บทนำ : คิดผิด-แก้ผิด

บทนำ : คิดผิด-แก้ผิด

บทนำ : คิดผิด-แก้ผิด

การสลายม็อบที่แยกปทุมวันเมื่อวันที่ 16 ต.ค. แม้ทำให้ผู้ชุมนุมต้องยุติการรวมตัว แต่กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อรัฐบาล เพราะวันรุ่งขึ้น 17 ต.ค. ประชาชนได้ออกมารวมตัวชุมนุมกันเอง หลายจุดใน กทม. และปริมณฑล คือ นนทบุรี จุดสำคัญได้แก่ ลาดพร้าว, วงเวียนใหญ่, สถานีรถไฟฟ้าอุดมสุข แยกบางนา, และแยกแคราย นนทบุรี นอกจากนี้ ยังมีการชุมนุมที่หน้ามหาวิทยาลัยหลักๆ เป็นการชุมนุมที่ไร้แกนนำ เพราะส่วนมากถูกจับกุมไปหมดแล้ว ส่วนในต่างจังหวัด ก็มีการชุมนุมในจังหวัดสำคัญครบทุกภาค

มีการประกาศจากกลุ่มผู้ชุมนุมว่าจะใช้วิธีชุมนุมต่อเนื่อง จนกว่ารัฐบาลจะทำตามข้อเรียกร้องที่เสนอมาตลอด การชุมนุมที่ขยายใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ แม้โดนปราบและสกัดขัดขวาง และเรียกร้องเป็นเสียงเดียวกัน ถือว่าบัดนี้ได้เกิดกระแสสูงของความต้องการเปลี่ยนแปลงที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เกมการเมือง เพื่อโค่นล้มชิงอำนาจอย่างในอดีต โดยเฉพาะการชัตดาวน์เมื่อปี 2556-2557 อันเป็นที่มาของระบอบการเมืองตลอด 6 ปีที่ผ่านมา

ผู้มีอำนาจและเครือข่ายควรเปลี่ยนวิธีคิดเดิมที่ว่าม็อบที่เกิดขึ้น มีกลุ่มการเมืองชี้นำจูงจมูก มีมหาอำนาจตะวันตกบงการ และมีท่อน้ำเลี้ยงดูแล โดยมองข้ามข้อเรียกร้องของเยาวชนและประชาชน นำมาสู่วิธีการแก้ปัญหาที่ผิด ด้วยการใช้อำนาจจับกุม สกัดขัดขวาง ซึ่งจะไม่ทำให้อะไรดีขึ้น และจะยิ่งเลวร้ายมากขึ้น หนทางที่เหลือขณะนี้ ก็คือ ยุติเกมหลอกล่อเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการแก้ไข โดยต้องยอมรับว่า ระบบที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วมนั้น “ไปต่อ” ได้ยากแล้ว