⦁…ก่อนอื่นเลย “พรรคเพื่อไทย” ประกาศแก้ไขข้อบังคับเปลี่ยน “โลโก้” จากเดิมตัวอักษร “พ.” กับ “ท.” มีเหลี่ยม สัญลักษณ์ใหม่ หั่นเหลี่ยมทิ้ง เป็นตัวอักษรนำโชค “มีหัว” แก้เคล็ดเอาฤกษ์เอาชัย ยึดตามหลัก “โหราศาสตร์” ลื่นไหลไม่ต้องชนปังตอมากเหมือนเก่า
⦁…วันที่ 1 ตุลาคม หรือวันนี้ สมาชิกทั้งมวล ทุกภาคส่วนตามไฟต์บังคับ ต้องระดมมาไม่น้อยกว่า 250 คน เพื่อเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ “หวยล็อก” ดังที่ทราบ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นเชนคัมแบ๊กกลับมานั่งเก้าอี้เดิม แม่บ้านพรรค ใช้บริการคนหน้าใหม่ ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.โคราช 5 สมัย แทน อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ที่ขยับไปนั่งรองหัวหน้าพรรค
⦁…ขณะที่ “คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค” ที่ คุณหญิงหน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เคยกุมบังเหงียน ถูกล้างท่อ เปลี่ยนรูปองค์ ยกเครื่องใหม่ มีบทบาทดุจเดียวกับ “โปลิตบูโร” มีอำนาจสูงสุดในการกำหนดทิศทางพรรค
⦁…ผสมกลมกลืนกันระหว่าง “รุ่นเก่า” กับ “รุ่นใหม่” ขาเก่า ขาแก่ ที่ไขก๊อกออกจากเพื่อไทย ไปก่อนหน้านี้จะคืนถิ่นเก่ากันคับคั่ง โดยเฉพาะเครือข่าย “กลุ่มแคร์” ทั้ง “ภูมิธรรม เวชยชัย-นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช-หมอเลี้ยบ-สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี”
⦁…ทิศทางใหม่เพื่อไทย ยังเทน้ำหนักไปที่ “ภาคอีสาน” ให้มากกว่าเดิม เพราะเป็นฐานการเมืองที่แข็งแกร่งที่สุด จึงต้องเสริมใยเหล็กขึ้นในหลายๆ บริบททั้ง “กรรมการบริหาร-โปลิตบูโร” จะดึง ส.ส.ในพื้นที่มาเป็นตัวยืน เพิ่มบทบาทให้มากขึ้น
⦁…มีมือดี “ข่าวปล่อย” ระบุว่า ในวาระซ่อมหลังคาที่รั่วซึม ณ คาบนี้ “เพื่อไทย” จะดึง “ลูกโอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร” มาเป็นส่วนหนึ่งในทีม ไม่ชุดที่ 1 ก็ชุดที่ 2 แต่อีกกระแสระบุว่า “เจ้าแม่จันทร์ส่องหล้า” ไม่อนุญาต กลัว “เปลืองตัว”
⦁…อย่างไรก็ตาม การที่ “เพื่อไทย” ต้องปรับทัพ จัดขบวนกันยกใหญ่ เนื่องเพราะ หุ้นจะตก แพจะแตก มันต้องมีที่ไปที่มาจากเหตุอันใด มีการวินิจฉัยแล้ว “เงิน” ก่อให้เกิดกิเลส กลายเป็นตัวแปรสำคัญสุด ที่ทำให้พรรคตกต่ำ
⦁…“นักการเมือง” ไม่ใช่พระอิฐ พระปูน ในยุครัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ครองเมือง ลูกหาบจากค่ายเพื่อไทย อดอยากปากแห้ง ผอมบักโกรก “รายรับ” น้อยมาก มีแต่เงินเดือนผู้แทนฯ
⦁…เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ต่างกันลิบลับ กับ ส.ส.พรรคร่วม โดยเฉพาะ “พปชร.” อยู่เย็นเป็นสุขเยี่ยงอัศวิน รายได้งอก เดือนละ 2-3 แสน ขณะที่ตัวเอง มิต่างอะไรกับ “หมาป่า” ไล่ล่าหาเนื้อ แมลงกินเอง ซำเหมาไปวันๆ
⦁…ด้วยประการดังกล่าว ลูกพรรคบางคนจากค่าย “เพื่อไทย” เดินหลงทาง ถูกหัวหน้ามุ้ง “ฝ่ายตรงข้าม” ยื่นมือเข้าโอบอุ้มข้ามพรรค ช่วยเหลือ เยียวยา กันตามอัธยาศัย จึงอุทิศกาย ใจ ดีกว่าตายอดตายอยาก
⦁…พรรคเพื่อไทยเผชิญกับภาวะ “แพแตก” ลูกข่ายแหกคอก ทำให้ขาดเอกภาพ ไร้พลัง “คุณหญิงอ้อ” ทนดูไม่ไหว กระโดดค้ำถ่อมาจัดแถวเอง ยกเครื่องจุดยืนใหม่ ไม่หัวชนกำแพงเหมือนเก่า
พลุน้ำแข็ง