ก้อนด้ายที่ยุ่งเหยิง

ความเป็นไปของโลกที่ผ่านมาก็วุ่นวายหลายต่อหลายเรื่องอยู่แล้ว ทั้งสงครามกลางเมือง การก่อการร้าย ภัยพิบัติธรรมชาติ และอื่นๆ อีกมากมาย

แต่เมื่อมาเจอภัยร้ายจาก “โควิด-19” โหมใส่เข้ามาอีก ทำให้โลกที่เปรียบเหมือนก้อนด้ายใหญ่ ยิ่งมีเงื่อนปมพันกันไปมายุ่งเหยิงมากกว่าเดิม

แต่ละประเทศต่างพยายามแกะปมด้ายตัวเองเพื่อผ่อนคลายวิกฤต

รวมทั้งไทยที่ก้อนด้ายก็ยุ่งขิงไม่น้อย ก็พยายามแงะเงื่อนปมเส้นด้ายด้านต่างๆ ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ที่ผูกปมโยงใย นุงนัง พันกันไปหมด

Advertisement

การแกะปมแต่ละด้านไม่ง่ายดาย หากแงะปมด้ายด้านหนึ่งออกมา อาจไปดึงปมให้ด้ายเส้นอื่นมัดแน่นกว่าเดิม

หลังไทยเจอพิษโควิด ด้ายเส้นแรกที่ต้องจัดการคือด้านสาธารณสุข แม้จะทำให้ด้ายด้านเศรษฐกิจมีปมยุ่งกว่าเดิมก็ต้องยอม

ผลที่ออกมาถือว่าทำได้ดี ไทยรอดพ้นจากการระบาดของโควิดมาได้อย่างยอดเยี่ยม ได้รับคำชมจากนานาชาติ โดยองค์การอนามัยโลกยกให้ไทยเป็นตัวอย่างที่ดีในการรับมือกับโควิด-19

Advertisement

ขณะที่สภาผู้เชี่ยวชาญสหวิชาชีพในระดับนานาชาติ จัดให้ไทยเป็นประเทศที่ฟื้นตัวจากการระบาดของโรคโควิด-19 ดีที่สุดเป็นอันดับ 1 จาก 184 ประเทศทั่วโลก

เมื่อจัดการสาธารณสุขได้ดี จึงเริ่มคลี่เส้นด้ายเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่ง่าย เพราะต้องผูกโยงกับทั่วโลก โดยเฉพาะการส่งออกและการท่องเที่ยว

กระนั้นก็มีแนวโน้มดีขึ้น การส่งออกเดือนตุลาคม ติดลบ 6.71% ดีกว่าที่คาด ทำให้ยอดรวมส่งออก 10 เดือนของปี 2563 ติดลบที่ 7.26% ถือว่าฟื้นตัวดีขึ้น จากที่เคยติดลบหนักสุดเมื่อมิถุนายนที่ลดลงมากถึง 23.17% พอมาเดือนกรกฎาคม ติดลบ 11.37% สิงหาคม ติดลบ 7.94% และกันยายน ติดลบ 3.86% คาดว่าการส่งออกทั้งปีอาจติดลบแค่ 7% จากที่หลายฝ่ายคาดว่าจะติดลบ 10-15%

ขณะที่สภาพัฒน์รายงานว่า จีดีพีไตรมาส 3 ปีนี้ลดลง 6.4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ที่ผ่านมา รวม 9 เดือนแรกปีนี้ จีดีพีติดลบ 6.7% จึงปรับประมาณการจีดีพีทั้งปีนี้จากเดิมคาดว่าจะติดลบ 7.8%-7.3% เป็นลบแค่ 6% ส่วนปี 2564 คาดว่าจีดีพีจะขยายตัว 3.5-4.5%

ส่วนมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง แม้จะมาช้าแต่ก็ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้ดี ลงถึงระดับล่างอย่างร้านค้ารายย่อย หาบเร่แผงลอย

แต่การท่องเที่ยวไทยยังหนักหนาสาหัสอยู่ แม้รัฐจะมีโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “กำลังใจ” ยังไม่หวือหวามากนัก

ที่สำคัญคือรายได้จากการท่องเที่ยวของไทยปีละกว่า 3 ล้านล้านบาท มาจากต่างชาติกว่า 70% หรือกว่า 2 ล้านล้านบาท เมื่อเส้นด้ายการท่องเที่ยวไทยผูกโยงกับโลกอย่างแน่นหนา จึงไร้คนต่างชาติเข้ามา ถึงกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศได้ผลดีแค่ไหน ก็ยังไม่อาจทดแทนรายได้ที่หายไปจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้

ดังนั้น การคลี่ปมการท่องเที่ยวยังต้องอาศัยการคลายเส้นด้ายจากประเทศต่างๆ ด้วย

อีกปมด้ายของไทยยังพันกันนุงนัง คือการเมือง แม้จะเริ่มแกะปมเรื่องรัฐธรรมนูญ ตั้งไข่ กมธ.ขึ้นมาพิจารณาแก้ไขแล้ว แต่ไม่รู้ว่าระหว่างทางจะมีเงื่อนปมใหม่หรือไม่

ขณะที่การชุมนุมของกลุ่มราษฎรอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นอีกเงื่อนปมที่ต้องค่อยๆ คลี่คลาย ซึ่งสภากำลังตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ เพื่อเป็นเวทีช่วยกันงัดแงะเส้นด้ายนี้ด้วยสันติวิธี

หากคลี่ด้ายการเมืองไม่ดี เกิดเสียดสีจนขาด หรือมีประกายไฟขึ้นมา จะดึงรั้งด้ายสังคมและเศรษฐกิจที่เริ่มดีกลับไปมีเงื่อนปมใหม่อีก ทำให้ประเทศชาติเสียหายย่อยยับ

ต้องวุ่นวายกับก้อนด้ายที่ยุ่งเหยิงกว่าเดิม กว่าจะทอด้ายเส้นใหม่หรือเริ่มแกะปมอีกครั้ง ประชาชนต้องทนทุกข์กับก้อนด้ายตัวเองที่นุงนังไปอีกนาน

สราวุฒิ สิงห์เอี่ยม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image