อ้าว!! พูดจริงๆ นะ ไม่ใช่พูดเล่น!!!

ขณะเป็นวัยรุ่น หลังพุทธศักราช 2503 เมื่อ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ปฏิวัติเรียบร้อย ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ประกาศสัจวาจาว่า “ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว”

มีการเดินขบวนคัดค้านการเลือกตั้งสกปรกเพียงครั้งเดียว จนจอมพลสฤษดิ์ถึงแก่อสัญกรรม จอมพลถนอม กิตติขจร กับพวก คือ จอมพลประภาส จารุเสถียร และบุตรชายจอมพลถนอม พันเอกณรงค์ กิตติขจร

กุมอำนาจทางการเมือง มีการปฏิวัติตัวเองอีกครั้งหนึ่ง มีการชุมนุมหลายครั้ง

ระหว่างยุคนั้น เมื่อ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ กลับมาจากประเทศอังกฤษ เกิดกลุ่มปัญญาชน เรียกยุคสมัยนั้นว่า “ปัญญาชนสยาม” เกิด “คลื่นลูกใหม่” คนรุ่นหนุ่มสาว เป็นปัญญาชน คนรุ่นใหม่ นักเขียน คนเขียนหนังสือรุ่นใหม่มักจะกล่าวว่า คลื่นลูกใหม่ขับไล่คลื่นลูกเก่าให้พ้นไปเสมอ

Advertisement

สุลักษณ์ นำเรื่องของนักปรัชญาแห่งยุคสมัยเก่า คือ “โสเครติส” เขียนหนังสือให้คนรุ่นนั้นอ่าน หยิบยกปราชญ์ไทยสมัยก่อนหน้านั้น อาทิ “นาคะเสถียร” “เสฐียรโกเศศ” มาให้คนไทยได้รู้จักมากขึ้น

“คลื่นลูกเก่า” ที่ทยอยเข้ามากระทบฝั่งแล้วจางหายไป มีคลื่นลูกใหม่ทยอยไล่หลังมาลูกแล้วลูกเล่า กระทั่งเกิดเหตุชุมนุมมากมายหลายเหตุการณ์ เกิดกรณีขับไล่เผด็จการ “ประภาส-ถนอม” เมื่อ “14 ตุลา 16” ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ยึดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นที่ชุมนุมใหญ่ เดินขบวนเต็มถนนราชดำเนิน กระทั่งจอมพลถนอม กิตติขจร กับพวกต้องหนีออกจากประเทศไทยไปคนละทิศคนละทาง

ประเทศไทยเข้าสู่ยุคประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ คนรุ่นใหม่ปัญญาชนเต็มบ้านเต็มเมือง

Advertisement

ในที่สุด ด้วยเหตุเดียวกันเกิดเหตุการณ์ทหารขับไล่นิสิตนักศึกษา ไล่ฆ่าฟันขบวนการ 6 ตุลา 19 กระเจิดกระเจิง รัฐบาลทหารเข้ายึดกุมอำนาจการเมืองได้อีกนาน รัฐบาลต่อมาจัดให้มีการเลือกตั้ง ทั้งยังมีเหตุการณ์อีกหลายครั้งจนเกิดเหตุประท้วง “นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง” – – พฤษภา 35

รัฐประหารครั้งหลังสุดเมื่อ 22 พฤษภา 2557 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร และนายกรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาลนานกว่า 5 ปี จนวันนี้

แม้รัฐบาลจัดให้มีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และจัดการเลือกตั้งเมื่อ 24 มีนาคม 2562 มีรัฐบาลจากพรรคการเมือง แต่นายกรัฐมนตรีเป็นคนนอกไม่ได้มาจากพรรคการเมือง และสมาชิกวุฒิสภามาจากการแต่งตั้ง

คนไทยผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเห็นว่าควรมีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้เป็นประชาธิปไตย ยุบสภาผู้แทนราษฎรจัดการเลือกตั้งใหม่ ยุติการคุกคามประชาชนตามที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ มีนักเรียนนิสิตนักศึกษา ประชาชนเรียกร้องและนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 19 กันยายน 2563

สมาชิกรัฐสภาจำนวนหนึ่งเห็นด้วยกับการยกร่างรัฐธรรมนูญ และอีกหลายประเด็น นายกรัฐมนตรีให้ความเห็นสองสามครั้ง มีการพูดคุยกับกลุ่มชุมนุม

ในวงการนักวิเคราะห์สถานการณ์ต่างเห็นว่า พรุ่งนี้ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรง ทั้งยังว่าน่าจะมีทางออกไปสู่การกำหนดวันเวลาเพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญ ในสาระสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นไปในรูปของการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ อย่างน้อยสมาชิกวุฒิสภาไม่ควรมีสิทธิออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีควรจะมาจากพรรคการเมือง เป็นสำคัญ

ส่วนจะมีการยุบสภาจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ อาจต้องรอไปให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น จนเลือกตั้งผู้ว่าฯเมืองพัทยา และผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครแล้วเสร็จในปีหน้า 2564 จึงค่อยยุบสภาผู้แทนราษฎรจัดเลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคการเมืองใด หรือใครเป็นนายกรัฐมนตรีดีกว่าไหม

ประเทศไทยควรเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งใจ ทั้งขอให้ พลอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มภาคภูมิ และ การชุมนุมครั้งนี้จะนำไปสู่ประชาธิปไตยแท้จริงสักที

เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image