ถ้าทรัมป์ ไม่ยอมส่งมอบตำแหน่งประธานาธิบดี ; ตำแหน่งก็จะไปจากทรัมป์เอง

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐบาลมลรัฐแต่ละมลรัฐที่จะต้องจัดการเลือกตั้ง โดยเอกเทศและส่งผลการเลือกตั้งให้กับสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพื่อประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 14 ธันวาคม ของทุก 4 ปีที่มีการเลือกตั้ง

กระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีนี้ดำเนินมากว่า 200 ปีแล้วมีเพียงครั้งเดียวที่อดีตประธานาธิบดีคนที่ 2 นายจอห์น แอดัมส์ ปฏิเสธที่จะส่งมอบตำแหน่งให้นายโทมัส เจฟเฟอร์สัน ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ พ.ศ.2343 แต่ตำแหน่งประธานาธิบดีก็จากไปโดยกลไกตามรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา โดยอัตโนมัติเมื่อถึงวันที่ 4 มีนาคม ที่ประธานาธิบดีคนใหม่ต้องเข้ารับตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ (ต่อมาในพ.ศ.2476 มีการแก้ไขในบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตราที่ 20 เลื่อนให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 20 มกราคมแทน)

สาเหตุที่อดีตประธานาธิบดีจอห์น แอดัมส์เคียดแค้นอดีตประธานาธิบดีโทมัส เจฟเฟอร์สัน มากถึงกับไม่ยอมส่งมอบตำแหน่งประธานาธิบดีก็เนื่องจากการเลือกตั้งของปี พ.ศ.2343 ถือเป็นครั้งแรกที่มีการขับเคี่ยวแข่งขันกันตามระบบพรรคการเมืองเป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาโดยการหาเสียงของแต่ละฝ่ายย่อมมีการกล่าวหา โฆษณาชวนเชื่อ สาดโคลนเข้าใส่กัน ซึ่งนักการเมืองบางคนที่ใจคอไม่มั่นคงพอ ยอมรับไม่ได้จึงเป็นสาเหตุที่จอห์น แอดัมส์ ไม่ยอมส่งมอบตำแหน่งประธานาธิบดีให้แก่โทมัส เจฟเฟอร์สันนั่นเอง

ความจริงในรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกาไม่มีการกล่าวถึงพรรคการเมืองเลยนะครับเพราะบรรดาคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญเห็นว่าการมีพรรคการเมืองนั้นเป็นการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายและเป็นที่มาของการเล่นพวกพ้อง จึงไม่ปรารถนาให้มีพรรคการเมืองเกิดขึ้นและในการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2 ครั้งแรกมลรัฐทั้งหลายก็พร้อมกันเลือกจอร์จ วอชิงตัน แม่ทัพใหญ่ฝ่ายอเมริกันในสงครามประกาศอิสรภาพจากอังกฤษโดยพร้อมเพรียงกันถึง 2 สมัยโดยเลือกจอห์น แอดัมส์เป็นรองประธานาธิบดีทั้ง 2 สมัยเช่นกัน ดังนั้นจอห์น แอดัมส์จึงได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเมื่อจอร์จ วอชิงตันปฏิเสธที่จะเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 3

Advertisement

ในที่สุดพรรคการเมืองของอเมริกาก็เกิดขึ้นตามธรรมชาติ คือ ธรรมชาติมนุษย์มักเล่นพวกโดยสันดานอยู่แล้วและพรรคการเมืองมักใช้การโฆษณาชวนเชื่อ ใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายตรงข้ามและเล่นพวกอย่างเปิดเผย ดังนั้นหากผู้คนยังไม่ตระหนักในธรรมชาติของพรรคการเมืองและธรรมชาติของมนุษย์แล้วก็คงทำใจไม่ค่อยได้แบบจอห์น แอดัมส์

แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ที่ยังพยายามต่อสู้เพื่อที่ดำรงอยู่เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ทั้งๆ ที่ผลแพ้ชนะออกมาอย่างชัดเจนไม่มีข้อกังขาแล้ว เนื่องจากตัวประธานาธิบดีทรัมป์มีคดีความติดตัวนับพันคดีรวมทั้งคดีหลีกเลี่ยงภาษีที่ถือเป็นคดีอาญาอีกหลายคดีที่ยังไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากทรัมป์ยังเป็นประธานาธิบดีอยู่ เมื่อทรัมป์หลุดจากตำแหน่งแล้วคดีความก็จะดำเนินต่อไปตามปกติ ซึ่งไม่เป็นที่พึงปรารถนาของทรัมป์อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วและกำลังจะเกิดขึ้นตามกลไกของรัฐธรรมนูญมีดังต่อไปนี้

Advertisement

1.หน่วยตำรวจลับซึ่งมีหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีสหรัฐ จะแบ่งกำลังในการให้การอารักขาทั้งประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่งคือ ทรัมป์ และประธานาธิบดีคนต่อไปคือ นายโจ ไบเดน เรียบร้อยแล้ว

2.สำนักข่าวกรองกลาง (CIA) ได้เริ่มต้นรายงานแบบบรรยายสรุปแก่ประธานาธิบดีทั้งสอง โดยเฉพาะข่าวที่ลับสุดยอดสำหรับผู้บัญชาการทหารสูงสุดเท่านั้น ซึ่งในสหรัฐอเมริกาคือ ประธานาธิบดีนั่นเอง

3.หน่วยต่อต้านข่าวกรอง (The counter intelligence) ของ CIA เริ่มต้นบรรยายสรุปให้ประธานาธิบดีทั้ง 2 คน

4.พนักงานประจำที่ทำงานอยู่ในทำเนียบขาวเริ่มเตรียมพร้อมที่จะทำการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทำเนียบขาวให้ตรงกับรสนิยมของประธานาธิบดีคนใหม่

5.ภายในเที่ยงวันของวันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2564 พนักงานประจำของทำเนียบขาวจะขนสิ่งของสัมภาระของประธานาธิบดีคนเดิมออกจากทำเนียบขาว และขนสิ่งของสัมภาระของประธานาธิบดีคนใหม่เข้าแทนที่ในทำเนียบขาว

6.จะหยุดทำการหักค่าเช่าทำเนียบขาวจากเงินเดือนประธานาธิบดีทรัมป์ในเดือนมกราคม พ.ศ.2564

7.จะเริ่มหักเงินเดือนของประธานาธิบดีไบเดนในเดือนมกราคม พ.ศ.2564

8.นางเมลาเนีย ทรัมป์ จะหยุดเป็นผู้ดูแลสูงสุดของทำเนียบขาวในวันที่ 20 มกราคม เวลาเที่ยงวัน

9.นางจิล ไบเดน จะเป็นผู้ดูแลสูงสุดของทำเนียบขาวในวันที่ 20 มกราคม เวลาเที่ยงวัน

10.บรรดาหน่วยงานที่สำคัญต่างๆ อาทิ กระทรวงกลาโหม, ซีไอเอ, เอฟบีไอ, สำนักงานอัยการสูงสุด จะตัดการติดต่ออย่างเป็นทางการกับประธานาธิบดีทรัมป์ ส่วนหน่วยตำรวจลับ ซึ่งมีหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ลดระดับการติดต่อกับประธานาธิบดีทรัมป์ แต่ยังคงให้การคุ้มครองประธานาธิบดีทรัมป์ไปตลอดชีวิตตามกฎหมาย

11.รถประจำตำแหน่ง และเครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดีจะทำความเคารพครั้งสุดท้ายต่อประธานาธิบดีทรัมป์ และจะบริการประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต่อไปโดยอัตโนมัติ และรถประจำตำแหน่งจะมีชนิดเลือดของประธานาธิบดีไบเดน สำรองประจำรถตามประเพณีเช่นกัน

โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image