ผู้เขียน | โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ |
---|
ความเป็นไปได้ที่สหรัฐอเมริกาจะมี
รองประธานาธิบดีเป็นคนอเมริกันเชื้อสายไทย
คู่แข่งชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ อเมริกากับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในเดือน
พฤศจิกายนที่จะถึงนี้คือ นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสองสมัยของ ประธานาธิบดีบารัค
โอบามา ได้เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างแน่นอนแล้ว แต่ นายโจ ไบเดน จะมีอายุ 78 ปี หากเขาได้รับชัยชนะในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ดังนั้น นายโจ ไบเดน จะเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว เพราะประธานาธิบดีที่แก่ที่สุดนับถึงวันพ้นจากตำแหน่งก็คือ โรนัลด์ เรแกน ซึ่งครบวาระเมื่อ พ.ศ.2532 ด้วย
วัย 77 ปี เท่ากับไบเดนในปีนี้ ดังนั้น อีกตำแหน่งที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่าตำแหน่งประธานาธิบดีก็คือตำแหน่งรองประธานาธิบดีที่เป็นทายาททางการเมืองอันดับหนึ่งของประธานาธิบดีในกรณีที่ประธานาธิบดีตายหรือปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ซึ่งนายโจ ไบเดน ได้ประกาศว่าเขาจะเฟ้นหาผู้หญิงมาเป็นคู่ชิงชัยในตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับเขา และกำหนดที่จะประกาศนามผู้ที่จะเป็นคู่ชิงชัยในตำแหน่งรองประธานาธิบดีร่วมกับเขาในเดือนหน้าคือเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
ปรากฏว่ามีรายชื่อสตรีที่มีศักยภาพที่จะดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในวาระที่สำคัญนี้ มีนับสิบคนและพวกแรกๆ ก็คือบรรดาสตรีที่เสนอตัวเข้าชิงชัยเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตนั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอยู่แล้ว
จนกระทั่ง นางเอมี่ โคลบะชาร์ วุฒิสมาชิกจากมลรัฐมินนิโซตาซึ่งเป็นตัวเต็งคนหนึ่งที่อยู่ในข่ายจะได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นผู้สมัครรองประธานาธิบดีคู่กับนายโจ ไบเดน ได้ประกาศขอถอนตัวออกจากการพิจารณาโดยขอเปิดโอกาสให้นายโจ ไบเดน เลือกเอาตัวแทนที่เป็นสตรีผิวสีจะเหมาะสมกว่าจึงเป็นเหตุให้เกิดกระแสที่จะสนับสนุนสตรีผิวสีให้เป็นผู้สมัครเป็นรองประธานาธิบดีคู่กับนายโจ ไบเดน เพิ่มขึ้นอีกโสตหนึ่ง
ตามธรรมเนียมปฏิบัติของพรรคการเมืองหลัก ทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีนั้น ต้องพิจารณาถึงสิ่งที่เรียกว่า “balancing ticket” คือการเลือกตัวแทนของพรรคที่จะลงสมัครเป็นรองประธานาธิบดีคู่กับผู้สมัครเป็นตัวแทนของพรรคในตำแหน่งประธานาธิบดีต้อง
ดูตามหลักภูมิศาสตร์ ประชากรศาสตร์ และศาสนาว่าต่างเกื้อกูลช่วยเสริมแรงให้แก่กันและกัน ดังตัวอย่างเช่นนายโจ ไบเดน เคยเป็นวุฒิสมาชิกจากมลรัฐเดลาแวร์ซึ่งเป็นมลรัฐที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค “The Middle Atlantic” ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือเช่นกัน แต่ถัดลงมาทางใต้ของภูมิภาค New England ซึ่งจะมีอากาศที่อบอุ่นกว่าโดยเฉพาะเขตตอนล่างซึ่งอยู่ส่วนกลางของประเทศ ประกอบด้วยมลรัฐนิวยอร์ก, นิวเจอร์ซี, เพนซิลเวเนีย, เดลาแวร์ และแมรีแลนด์ ซึ่งทั้ง 2 ภูมิภาคนี้ประชากรมีแนวโน้มทางเสรีนิยมและมักเลือกพรรคเดโมแครตอยู่แล้ว
ในทำนองเดียวกันทางภูมิภาค West มีเขตแดนอยู่ติดกับมหาสมุทรแฟซิฟิกจึงมีอากาศดี ส่วนทางตอนบนใกล้กับแคนาดาส่งผลให้มีอากาศหนาวเย็น แต่สามารถอยู่ได้อย่างสบายๆ ว่ากันว่าเป็นเขตที่อากาศดีที่สุด ได้แก่ รัฐไวโอมิง, มอนทานา, ยูทาห์, แคลิฟอร์เนีย, ไอดาโฮ, โอเรกอน, วอชิงตัน, เนวาดา, โคโลราโด (รวมถึงอลาสกาและฮาวาย) ประชากรส่วนใหญ่ก็มีแนวโน้มทางเสรีนิยมและมักเลือกพรรคเดโมแครตเช่นกัน ซึ่งทั้ง 3 ภูมิภาคดังกล่าวมีประชากรหนาแน่นกว่า 3 ภูมิภาคที่เหลือซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นพวกอนุรักษนิยม ดังนั้น ถึงแม้นางฮิลลารี คลินตัน จะได้รับคะแนนเสียงมากกว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ถึง 2,868,696 คะแนน ก็ยังแพ้การเลือกตั้งเพราะระบบการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ใช้วิธีเลือกโดยมลรัฐ (Electoral Vote) คือใครชนะคะแนนเสียงในมลรัฐใดเพียงคะแนนเดียวก็ได้คะแนนเสียงทั้งหมดของมลรัฐนั้นไปเลย (ดูแผนที่แผ่นแรก)
ดังนั้น จากตัวเต็งสตรี 5 คนที่ ทางวีโอเอ.ได้ประกาศไว้ว่ามีโอกาสสูงมากที่จะได้รับการคัดเลือกเป็นผู้สมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดีกับนายโจ ไบเดน คือ
1.นางเอลิซาเบธ วอร์เรน อดีตอาจารย์ด้านกฎหมาย วุฒิสมาชิกสหรัฐ จากรัฐแมสซาชูเซตส์
2.นางคามาลา แฮร์ริส อดีตอัยการเชื้อสายจาไมกาและอินเดีย วุฒิสมาชิกสหรัฐ จากรัฐแคลิฟอร์เนีย
3.นางวาล เดมิงส์ อดีตตำรวจหญิงผิวดำ ส.ส.สหรัฐ จากเขต 10 รัฐฟลอริดา
4.นางซูซาน ไรซ์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติในยุคอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา
5.นางลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ ทหารผ่านศึกลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วุฒิสมาชิกสหรัฐ จากรัฐอิลลินอยส์
ครับ ! พิจารณาดูแล้วมีเพียง นางลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ ทหารผ่านศึกลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วุฒิสมาชิกสหรัฐ จากรัฐอิลลินอยส์ เท่านั้นที่สามารถ “balancing ticket” ให้กับพรรคเดโมแครตได้ เพราะแทบจะไม่มีประธานาธิบดีคนใดเลยจะชนะการเลือกตั้งโดยปราศจากชัยชนะในภูมิภาค Midwest ได้ (ดูแผนที่แผ่นที่สอง) ซึ่งตัวเต็งทั้ง 5 คนนี้มีเพียงนางลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ เพียงคนเดียวที่เป็นตัวแทนจากภูมิภาคนี้ซึ่งประชากรส่วนใหญ่มีแนวโน้มเป็นอนุรักษนิยม
ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ เกิดเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2511 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นลูกสาวของแฟรงก์ แอล. ดักเวิร์ธ กับละไม ดักเวิร์ธ (สกุลเดิม สมพรไพลิน) สตรีชาวไทยเชื้อสายจีน ในวัยเด็กลัดดาย้ายตามบิดาซึ่งทำงานอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย (เหมือนอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา) ทำให้เธอสามรถพูดใช้ภาษาไทย, อินโดนีเซีย และอังกฤษ ต่อมาเธอได้สมัครเป็นทหารในกองทัพอเมริกันเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์
ระหว่างที่เธอเข้าร่วมรบในสงครามในประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2547 เฮลิคอปเตอร์ที่เธอเป็นนักบินอยู่ ถูกยิง และเกิดระเบิดตรงที่เธอนั่ง ทำให้สูญเสียขาทั้งสองข้าง และแขนข้างขวาพิการ อย่างไรก็ตาม แพทย์ก็ได้ทำการต่อแขนข้างขวาให้แก่เธอ แต่เธอต้องนั่งบนรถเข็น และใช้ขาเทียมในเวลาต่อมาและยังสู้ชีวิตจนกระทั่งได้รับเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิกจากรัฐอิลลินอยส์เมื่อ พ.ศ.2560
ในขณะที่ นายโจ ไบเดน กำลังเฟ้นหาสตรีผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับตัวเองปรากฏว่าหนังสือพิมพ์ The New York Times ระบุว่า คนวงใน 2 คน ที่ทราบกระบวนการคัดเลือกผู้สมัครรองประธานาธิบดีเผยว่าการสัมภาษณ์นางลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ สร้างความประทับใจให้กับทีมคัดเลือกของนายโจ ไบเดน มาก และทางทีมได้ขอให้เธอส่งเอกสารประวัติส่วนตัวเพื่อพิจารณาในขั้นตอนต่อไปด้วย