บทบาท รัฐบาล บทบาท เยาวชนปลดแอก เบื้องหน้า ข้อเสนอ

บทบาท รัฐบาล บทบาท เยาวชนปลดแอก เบื้องหน้า ข้อเสนอ

ไม่ว่าการออกมาเตือนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อการเคลื่อนไหวของ “เยาวชนปลดแอก” ให้ยึดในหลักการของกฎหมาย

ไม่ว่าการชุมนุมที่แพร่ระบาดเหมือน “ไฟลามทุ่ง”

จากที่ถูกมองว่าเป็น “ม็อบมุ้งมิ้ง” กลายมาเป็น “ม็อบตุ้งติ้ง” จากที่ถูกมองว่าเป็น “ม็อบฟันน้ำนม” ก็ปรากฏเสียงเพลง “วิ่งนะวิ่ง นะแฮมทาโร่” ดังกึกก้อง

ไม่ว่าจะนำ “หมายจับ” ออกมา “ขู่”

Advertisement

ไม่ว่าจะนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกมายืนยันและยืดอายุ ไม่ว่าจะนำ พ.ร.ก.การชุมนุมในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะนำ พ.ร.ก.รักษาความสะอาดมาเป็นเครื่องมือ

ดูเหมือน “ม็อบขนอุย” จะไม่หวั่นเกรง

กระทั่งในที่สุดมีการพลิกฟื้นกลุ่ม “อาชีวะเพื่อชาติ” ขึ้นมาสวมวิญญาณ “กลุ่มกระทิงแดง” ในห้วงก่อนสถานการณ์ 6 ตุลาคมขึ้นมาเหมือนกับเป็นการเตือน

Advertisement

แต่ละก้าวย่างของ “รัฐบาล” จึงได้รับการจับตามอง

อาจจะมี “กองเชียร์” บางคนแสดงความชื่นชมว่ารัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปล่อยให้การชุมนุมของเยาวชนปลดแอกดำเนินไป

สะท้อนกลยุทธ์ “ล่อเสือออกจากถ้ำ”

เมื่อปรากฏออกมาทั้งบนถนนราชดำเนิน ทั้งที่ประตูท่าแพ เชียงใหม่ ทั้งที่หน้าศาลหลักเมือง อุบลราชธานี ตลอดจนที่อนุสาวรีย์พระเจ้าตาก วงเวียนใหญ่

ถึงเวลาก็ “รวบตัว” และเผด็จศึกในทางการเมือง

กระนั้น หลายคนก็ประเมินว่ารัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจกำลังดำเนินกลยุทธ์ “ถอนฟืนใต้กระทะ” อย่างแยบยล

นั่นก็คือ ไม่ปะทะด้วยกำลัง พึงขจัดความฮึกเหิม ดุจฟ้าอยู่เหนือน้ำ

ดังที่มีการอธิบายว่า กลยุทธ์นี้เป็นอุบายในการบั่นทอนพลังของฝ่ายตรงกันข้ามทีละส่วนจนทำลายฝ่ายตรงข้ามเป็นส่วนใหญ่หรือทั้งหมดได้

กระนั้น ภายในรายละเอียดของการกระทำก็ยังน่าสงสัย

น่าสงสัยว่าคำสั่งที่ให้มีการฟื้น “หมายจับ” เก่าออกมาสกัดบรรดาคนที่ไปเข้าร่วมการชุมนุมจะไม่ขัดต่อข้อเสนอที่ให้ “หยุดคุกคามประชาชน” หรือ

ยิ่งเห็นการปรากฏตัวของ “อาชีวะเพื่อชาติ” ยิ่งน่าสงสัย

เพราะกระบวนการเหล่านี้หากนำเอาอนุศาสน์อันตราเอาไว้ในคัมภีร์ไหวหนานจื่อที่ว่า “เทน้ำร้อนลงในน้ำเดือด มิอาจหยุดเดือด จักต้องรู้ลักษณะของมัน ทอนไฟจึงหยุด”

หรือที่ตราเอาไว้ในสมัยเว่ยเหนือว่า “ถอนฟืนจึงหยุดเดือด ตัดหญ้าพึงถอนราก”

จะเห็นได้ว่า เมื่อมีการออก “หมายจับ” เยาวชนซึ่งเป็นแกนนำในการจัดแฟลชม็อบที่ประตูท่าแพ เชียงใหม่ จึงเด่นชัดว่ามิได้เป็นการถอนฟืน

หากแต่เป็นการเท “น้ำร้อน” ลงใน “น้ำเดือด” มากกว่า

ยิ่งเมื่อมีแถลงการณ์เข้มข้นจาก “อาชีวะเพื่อชาติ” เผยแพร่ออกมา ก็ปรากฏการจับมือระหว่าง “ลูกพระจอม” 3 สถาบันขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

นี่จะมิเป็นการสาด “น้ำมัน” เข้าไปใน “กองเพลิง” หรอกหรือ

ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า สถานการณ์การเคลื่อนไหวของ “เยาวชนปลดแอก” อันมีจุดเริ่มจากบนถนนราชดำเนิน เมื่อตอนเย็นวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม

จะมีจุดยุติอย่างไรในทางการเมือง

ปมเงื่อนที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาดก็คือ 3 ข้อเสนออันมาจาก “เยาวชนปลดแอก” มีทิศทางเป็นอย่างไร มีการขานรับหรือกลายเป็นกระสุนด้าน

ตรงนี้ต่างหากคือ “คำตอบ” อย่างแท้จริง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image