ระเบิด การเมือง ประกาศ ภาวะฉุกเฉิน การปรับ ‘ครม.’

ระเบิด การเมือง ประกาศ ภาวะฉุกเฉิน การปรับ ‘ครม.’

การดำรงคงอยู่ของรัฐมนตรีใน “กลุ่ม 4 กุมาร” ก็เหมือนกับการดำรงคงอยู่ของ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

เหมือนกับมี “ประโยชน์” แต่ก็มี “ปัญหา”

มีประโยชน์เพราะว่าในสภาวะที่ “ตัวเลือก” เหลืออยู่น้อยเป็นอย่างยิ่ง การคงอยู่ของ “เทคโนแครต” ในแบบของ “กลุ่ม 4 กุมาร” มีมูลค่า

มีมูลค่าหากเทียบกับการเสนอตัวเข้ามาของ “นักการเมือง”

Advertisement

มีประโยชน์เพราะว่าการยืดเวลาประกาศและบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยาวนานออกไปเป็นผลดีกับนายกรัฐมนตรี

อย่างน้อยก็กำราบมิให้เกิดสถานการณ์ Flash Mob ขึ้น

แม้จะมีการเคลื่อนไหวติดริบบิ้นและโบ แม้จะมีการเคลื่อนไหวอ่านแถลงการณ์คณะราษฎร แต่ก็สามารถสกัดและขัดขวางได้

Advertisement

นี่ย่อมเป็นเรื่อง “ดี” มี “ประโยชน์”

กระนั้น ก็ต้องยอมรับว่าปัญหาโกลาหลซึ่งปรากฏขึ้นอย่างอึกทึกครึกโครมจากเดือนเมษายน เรื่อยมาจนถึงเดือนกรกฎาคม

ล้วนเป็นผลสะเทือนจากประกาศ “ฉุกเฉิน”

ล้วนเป็นความต่อเนื่องจากที่สังคมตกอยู่ในสถานการณ์ปิดเมือง ปิดงาน ปิดรายได้ การเคลื่อนไหวในทางเศรษฐกิจงันชะงัก

แม้จะคลายล็อกลง แต่ปัญหายังแพร่กระจายออกไป

เกิดสภาพอย่างที่เรียกกันติดปากว่า “นิว นอร์มอล” ไม่ว่าในทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าในทางการเมือง ไม่ว่าในทางวัฒนธรรม

เรียกร้องเศรษฐกิจใหม่ การเมืองใหม่ วัฒนธรรมใหม่

แต่แล้วความเป็นจริงที่ทุกฝ่ายต้องประสบอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้พ้น คือ สภาพอย่างที่เรียกว่า “โอลด์ นอร์มอล” โดยพร้อมเพรียงกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สงครามแย่ง “ชามข้าว” ทางการเมือง

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะยืนยันไม่มีการปรับ ครม.ในตอนนี้ แม้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะออกมาขานรับว่า การปรับ ครม.ยังอยู่อีกนาน

แต่ภาพฝังจำในทางการเมืองคืออะไร

คือภาพแห่งความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐที่มิอาจประนีประนอมกันได้จำเป็นต้องรุกไล่และบดขยี้อีกฝ่ายลงไป

เห็นได้จากการยื่นใบลาออกของ 18 กรรมการบริหาร

เห็นได้จากการกดดันให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้าแทนที่ นายอุตตม สาวนายน การกดดันให้ นายอนุชา นาคาศัย เข้าแทนที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์

จากนั้นก็รอคอยการเข้าแทนที่ในตำแหน่ง “รัฐมนตรี”

คิดหรือว่าเพียงการออกมาปรามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะยับยั้งได้ คิดหรือว่าเพียงการออกมาใช้บริการของ “ฤๅษีเกวาลัน” จะยับยั้งได้

เพราะคำยืนยันจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน คือการรอ

ไม่ว่าการคงภาวะ “ฉุกเฉิน” ในทางการเมือง ไม่ว่าทอดเวลาในการ “ปรับ ครม.” ให้ยาวนานออกไปโดยไม่มีกำหนดที่แน่นอน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน คงรอไม่นานนัก

หากสถานการณ์เร่งเร้าต่อการคงอยู่ของภาวะ “ฉุกเฉิน” ทวีความร้อนแรงอย่างไร การเร่งเร้าในเรื่องการ “ปรับ ครม.” ก็คงไม่ยุติลงอย่างง่ายดาย

ทั้งหมดคือ “ระเบิด” ที่รอคอยการปะทุตามมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image