ปุจฉา วิสัชนา การเมือง ยุค ‘ดิจิทัล’ กับ ‘อนาล็อก’

ปุจฉา วิสัชนา การเมือง ยุค ‘ดิจิทัล’ กับ ‘อนาล็อก’

ทั้งๆ ที่การเคลื่อนไหวของ “เยาวชนปลดแอก” ไม่ว่าเมื่อวันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม ไม่ว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม ณ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

คือ ปรากฏการณ์อันสะท้อนยุคแห่ง “ดิจิทัล” ในทางการเมือง

แต่กระบวนการบริหารจัดการเพื่อตอบโต้และต่อสู้กับการเคลื่อนไหวอันมาจาก “เยาวชนปลดแอก” กลับยังอยู่ในยุคแห่ง “อนาล็อก” ในทางการเมือง

ย้อนไกลไปถึงยุคของการจัดการกับ “กบฏสันติภาพ” เมื่อปี 2495

Advertisement

ย้อนไกลไปถึงยุคของการจัดการกับ “แกนนำ” ของกลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญที่ออกแจกใบปลิวจากท้องสนามหลวงไปจนถึงประตูน้ำเมื่อปี 2516

เห็นได้จากการออกหมายจับ นายอานนท์ นำภา

เห็นได้จากการขยายหมายจับออกไปยัง นายบารมี ชัยรัตน์ นางสุวรรณา ตาลเหล็ก และเหวี่ยงแหไปถึง นายเดชาธร บำรุงเมือง

Advertisement

ท่ามกลางความงุนงงของสังคม

ไม่ว่าจะมองจากทางด้านของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะมองจากทางด้านของฝ่ายความมั่นคง เด่นชัดยิ่งว่ายังใช้ประสบการณ์เก่า ข้อมูลเก่า

เมื่อทอดมองไปยัง “การเคลื่อนไหว”

ทันทีที่เห็นว่าเป็น “เยาวชน” ไม่ว่าจะเป็นนิสิต ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน ก็มองเห็นแต่ความเป็นเด็ก

จึงนิยามออกมาว่า “ม็อบมุ้งมิ้ง” จึงนิยามออกมาว่า “ม็อบฟันน้ำนม”

เห็นแต่อาการวูบวาบ รักง่าย หน่ายเร็ว เห็นแต่ความเป็นทารก เห็นแต่ความไร้เดียงสา ไม่ประสาในทางการเมือง

จึงถามถึง “เบื้องหลัง” จึงถามถึง “ท่อน้ำเลี้ยง”

จึงมองหาแกนนำว่าต้องเป็นทนายความอย่าง นายอานนท์ นำภา ต้องเป็นนักเคลื่อนไหวอย่าง นายบารมี ชัยรัตน์ อย่าง นางสุวรรณา ตาลเหล็ก

และนักร้องยอดนิยมจากบทเพลง “ประเทศกูมี”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และบรรดานักกำหนดกลยุทธ์ในแวดวงทหาร ในแวดวงตำรวจและในแวดวงฝ่ายปกครองไม่เคยสงสัยบ้างหรือ

ว่าเหตุใด นักเรียน นิสิต นักศึกษา จึงออกมา

มิได้ออกมาเพียงจุดเดียว ตรงกันข้าม ออกมาในกรอบและขอบเขตทั่วประเทศ ไม่ว่าเหนือ ใต้ ตก ออก อีสาน หรดี หรือประจิม

มิได้ออกมาคนเดียว หากออกมาเป็นหมื่นเป็นแสน

เป้าหมายรวมศูนย์ไปยังรัฐบาล เน้นเฉพาะเจาะจง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคและนักการเมือง ที่แวดล้อมอยู่กับรัฐบาล

เน้นความต้องการกำจัด “รัฐธรรมนูญ”

เสียงตะโกน “ออกไป ออกไป” ที่ดังกระหึ่มในแฟลชม็อบ ณ สกายวอล์ก แยกปทุมวัน เมื่อเดือนธันวาคม 2562 จน ณ วันนี้ก็ยังกึกก้อง

เป็นไปเอง เป็นไปโดยอัตโนมัติ

ไม่ว่ารัฐบาล ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ จึงถึงเวลาแล้ว

ที่จะต้องนั่งลง ขบคิด พิจารณา

พิจารณาถึงผลสะเทือนอันเนื่องแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 พิจารณาถึงผลสะเทือนอันเนื่องแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ว่าเป็นอย่างไร

ตั้ง “ปุจฉา” แล้วร่วมกัน “วิสัชนา” อย่างจริงจัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image