เป็นอีกหนึ่งช็อตสำคัญต้องติดตาม โดยเฉพาะสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลุ้นคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้นวันที่ 2 ธันวาคมนี้ กรณีการพักอาศัย “บ้านหลวง” ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
มีผลอย่างสำคัญต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมของ พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่หรือไป
คดีที่ว่าเป็นผลจากพรรคเพื่อไทยยื่นคำร้องต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภา ส่งผ่านไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสามประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.
ประยุทธ์ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) และมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง และมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3) หรือไม่
ขยายความคำร้องดังกล่าว สืบเนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ และครอบครัวอาศัยอยู่ในบ้านพักกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ตั้งแต่เมื่อครั้งรั้งเก้าอี้ ผบ.ทบ. ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 จนถึงปัจจุบันแม้เกษียณอายุราชการเมื่อปี 2557 แล้วก็ตาม
การอยู่ “บ้านหลวง” ทั้งที่พ้นจากราชการมามีตำแหน่งทางการเมืองคือ นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม อาจเข้าข่ายรับประโยชน์ใดๆ จากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ อันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 186 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 184(3)
ทั้งเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้นำมาใช้กับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 170(4) ประกอบมาตรา 160(5)
คอการเมืองวิเคราะห์ค่อนข้างให้น้ำหนัก พล.อ. ประยุทธ์มีโอกาสรอดสูง
ยกเหตุผลรองรับจากหนังสือของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ครั้งดำรงตำแหน่ง ผบ.ท.บ.ชี้แจงต่อศาล
รัฐธรมนูญ ทำนองว่ากองทัพบกเห็นความสำคัญในการดูแลอดีตผู้บังคับบัญชาที่ดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น องคมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา จึงได้จัดให้มีบ้านพักรับรองในพื้นที่ของกองทัพบก เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นบุคคลสำคัญระดับประเทศ ทำคุณประโยชนให้กับประเทศและกองทัพบก หากพักอยู่นอกเขตทหารจะทำในเกิดความยากลำบากในการรักษาความปลอดภัย จึงอนุมัติให้เข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองของกองทัพบกได้
สำทับด้วยหนังสือชี้แจงของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ในฐานะ ผบ.ทบ.คนล่าสุด มีต่อศาลรัฐธรรมนูญเช่นกัน ระบุว่า บ้านพักที่ พล.อ.ประยุทธ์อยู่อาศัยตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ. จัดเป็น “บ้านพักสวัสดิการ” สำหรับนายทหาร กระทั้งเมื่อปี 2555 กองทัพบกได้เปลี่ยนสถานภาพจากความเป็นบ้านพักสวัสดิการ มาเป็น “บ้านรับรอง” สำหรับบุคคลที่ทำประโยชน์ให้กองทัพบกและประเทศชาติได้พำนัก
ฟังดูก็พอมีเหตุมีผล แต่ต้องไม่ลืมว่า คำชี้แจงจากกองทัพบกเกี่ยวกับ “บ้านหลวง” มีสถานะเสมอระเบียบของหน่วยราชการ
มีน้ำหนักเพียงพอจะโต้แย้งบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ กฎหมายสูงสุดของประเทศ หรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์เคยรอดพ้นจากคำร้องถึงปัญหาคุณสมบัติว่า มี “ลักษณะต้องห้าม” ดำรงตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็น “หัวหน้า คสช.” ที่ถือเป็น “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (6) ระบุว่า รัฐมนตรีจะต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 จึงอาจเข้าข่ายไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้
ที่สุดศาลรัฐธรรมนูญมีมติตำแหน่งหัวหน้า คสช.ไม่ถือเป็น “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” ทำให้รอดตัวมาได้
2 ธันวาคมนี้ เป็นอีกหนึ่งวาระ พล.อ.ประยุทธ์ต้องลุ้นระทึกอีกครั้ง
สัญญา รัตนสร้อย
