เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า…ฯลฯ …อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราช อาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้
นายดอน ปรมัตถ์วินัย เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอนุชา นาคาศัย เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายปรีดี ดาวฉาย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ.2563
มาตรา 161 ก่อนเข้ารับหน้าที่ รัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ฯต่อพระมหากษัตริย์ด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้
“ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”
นับแต่วันเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ คณะรัฐมนตรีจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ของรัฐมนตรีตามตำแหน่ง โดยเฉพาะผู้ที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องปฏิบัติหน้าที่ทั้งสองประการ คือหน้าที่ผู้แทนราษฎร และรัฐมนตรี
ในฐานะผู้แทนราษฎร วันนี้มีราษฎรร่วมชุมนุมทั้งที่เป็นนักเรียนเยาวชนต่อต้านเผด็จการ และ นิสิตนักศึกษา มีประชาชนเข้าร่วม เป็นประชาชนต่อต้านเผด็จการ ประกาศชุมนุมเป็นระยะ กระจายไปหลายมหาวิทยาลัย หลายจังหวัด
ในฐานะเป็นรัฐมนตรี ต้องร่วมกันกับนายกรัฐมนตรีซึ่งประกาศเป็นหัวหน้าคณะแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติของประชาชน แก้ไขปัญหาปากท้องที่มีความหวังว่าจะเผยอหน้าอ้าปากขึ้นมาได้บ้าง
ในฐานะรัฐบาล ต้องร่วมกับคณะรัฐมนตรีแก้ไขปัญหาร่วมกันอีกหลายประการ อาทิ ปัญหาแรงงานที่สถานประกอบการประกาศปิดโรงงาน เลิกการผลิต เลิกจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นทุกวัน ปัญหาการเท่าเทียมด้านความเป็นธรรม และคดีความอันเกิดจากบุตรเจ้าสัวขับรถชนตำรวจเสียชีวิตแล้วหนีการจับกุม กลายเป็นคดีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาให้เป็นจำเลยกับศาล กระทั่งนายกรัฐมนตรีต้องจัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาสอบสวนทวนความคณะหนึ่งพิจารณาเรื่องนี้เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและความเป็นธรรม
กับสถานการณ์เดิมคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่จบไม่สิ้น แต่ไม่เป็นปัญหาสักเท่าใด
เรื่องสำคัญของรัฐบาลชุดที่มีรัฐมนตรีคนใหม่เข้ามาร่วมกับรัฐมนตรีชุดเก่าเพียง 6 คน จะประชุมร่วมกันและฟังแนวทางการแก้ปัญหาของกันและกันหรือไม่
ยุคนี้เป็นยุคแห่ง นิว นอร์มอล เป็นยุคที่ทุกคนต้องรับฟังปัญหาและการแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะไม่ใช่ปัญหาของใครของมัน ต่างคนต่างแก้ปัญหา หรือกวาดปัญหาเข้าไปไว้ใต้พรม
ทั้งเป็นปัญหาที่เปลี่ยนจากปัญหาเดิมเป็นไปตามยุคสมัยเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้นจากคนรุ่นใหม่ เป็นปัญหาใหม่ที่เกิดจากพฤติกรรมใหม่ และความคิดใหม่ นำไปสะสมกับปัญหาเดิม
จึงกลายเป็นปัญหาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งไม่ใช่ปัญหาที่คณะรัฐมนตรีชุดนี้ ซึ่งป็นคนรุ่นกลางเก่ากลางใหม่ อาจยังไม่เคยเจอะเจอกับปัญหาเช่นนี้
ทั้งคนรุ่นเก่าเอง ยังมองเห็นปัญหาเก่า ซึ่งยังไม่เคยได้รับการแก้ไขมาก่อน ยังมีปัญหาใหม่ขึ้นมาซ้อนทับ ทำให้วิธีการแก้ปัญหาต้องปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว อย่าศึกษานาน อะไรแก้ได้ต้องรีบแก้
อย่าลืมนะครับว่า คณะรัฐมนตรีชุดนี้เป็นรัฐมนตรีแห่งยุค New normal ไม่ใช่คณะรัฐมนตรีตกยุค
เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์
