การเมืองที่ว่า-วัดด้วยจำนวนมือจริงๆ พอเอาอยู่ เสียง ส.ส.ปริ่มน้ำ กระเตื้อง โดดร่ม แวบเข้าห้องน้ำ ปลดทุกข์ได้ชิลขึ้น
แต่วิกฤตเศรษฐกิจนี่สิ จะพาล่ม-จมเอา
อยู่ 4 ปี ครบเทอมมันเป้าหมาย ไต่เพดานบินให้ถึง
แต่วันนี้ ‘บิ๊กตู่’ อาจต้องประเมินใหม่รายไตรมาส-รายปี
ฝ่าทีละด่าน สะสมแต้มเพิ่มอายุขัยรัฐบาล
ปัญหาภายใน ไม่เป็นขบวนบริหารก็อีกตัวถ่วง พลังประชารัฐยุ่งป่วน ระหว่างพรรคร่วมด้วยกัน ซ้อนทับอีกระดับ
แม้เหมือนดูบริหารจัดการได้ง่าย แต่อะไรต่อมิอะไรที่ค้างคา หากไม่จบสะเด็ดน้ำ
ก็จะยิ่งซ้ำเติม เพิ่มปัญหา
โควิดพิษแรง เศรษฐกิจเลวร้าย ขืนไม่ผนึกสู้ล่อตอดกันต่อ
บรรลัยก็ถามหา
รัฐบาลผสมร้อยพ่อพันแม่ ถ้าไม่รู้จุดตาย ต้องโฟกัสอยู่ตรงไหน
สู้แย่งกันเป็นใหญ่เป็นเรื่องหลัก บริหารแก้ปัญหาวิกฤตประเทศเป็นเรื่องรอง ละก็
อย่าว่าแต่ 4 ปี ครึ่งหนึ่งจะถึงหรือไม่ ยังเป็นคำถาม
โรคระบาดคลี่คลาย แต่ทิ้งเชื้อร้ายทั่วโลก-ยันไทย
สำนักต่างๆ ประเมิน อย่างต่ำปีครึ่งถึง 2 ปี เศรษฐกิจจะกลับมาเหมือนก่อนโควิด
แต่ก็อยู่ใต้เงื่อนไขการบริหารจัดการที่ดี ไม่ใช่อยู่เฉยแล้วฟื้นเอง
‘บิ๊กตู่’ นั่งหัวโต๊ะสั่งการ สัปดาห์ที่ผ่านมา ฟื้นประชุม ครม.เศรษฐกิจ
ให้ความสำคัญกับอีเวนต์ ฟื้นฟูซากปรักหักพังปากท้องประชาชน
ถกเดือนละ 4 ครั้ง หลายคนบ่น 2 ครม.เท่ากับเดือน 8 ครั้ง จะมีเวลาทำงานหรือไม่ (ฮา)
แต่ที่ต้องจับตา ก็ รมต.บิ๊กเนม ขาประจำโดดร่ม
วิกฤตขนาดนี้ยังจะถือว่าธุระไม่ใช่
‘ลิงเก็บมะพร้าว’ อีกหรือไม่