คนตกสีที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง : เว็บโป๊และกับดักของการ ‘เกลียดตัวกินไข่’

แม้จะพูดกันขำๆ ว่า การสกัดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ Pornhub ของฝ่ายอำนาจรัฐนั้น เป็นการเดินหมากพลาดมหันต์ เพราะจะทำให้บรรดาผู้คนมารวมตัวกันอย่างเป็นปึกแผ่นเพื่อต่อต้านรัฐบาล หรืออย่างน้อยก็การใช้อำนาจรัฐในเรื่องนี้

แม้แต่ผู้ร่วมก่อตั้ง “สถาบันทิศทางไทย” ผู้ซึ่งเข้าใจและเห็นด้วยกับรัฐบาลได้แทบทุกเรื่อง ยังถึงกับออกมาโพสต์ว่า นี่เป็นการปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ

ประเด็นหลักของการคัดค้านการแบนเว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่นี้อยู่ที่เรื่องของการปิดกั้นเสรีภาพในการสื่อสารและแสดงความคิดเห็น แต่กระนั้นความเห็นของฝ่ายประชาธิปไตยที่มองเรื่องสิทธิของผู้คนโดยรวมก็ไม่ค่อยสบายใจ และถึงกับไม่อยากให้ผู้คนที่เรียกตัวเองว่าเป็นฝ่าย “ประชาธิปไตย” นั้นร่วมขบวนแห่ #Savepornhub กับเขาด้วยเท่าไร

เพราะไม่ว่าอย่างไร การใช้เสรีภาพที่เป็นเนื้อหาของเว็บไซต์ดังกล่าวก็เป็นเรื่องสีเทาตั้งแต่เข้มถึงเกือบดำ เพราะคลิปวิดีโอและเนื้อหาทางเพศนั้นเป็นเนื้อหาสำหรับคนที่โดยสากลถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว คืออายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป (18+) และแม้แต่ผ่านเกณฑ์อายุไปได้ก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่า ในพื้นที่นั้นก็มีเนื้อหาสีดำ เช่น วิดีโอที่มาจากการละเมิดทางเพศ การแอบถ่าย และเนื้อหาทางเพศเกินกว่าที่จะยอมรับกันได้ แม้ในประเทศที่กฎหมายอนุญาตให้มีความบันเทิงแบบนี้บ้าง

Advertisement

เนื้อหาสีเทาดำ ประกอบกับการตอบสนองที่ล่าช้าของผู้ให้บริการ ทำให้สถานะของ Pornhub ก็ถือว่าเป็นปัญหาในหลายประเทศ รวมถึงการที่มีผู้คนจำนวนหนึ่งเรียกร้องให้รัฐต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งกับแพลตฟอร์มนี้ด้วย สำหรับประเทศไทย เนื้อหาทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ถือว่าผิดกฎหมายในฐานะของสื่อลามกอนาจาร

แต่การที่จะไปเห็นดีเห็นงามกับการที่รัฐบาลออกมาแบน Pornhub สำหรับฝ่ายที่มองว่ารัฐบาลนี้ได้อำนาจมาโดยมิชอบ และมักจะใช้อำนาจดังกล่าวในการละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้คนอยู่ทุกวี่วัน โดยเฉพาะเสรีภาพในการสื่อสารและแสดงความคิดเห็น ก็อาจจะทำให้รู้สึกตงิดใจว่า นี่เรากำลังเข้าตำราที่โบราณเขาเสียดสีไว้ว่า “เกลียดตัวกินไข่” อยู่หรือเปล่า

“ตัว” ในที่นี้คือ สัตว์เลื้อยคลานที่น่ารังเกียจสำหรับวัฒนธรรมไทย ชื่อของมันถือเป็นคำหยาบคายระดับห้ามกล่าวถึงในที่ประชุมสภา จนถึงกับต้องมีชื่อเรียกเพื่อเลี่ยงว่า “ตัวเงินตัวทอง”

Advertisement

แต่เขาก็ว่ากันว่า ไข่ของมันนั้นอร่อยเหลือหลายเสียจนคนที่เกลียดตัวจนไม่อยากเอ่ยชื่อ แต่ถ้าพูดถึงไข่ของมันแล้วก็ไม่ปฏิเสธ จึงเป็นที่มาของสำนวนเสียดสีที่ว่า

สรุปข้อตะขิดตะขวงออกมาได้ในหนึ่งประโยคคือ “เราสามารถที่จะพอใจ เห็นด้วย หรือรับประโยชน์จากอำนาจรัฐที่เป็นเผด็จการได้หรือไม่ หรือได้แค่ไหน”

เอาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายในกรณีของ Pornhub ก่อน ความยอกย้อนของมันอยู่ที่ว่า หากเรายอมรับว่า ยังไงก็ถือว่าเว็บไซต์นี้ทำผิดกฎหมายไทย รัฐบาลจัดการไปก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เราควรอยู่เฉยๆ เพื่อเคารพกฎหมาย ส่วนกฎหมายนั้นจะชอบธรรมหรือไม่ เหมาะสมกับบริบทปัจจุบันหรือเปล่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องไปว่าไปแก้กันไป

หากความคิดข้างต้นนี้ก็สมเหตุสมผล แต่ถ้าอย่างนั้นเราก็จะให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้เช่นกันว่า อย่างนั้นถ้าเราต้องปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐทุกกรณี โดยถือว่ากฎหมายก็คือ กฎหมาย ถ้าอย่างนั้นเราจะออกมาต่อต้านการใช้อำนาจรัฐ (ที่ถือว่าเป็นการผิดกฎหมาย) ได้หรือไม่ เราจะสนับสนุนพรรคพวกของเราได้อยู่หรือเปล่า ถ้ากฎหมายก็คือ กฎหมาย ผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทั้งหลายในขณะนี้ก็เท่ากับว่าได้กระทำความผิดกันทั้งนั้นอย่างที่ถูก
เจ้าหน้าที่ของรัฐยัดตั้งข้อหาให้สารพัด

พูดให้ง่าย คือ ถ้าเรายอมรับว่าการใช้อำนาจรัฐสกัดกั้น Pornhub ถูกต้องแล้ว ที่ตำรวจจับไผ่ รุ้ง เพนกวิน ด้วยข้อหาตั้งแต่ทำผิดข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ไปยันความผิดเกี่ยวกับความสะอาด หรือเครื่องขยายเสียงนั่นก็ควรต้องยอมรับไปด้วยหรือเปล่า

จะบอกว่า เรายอมรับได้ เฉพาะการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นธรรม มันก็ต้องมาหาหลักยึดกันก่อนว่า “หลักการ” ที่จะพิจารณาว่าความเป็นธรรมของกฎหมายที่ว่าน่ะคืออะไร ที่ไม่ใช่ “หลักกู” ว่า อำนาจรัฐใช้บังคับกฎหมายที่กูชอบน่ะถือว่าใช่

ต่อไปนี้เป็นความเห็นของผมที่ตรึกตรองและสอบทานความคิดในเรื่องนี้มาแล้วในระยะหนึ่ง

เครื่องช่วยแยกแยะสำคัญนั้นอยู่ที่ว่า การบังคับใช้กฎหมายนั้น เป็นการบังคับใช้กฎหมายตามปกติหรือไม่ ทั้งในแง่ของตัวกฎหมาย และรูปแบบการบังคับใช้กฎหมาย

ถ้าตั้งหลักคิดดังกล่าวให้มั่นคง เราก็จะตอบคนอื่นได้ว่า ทำไมเราด่าตำรวจที่ไล่จับนักศึกษาผู้ชุมนุมอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ถ้าขโมยเข้าบ้านก็ยังโทรเรียกตำรวจ หรือเราวิพากษ์วิจารณ์กระบวนยุติธรรมได้ พร้อมกันกับที่ฟ้องร้องผู้กระทำละเมิดเราต่อศาลได้ โดยไม่ขัดแย้งกันเอง

ในแง่ของกฎหมาย เราต้องพิจารณาว่า กฎหมายที่ผู้ใช้อำนาจรัฐกล่าวอ้างนั้น เป็นกฎหมายที่มีอยู่ในระบบปกติเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมหรือไม่ เป็นกฎหมายที่ยอมรับได้ มีกฎหมายลักษณะเดียวกันนี้อยู่ในประเทศอื่นที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย หรือว่านั่นเป็นการใช้กฎหมายพิเศษ หรือมาตรการพิเศษที่มุ่งหมายออกมาเพื่อจัดการกับกรณีใดกรณีหนึ่งตามใจชอบของรัฐเผด็จการ

เราจึงสามารถที่จะแยกการกระทำผิดที่เกิดจากการละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่รัฐประกาศขึ้นตามใจชอบ ใช้ได้จากการกระทำผิดตามกฎหมายอาญาหรือกฎหมายปกครองที่มีใช้บังคับอยู่แล้วในระบบปกติได้

แต่ถ้าอย่างนั้นหมายความว่า การออกคำสั่งปิดกั้นเว็บ Pornhub นั้นก็ชอบแล้ว เพราะกฎหมายที่มาบังคับใช้ คือกฎหมายเกี่ยวกับสื่อลามกและความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีใช้อยู่ในระบบปกติ และเป็นกฎหมายมาตรฐานที่มีอยู่ในหลายประเทศอยู่แล้ว ก็ต้องมาพิจารณาในเกณฑ์ต่อไปว่า การบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานของรัฐนี้ เป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายนั้นจริงหรือไม่ หรือมีวัตถุประสงค์อื่นแต่ใช้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือ

เราอาจจะยอมรับได้ ถ้าการปิดกั้นเว็บไซต์ Pornhub หรือเว็บไซต์ใดก็ตามเป็นไปเพื่อสกัดกั้นเนื้อหาที่ผิดกฎหมายหรือข่าวปลอม แต่เราไม่ควรจะยอมรับการกระทำเช่นนั้น เพื่อเจตนาพิเศษโดยตั้งใจปิดกั้นเนื้อหา
บางเนื้อหาเฉพาะเจาะจง แม้ในที่สุด ผลมันจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม

เช่นถ้าสมมุติคนข้างบ้านเรา จัดปาร์ตี้ เปิดเพลงเสียงดังทุกค่ำคืนจนไม่เป็นอันนอนหลับพักผ่อน แจ้งตำรวจแล้วก็ไม่เห็นมีใครสนใจแก้ปัญหาให้จริงจัง ปรากฏวันหนึ่งบ้านนั้นโดนจับไปด้วยข้อหาส่งเสียงรบกวน แต่นั่นเป็นเพราะว่าเขาดันเปิดเพลงล้อเลียนท่านผู้นำ เราอาจจะยอมรับได้ว่าคืนนั้นและคืนต่อๆ มาเราอาจจะสบายหู แต่ก็ไม่ควรที่จะรู้สึกพอใจหรือคิดว่า ที่เขาถูกจับไปนั้นสมควรแล้ว เพราะเป็นการละเมิดต่อกฎหมาย เพราะเราก็รู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำให้เขาถูกผู้รักษากฎหมายเล่นงานนั้น มันไม่ใช่เรื่องของการ “ทำผิดกฎหมาย”

อย่างไรก็ตาม เราอาจจะพิสูจน์เจตนาและวัตถุประสงค์ของการบังคับใช้กฎหมายได้ยากสักหน่อย แต่ก็ยังพอจะมีคำใบ้อยู่ที่การพิจารณาว่า การบังคับใช้กฎหมายนั้นเป็นไปโดยเลือกปฏิบัติหรือไม่

เพราะการเลือกบังคับใช้กฎหมายเอากับกรณีหนึ่ง แต่กลับละเลยที่จะบังคับกับกรณีอื่นที่มีข้อเท็จจริงหรือองค์ประกอบที่ไม่แตกต่างกัน ก็ชี้เจตนาว่าการใช้กฎหมายที่ว่านั้นมีวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากการบังคับใช้กฎหมายนั้น

แต่อย่าสับสนกับข้อเตือนใจที่ว่า การที่คนอื่นทำผิดแล้วไม่ถูกจับ แปลว่า เรา ซึ่งทำแบบเดียวกันนั้นไม่ได้ทำผิด ในแง่ของประชาชนผู้เป็นฝ่ายกระทำนั้นอ้างไม่ได้ก็จริง แต่สำหรับรัฐซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจแล้ว การเลือกดำเนินการเฉพาะบางกรณี โดยไม่สนใจกรณีอื่นนั้นเป็นคนละเรื่องกัน

เพราะถ้าดำเนินการกับเว็บไซต์ Pornhub เพราะเรื่องสื่อลามก แต่กลับไม่ดำเนินการกับเว็บไซต์อื่นๆ ที่มีเนื้อหาหรือดำเนินการในลักษณะเดียวกัน หรือแม้แต่ที่เลวร้ายกว่า Pornhub มันก็พอชี้ได้ว่า การอ้างกฎหมายนั้นเป็นไป เพราะมุ่งจะจัดการกับอะไรบางอย่างใน Pornhub ไม่ใช่เพียงปัญหาเรื่องสื่อลามกอนาจารเท่านั้น เพราะถ้าต้องการจะปราบปรามสื่อที่ผิดกฎหมายแล้ว สื่ออื่นที่ผิดกฎหมายเช่นกัน และยิ่งกว่าก็น่าจะโดนไปพร้อมกันด้วย

เช่นเดียวกับที่ผู้ร่วมชุมนุมโดนตำรวจตั้งข้อหาตั้งสิ่งของกีดขวางทางเท้า หรือทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง โดยถัดออกไปไม่กี่ถนน มีคนแถวนั้นเอาโอ่งอ่างกระถางกรวยมาวางไว้บนทางเท้าหน้าบ้านตัวเอง หรือวางเก้าอี้พลาสติกไว้บนถนนเพื่อกันที่จอดรถหน้าบ้านไว้เพื่อตัวเอง โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ไม่เคยว่าอะไร ก็น่าจะพอชี้ได้ว่า การใช้ข้อหาเกี่ยวกับความสะอาด หรือการจราจรอะไรที่ว่านั่น เป็นแค่ข้ออ้างบังหน้าในการหาทางเอาผิดกับผู้ชุมนุมนั่นเอง

หรือชัดเจนกว่านั้นคือ การชุมนุมทางการเมืองเหมือนกัน ต่างกันแค่ใส่เสื้อสีต่างกัน การดำเนินคดีกลับต่างกันลิบลับ ฝ่ายหนึ่งถูกจับกุมเอาตัวเข้าเรือนจำ คัดค้านการประกันตัว ขนาดศาลให้ประกันยังไปควานหาหมายมาอายัดตัวแบบไม่จบไม่สิ้น ในขณะที่ผู้ชุมนุมอีกกลุ่มใส่เสื้อสีถูกระเบียบ โดนแค่ปรับ 200 บาท ในคดีขี้หมูราขี้หมาแห้ง เหมือนดำเนินคดีแค่พอแก้บนกันคนนินทา

เรายอมรับได้ในฐานะมนุษย์ปุถุชนว่า การที่อำนาจรัฐนั้นมาช่วยแก้ปัญหาให้เรา โดยเฉพาะถ้ามันเป็นการหยุดการรังควานรบกวนเรา ในฐานะของผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย เพราะเรื่องนั้น มันก็ปฏิเสธความพอใจ หรือรู้สึกสบายใจได้ยากอยู่

แต่ถ้าเราเชื่อว่า เรากำลังต่อสู้เพื่อหลักการบางอย่างที่สำคัญกว่าประโยชน์ส่วนตัวของเรา สิ่งที่เราควรแสดงออกมา คือ การประกาศออกมาดังๆ ว่าการใช้อำนาจรัฐเช่นนั้น มันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เป็นการบิดเบือนวัตถุประสงค์ของกฎหมาย และเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ เหมือนเช่น
เรื่องอื่นๆ ที่เราไม่ได้มีประโยชน์ร่วมไปด้วย

การเอาความคิด ความเชื่อ หรือประโยชน์ส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องหลักการ ยอมหลับตาให้การใช้อำนาจเผด็จการบ้าง ถ้าเรื่องนั้นเป็นประโยชน์ต่อเราที่กำลังต่อสู้เรียกร้องอยู่ มันก็คือ การไล่ตะเพิดเจ้าตัวอย่างว่า แต่ถ้ามันไข่ออกมาก็หยิบใส่ปากกิน

มันก็อาจจะทำให้คนที่ร่วมต่อสู้กันมา หรือเคยศรัทธากันรู้สึกเสื่อมถอย จนตำหนิออกมาดังๆ ว่า ดัดจริตผิดบริบท หรืออาจจะรู้สึกว่า สรุปว่าที่เคยเรียกร้องมานั้น ต่อสู้มานี้ ที่แท้แล้วคือ ของปลอม เป็นเพียงการต่อต้านอำนาจที่ไม่เข้าข้าง หรือไม่ให้ประโยชน์กับตัวเอง แค่นั้นหรือ ?

กล้า สมุทวณิช

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image