รอครับรอ รัฐบาลวิถีใหม่ : โดย เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์

รอครับรอ รัฐบาลวิถีใหม่ : โดย เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์

ผ่านพ้นอภิปรายงบประมาณไปตั้งแต่วันศุกร์ก่อน 3 กรกฎาคม 2563 ยิ่งสร้างความเบาใจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่เริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ “จ้า” ขึ้นอีกอักโข ถึงวันนี้ “โควิด-19” คลี่คลายไปมาก รอแต่ว่า ปลายเดือนนี้จะยกเลิก “ภาวะฉุกเฉิน” ตามคำเรียกร้องของประชาชนได้หรือไม่

คนทำมาหากินครับท่าน หากไปไหนมาไหนด้วยความสบายใจ ไม่ต้องมาคอยพะวงว่าทำไอ้โน่นก็ต้องระวัง ทำไอ้นี่ก็ต้องระแวง อย่างนี้การทำมาหากินจะคล่องตัวได้อย่างไร จริงแมะ

คำแถลงของการณ์ของนายกรัฐมนตรีเมื่อกลางเดือนก่อนที่ว่า “แม้ยังประกาศชัยชนะที่เรามีต่อโควิดได้ไม่เต็มที่นัก แต่อย่างน้อยเรารู้ว่า การระบาดของโควิดลดลงไปอยู่ในระดับที่เราสามารถควบคุมได้ และได้รับการยอมรับว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่รับมือกับโควิดได้ดีที่สุดในโลก” แม้ต้องรักษา “การ์ดไม่ตก”

เมื่อผ่านวิกฤตมาแล้วสองระลอก คือภายในพรรคพลังประชารัฐเรื่องเปลี่ยนแปลงหัวหน้า และกรรมการพรรค กับภายในสภาผู้แทนราษฎรเรื่องงบประมาณ ความท้าทายอีกเรื่องหนึ่งคือการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีที่มีคณะเศรษฐกิจเป็นสำคัญ

Advertisement

ขณะที่ต้องปรับปรุงการทำงานของรัฐบาล “วิถีใหม่” ที่ พล.อ.ประยุทธ์แบ่งออกเป็น 3 ประเด็น คือ

1.ผนึกทุกภาคส่วน ร่วมวางแผนอนาคตประเทศไทย ด้วยการ “เปิดโอกาสให้ประชาชนซึ่งเป็นผู้จะได้รับผลจากนโยบายเหล่านั้น ได้มีส่วนร่วมมากขึ้น ไม่ใช่แค่รับรู้นโยบายจากการอ่านข่าวหนังสือพิมพ์หรือสื่อออนไลน์เหมือนที่ผ่านมา ต่อไปนี้ประชาชนต้องมีโอกาสมีส่วนร่วม รัฐบาลต้องได้ยินเสียงของประชาชน และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนให้มากขึ้น” (แหะ – แหะ เมื่อก่อนก็ได้ยินเสียงของประชาชนครับ แต่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องว่าประชาชนพูดเรื่องอะไร)

วันนี้แต่ละภาคส่วนมีใครเสนอ “วิสัยทัศน์และความคิดในการเปลี่ยนโฉมภาคส่วนของตนเพื่อพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าให้ไกลขึ้นบ้าง” – ตามที่นายกรัฐมนตรีขอมา

Advertisement

“คนไทยทุกคนมีความสามารถและมีบทบาทที่จะช่วยนำพาประเทศไทยก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นรัฐมนตรี ข้าราชการ เจ้าของธุรกิจ พนักงานบริษัท คนประกอบอาชีพต่างๆ เกษตรกร ครู หรือตัวแทนจากภาคประชาสังคม ทุกคนมีบทบาทที่จะช่วยประเทศได้” พล.อ.ประยุทธ์ย้ำ แล้วยอมรับว่าไม่เก่งเศรษฐกิจ แต่ “จริงใจและไม่แก้ปัญหาอย่างมักง่าย”

วันนี้ พระราชบัญญัติการเงิน 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท ผ่านสภาไปเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ในวาระแรก ดังนั้น “ทางเลือกสุดท้าย” ที่จะกู้เศรษฐกิจของประเทศเริ่มดำเนินการได้ ขอเพียงแต่โปรดใช้จ่ายให้รัดกุม อย่าให้รั่วไหลได้เท่านั้นเป็นพอ

ส่วนข้อ 2 การประเมินผลงานของภาครัฐโดยผู้มีส่วนได้เสียตัวจริง (คือประชาชน) พล.อ.ประยุทธ์บอกจะเปิดโอกาสให้ประชาชนมีบทบาทในการประเมินผล และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ให้ผู้บริหารระดับสูงในรัฐบาลได้รับทราบโดยตรงด้วย

มาถึงข้อ 3 การทำงานเชิงรุก นายกรัฐมนตรีบอกว่า โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่าง “รวดเร็วและรุนแรง” รัฐบาล (นี้) ต้องทำงานให้บูรณาการมากขึ้น “โดยจะกำหนดนโยบายสำคัญเร่งด่วนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่จะสร้างประโยชน์ให้เกิดกับประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรมให้กับกระทรวง ทำขึ้นมาขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี โดยผมจะติดตามกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นจริง อย่างมีประสิทธิภาพ”

ทั้งหมดนี้ นายกรัฐมนตรีบอกว่า อาจมีเสียงคัดค้าน ไม่เห็นด้วยเรื่องวิธีทำงานแบบใหม่ ซึ่งก็พร้อมรับฟังและแก้ไขตาม หากมีข้อเสนอแนะที่ดี

การทำงานในรูปแบบ “วิถีใหม่” ประการแรกที่จะทำได้ คือต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดก่อนว่าวิถีชีวิตเก่าคืออะไร และทำให้เกิดอะไร แล้วอย่าไปคิดถึงมันอีก

ส่วนวิถีใหม่ ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ต้องลองผิดลองถูกกันสักพัก ให้พี่น้องเขามีส่วนร่วมแท้จริง ดีไหม

เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image