รัฐบาลซ่อมแซม อย่าเอาปัญหามาสุมหัว โดย เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์

วันนี้การทำงานของรัฐบาลและรัฐสภาผ่านไปทีละวันทีละเดือน เช่นรัฐบาลบอกว่าเดือนสิงหาคมจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ สองสามวันที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีค่อยๆ แง้มรายชื่อที่นำขึ้นเพื่อโปรดเกล้าฯ ซึ่งสื่อมวลชนเสนอ 7 ตำแหน่ง 6 คน เรียบร้อยแล้ว เข้าใจว่าไม่เกินกลางเดือนสิงหาคม น่าจะนำเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณได้

ส่วนการชุมนุมของบรรดาเยาวชนต่อต้านเผด็จการและนิสิตนักศึกษาผู้เข้าร่วมชุมนุมเพิ่มขึ้นแต่ละสถานศึกษา อาทิ “เตรียมอุดมฯ” นำขบวนการ “แจวเรือตามหาประชาธิปไตย” ช้าไปบ้าง แต่น่าจะเร็วกว่า “พายเรือตามหาบัวลอย” เหมือนกับเสียงเพลงนั้น

อีกเสียงหนึ่ง เป็นเสียงที่นำเสนอออกมาว่าบรรดา ส.ว. กับ ส.ส. ชักเห็นด้วย “กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ถึงกับมีการนำเสนอให้แก้ไขมาตรา 256 ที่ว่า

มาตรา 256 ภายใต้บังคับมาตรา 255 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ให้กระทำได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนี้…(มีหลายวงเล็บ)

Advertisement

เนื่องจากหลักเกณฑ์มาตรานี้ทำให้การแก้ไขเพิ่มเติมยากลำบาก คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกล่าวว่า ขณะนี้การทำงานคืบหน้า 90% แล้ว ยืนยันว่าทำงานตามกำหนดเวลา

“ตั้งใจว่าจะส่งรายงานให้ที่ประชุมสภาภายในวันที่19 กันยายนนี้ ทั้งจะนำข้อเรียกร้องของกลุ่มนิสิตนักศึกษาประกอบการพิจารณาด้วย ส่วนจะแก้ไขหรือไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของรัฐบาล กมธ.มีหน้าที่เสนอความเห็น” นายพีระพันธุ์กล่าว

ขณะที่ นายโภคิน พลกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการแจ้งว่า ขณะนี้ประชาชน นิสิต นักศึกษาอยากเห็นรัฐธรรมนูญมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ยุ่งยาก และควรตั้งสมาชิกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญออกจากวิกฤตพฤษภาทมิฬ

“หากดำเนินการตามนี้จะได้ 2 อย่างคือ 1.ได้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2.การแก้ไขเพิ่มเติมประเด็นปัญหาไปได้ ควบคู่กัน” นายโภคินกล่าว และว่า ถ้าทุกพรรคการเมืองและสมาชิกวุฒิสภาเห็นพ้อง ขั้นตอนการแก้ไขจะเสร็จภายใน 5 เดือน ได้รัฐธรรมนูญฉบับที่มีการแก้ไข จากนั้น สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญจะ
ยกร่างฉบับแก้ไขอีก 390 วัน

นายโภคินกล่าวว่า ในอนาคตจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เห็นชอบโดยประชาชนและร่างโดยประชาชน ขณะดำเนินการ ตรงไหนที่ไม่ดี ไม่เหมาะสมก็แก้ไขได้

ระหว่างนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องรอบคอบและใจเย็นกับการชุมนุมของนิสิตนักศึกษา พยายามอย่าให้มีการต่อต้านโดยไม่มีเหตุผล ไม่ว่าจะโดยกลุ่มเยาวชนด้วยกันเอง เช่น กลุ่มอาชีวศึกษา หรือกลุ่มผู้ใหญ่ แม้แต่กลุ่มสมาชิกรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภา ที่ใจร้อน มองว่าการชุมนุมของนิสิตนักศึกษาไม่เหมาะสม หรือไม่สมควร โปรดอย่าลืมที่ตัวเองเคยร่วมชุมนุมมาก่อน ไม่ผิดอะไรกันดอกน่า

ส่วนรัฐบาล เชื่อว่าเมื่อประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีใหม่ออกมาแล้ว และรัฐบาลเริ่มบริหารราชการแผ่นดิน เชื่อว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีน่าจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาหลายเรื่องของประเทศ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาหลัก เรื่องสถานการณ์โควิด-19 วันนี้เป็นปัญหารองไปแล้ว ไม่ต้องวิตกว่าจะกลับมาเป็นรอบสอง และไม่ต้องกังวลว่าประชาชนจะห่างจากหน้ากาก แต่ยังห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ตามเดิม

เรื่องของเรื่องอยู่ที่ว่าคณะรัฐมนตรีชุดเศรษฐกิจคราวนี้จะมีการแก้ไขเศรษฐกิจอย่างไร เพื่อให้ประชาชนพ้นจากภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง

ส่วนปัญหาการว่างงาน เห็นจะแก้ยาก ควรจะแก้ด้วยการให้แต่ละคนมีงานของตัวเองดีกว่านะเจ้าคะ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image