการของแต่ละฝ่ายมาตลอด แนวทางปฏิบัติออกมาดังนี้

จัดทีมงานรับผิดชอบประสานงานด้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในโรงเรียน / เฝ้าระวังการขาดเรียน/ขาดสอน การป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ / ห้องพยาบาลและหน้ากากอนามัย / ค้นหากลุ่มเสี่ยงทั้งในครูและนักเรียน / การรับประทานอาหาร การจัดสถานที่ เหลื่อมเวลา ผู้ประกอบอาหาร / รถรับส่งนักเรียน / เจ้าหน้าที่ / ชี้แจง และขอความร่วมมือจากนักเรียน ผู้ปกครอง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง / ครู นักเรียน เจ้าหน้าที่ ผู้เข้ามาขายอาหารหากมีอาการ ไม่ควรมาโรงเรียน

จัดห้องเรียนและสถานที่ให้มีระยะห่าง มีการระบายอากาศ / คัดกรองทุกคนที่เข้าโรงเรียน / สนับสนุนให้ทุกคนในโรงเรียนล้างมือบ่อยๆ / การทำความสะอาดอุปกรณ์ สถานที่ ห้องน้ำ / ใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย/ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องมีการนำนักเรียนจำนวนมากมารวมตัวกัน

มาตรการด้านการเรียนการสอน จัดสภาพแวดล้อม ของโรงเรียน ห้องเรียน กระทรวงศึกษาธิการแจ้งให้ทุกโรงเรียนเตรียมการปฏิบัติอย่างแข็งขัน ก่อนวันเปิดโรงเรียนจะมาถึงดังนี้

จัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน ใช้รูปแบบการเรียนรู้หลากหลาย ในห้องเรียนผสมผสานกับการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ครูและนักเรียนไม่ได้เผชิญหน้ากัน การใช้แหล่งเรียนรู้ที่มีอยู่หลากหลาย เป้าหมายอยู่ที่การเรียนรู้ของนักเรียนเป็นสำคัญ

โรงเรียนสามารถเลือกรูปแบบการจัดการเรียนการสอนได้ / การสลับชั้นมาเรียนของนักเรียน แบบสลับวันเรียน / แบบสลับวันคู่
วันคี่/ แบบสลับวันมาเรียน 5 วันหยุด 9 วัน / การสลับช่วงเวลามาเรียนของนักเรียนแบบเรียนทุกวัน /การสลับกลุ่มนักเรียนแบบแบ่งนักเรียนในห้องเรียนเป็น 2 กลุ่ม / รูปแบบหรือวิธีอื่นๆ

ครับ การมอบหมายแนวทางปฏิบัติระหว่างหน่วยงานด้วยกันเอง กระทรวงฯกับเขตพื้นที่การศึกษา กับโรงเรียน ก็ดำเนินการกันไป

แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การสื่อสารสาธารณะ สื่อสารกับสังคม พ่อแม่ผู้ปกครองในวงกว้างให้ได้รับรู้ เกิดความเข้าใจตรงกัน

ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ต้องเปิดเวทีแถลงใหญ่ร่วมกัน พร้อมกัน ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาให้เอิกเกริก อึกทึกครึกโครม ก่อนวันเปิดเทอมจะมาถึง

การ์ดถึงจะไม่ตก ตระหนกก็จะกลายเป็นตระหนัก อย่างที่ควรจะเป็น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image