นิธินันท์ ยอแสงรัตน์ : ผู้ใหญ่ไดโนเสาร์กับโปเกมอน โก

มิตรสหายท่านหนึ่งรำพึงว่า จะดูความคร่ำครึ ขวัญอ่อน หวั่นไหวและต่อต้านความท้าทายใหม่ๆ ของผู้นำไทยและชนชั้นกลางถึงสูงเสียงดังในสังคมไทยไม่ต้องดูไกล ดูปฏิกิริยาต่อเกม “โปเกมอน โก” ก็รู้แล้ว

สังคม “วัฒนธรรมอ่อน” ตามที่อาจารย์วีรพงษ์ รามางกูรว่า ซึ่งสร้างขึ้นโดยชนชั้นปกครองไทยเพื่อให้คนไทยก้มหน้าก้มตาทำตามคำสั่งผู้นำไม่หืออือ ครอบคนไทยรุ่นเก่าๆ ส่วนใหญ่เกือบอยู่หมัด เมื่อคนไทยรุ่นใหม่ที่เกิดและเติบโตกับเทคโนโลยีใหม่ มีของเล่นใหม่เป็นตัวการ์ตูนหน้าตาละม้ายสิ่งมีชีวิตรุ่นไดโนเสาร์ให้ไล่จับโดยที่ผู้ปกครองไดโนเสาร์ไม่รู้จักมันเลย

ผู้ปกครองไดโนเสาร์ที่ไหนจะไปทนได้

ย่อมต้องต่อต้านไว้ก่อนว่าของเล่นนี้ไม่เหมาะสม น่ากลัว และอันตรายมาก ทั้งๆ ที่ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับมันแม้แต่น้อย

แนวคิดประเภทเกมโปเกมอนโกเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ จนอาจต้องมีการหารือกันหลายฝ่ายเพื่อ “แบน” เกมจึงเกิดขึ้น

Advertisement

ประมาณห่วงความลับชาติจะถูกล้วง และห่วงเยาวชนจะเป็นอันตรายหรือโง่เพราะเอาแต่หมกมุ่นเล่นเกมนี้

ผู้เล่นโปเกมอนบางคนอาจเอาแต่เล่นจนไม่ใส่ใจความปลอดภัยหรือสิทธิของผู้อื่นจริง และจุดโปเกสต็อป (Pokestop) บางจุดก็อาจอยู่ใกล้ห้องอีอาร์ของโรงพยาบาลหรืออยู่ใกล้เขตทหารจริง ดังนั้นตัวโปเกมอนก็อาจไปโผล่ในห้องอีอาร์หรือเขตทหารได้จริง แม้ว่าความจริงผู้เห็นโปเกมอนไม่จำเป็นต้องเข้าไปจับในห้องอีอาร์หรือเข้าไปในเขตหวงห้ามจริง เนื่องจากสัญญาณที่เห็นเป็นการจำลองสถานที่ผ่านระบบ WiFi และ Cell ซึ่งไม่ใช่ GPS โดยตรง

หากรู้จักโปเกมอนโก จะรู้ว่าการจัดการเรื่อง “เขตห้ามเข้า” ทำได้ง่ายมาก นั่นคือ เพียงเจ้าของพื้นที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปก็จบ หรือเพียงเจ้าของพื้นที่ยื่นเรื่องต่อทีมพัฒนาเกมไนอานติก (Niantic) ให้ปรับปรุงที่ตั้งโปเกสต็อปก็จบ

Advertisement

โปเกสต็อปไม่ได้เกิดจากทีมพัฒนาเกมกำหนดขึ้นเองเพราะอยากล้วงความลับใคร แต่มันพัฒนามาจากที่ตั้งเสาพอร์ทัล (portal) ของเกมอินเกรส (Ingress) ซึ่งเคยฮิตมากๆ เมื่อประมาณ 4 ปีก่อนในหมู่นักเล่นเกมตัวจัดๆ โดยผูกอยู่กับกูเกิ้ลแมพ (ไม่ได้ไปปักเสาจริงๆ) จุดตั้งเสานี้ผู้เล่นเกมเป็นคนกำหนดและส่งคำขอตั้งไปที่ทีมพัฒนาเกม

ที่ตั้งเสาพอร์ทัลของนักเล่นเกมทั่วโลกมักเป็นแลนด์มาร์คสำคัญต่างๆ ของชุมชน ในเมืองไทยก็ได้แก่ศาลพระภูมิ, ร้านอาหาร, ป้ายชื่ออาคารใหญ่ๆ, ตลาด และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

ผู้เล่นอินเกรสไม่เคยไปตั้งเสาพอร์ทัลในเขตทุ่งนาป่าเขาหรือป่าสงวน (แต่บริเวณโบราณสถานนั้นอีกเรื่องหนึ่ง) ดังนั้น เมื่อมันพัฒนามาเป็นโปเกสต็อป คนอยู่ไกลเมืองจึงมักบ่นว่าแทบไม่มีโปเกสต็อปและโปเกมอนให้จับ

ดังนั้น นอกจากจะมีผู้บอกว่า เกมนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ความก้าวหน้าล้าหลังของผังเมืองต่างๆ จึงมีผู้บอกด้วยว่าเกมนี้สะท้อนความไม่เท่าเทียมทางสังคม และแม้ผู้เล่นเกมอินเกรสซึ่งเป็นผู้ตั้งเสาพอร์ทัลจะไม่ได้มีเจตนาดังกล่าว พื้นที่ของเกมอินเกรสกับโปเกมอนโกก็ชี้ชัดว่าโอกาสเข้าถึงเกมของชาวบ้านทั่วไปในต่างจังหวัดมีน้อยกว่าคนในเมืองเห็นๆ

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ไม่มีอะไรเลยเกี่ยวข้องกับประเด็นบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ ถ้ากังวลว่าผู้คนจะล่วงรู้สถานที่ตั้งของหน่วยราชการด้านความมั่นคง เราๆ ท่านๆ คงทราบกันดีว่ากูเกิ้ลแม็พเปิดเผยให้โลกเห็นทั้งหลังคาบ้าน หน้าบ้าน หลังบ้าน ข้างบ้านของเราตลอดจนถนนหนทางขึ้นรถลงเรือไปเหนือล่องใต้ทะลุออกซอกนั้นซอยนี้มานานหลายปีแล้ว

กล่าวในแง่ที่ว่า หากป้ายบอกเขตทหารเป็นโปเกสต็อป คนจับโปเกมอนก็เพียงหยุดแถวๆ ป้ายนั้นเพื่อหมุนโปเกสต็อปในโทรศัพท์มือถือของตัวเอง เก็บลูกบอลที่โผล่มาจากโปเกสต็อปหน้าจอมือถือ แล้วก็เอาลูกบอลนั้นไปจับโปเกมอนซึ่งจะออกมายั่วยวนให้จับหน้าจอสักตัวสองตัวหรือมากกว่านั้นในบริเวณไม่ห่างจากโปเกสต็อป ซึ่งปกติจะไม่อยู่ในพื้นที่ปิด หมายความว่าไม่ต้องปีนรั้วไปจับในเขตทหาร

โปเกมอนไม่ได้กระโดดออกมาจากจอมือถือแล้ววิ่งซอกซอนไปล้วงความลับในเขตหวงห้ามต่างๆ ให้ปั่นป่วน โปเกมอนยังคงอยู่หน้าจอของผู้เล่น

ปัญหาที่เกิดขึ้นจากเกมโปเกมอนโก ควรเป็นเรื่องของความน่ารำคาญคนแปลกหน้าที่มาป้วนเปี้ยนให้เห็นมากกว่าความน่ากลัว รวมถึงเรื่องความไม่ปลอดภัยของผู้เล่นเกมเอง ซึ่งอาจก้มหน้าก้มตาเล่นจนไม่ดูสภาพแวดล้อมจนเดินไปชนคน ชนรถ ชนต้นไม้ หรือตกท่อ แต่เรื่องแบบนี้มักไม่อยู่ยั้งยืนยง ในที่สุดคนเล่นจะต้องมีการปรับตัว เพราะเดินสุ่มสี่สุ่มห้าจนประสบอุบัติเหตุก็พลาดโอกาสจับโปเกมอนอยู่ดี

ผู้ใหญ่ไดโนเสาร์ไม่ควรต้องหวั่นไหวเกินเหตุกับโปเกมอนโก ว่าจะบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติหรือทำให้เยาวชนโง่ แต่ควรช่วงชิงโอกาสนี้ส่งเสริมความฉลาดของเยาวชน (และตนเอง) ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ชักชวนเยาวชนเขียนถึงสถานที่สำคัญต่างๆ ในชุมชนที่เป็นจุดโปเกสต็อปแล้วจัดประกวดชิงรางวัล หรือหาหนทางทำมาหากินในยามเศรษฐกิจซบเซา เช่น ชวนนักล่าโปเกมอนเข้ามานั่งดื่มกินในร้านอาหารของตนซึ่งเป็นจุดโปเกสต็อปเป็นต้น

ผู้ใหญ่ไดโนเสาร์ต้องสอนตัวเองให้เข้าใจว่าพัฒนาการต่างๆ ในสังคมเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีสังคมไหนอยู่ในกะลาใบเดิมได้ตลอดกาล คนของวันนี้ย่อมมีชีวิตในความเคลื่อนไหวของวันนี้และอนาคต

การเป็นไดโนเสาร์ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ไม่มีใครรังเกียจไดโนเสาร์ในฐานะตัวแทนอดีตที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และหน้าตาของไดโนเสาร์ก็น่ารัก แต่มันย่อมเป็นเรื่องน่าอาย ถ้าไดโนเสาร์อาละวาดฟาดงวงฟาดงาบังคับคนยุคหลังไดโนเสาร์ให้เชื่อว่าโลกวันนี้ยังอยู่ในยุคไดโนเสาร์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image