ปฏิกิริยา รธน. ชะตากรรม รธน. บวรศักดิ์-มีชัย

มิใช่แต่เพียงนักการเมืองที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีจุดยืนชัดเจนว่าเขียนขึ้นมาเพื่อจำกัดอำนาจของฝ่ายการเมือง

หรือเสียงจากแวดวงนักวิชาการทั้งด้านนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์เท่านั้น

ที่แสดงจุดยืน-ท่าทีคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับของนายมีชัย ฤชุพันธุ์

กระทั่งผู้ที่อยู่ในฝั่งเดียวกันหรือเป็นคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) หรือแม้กระทั่ง คสช.

ก็ยังมีเสียงแปร่งปร่าต่อรัฐธรรมนูญนี้

ADVERTISMENT

นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท. กล่าวว่า

สปท.การเมืองประชุมหารือถึงรัฐธรรมนูญร่างแรกของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในภาพรวมถือว่ามีเนื้อหาดี แต่ยังมีจุดบกพร่องที่ควรปรับปรุงได้แก่

1.การเลือกตั้งระบบจัดสรรปัน 2.การเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว 3.เรื่องการเลือกตั้ง ส.ว. 20 กลุ่มอาชีพ แบบไขว้กันระหว่างกลุ่ม

4.พรรคการเมือง ซึ่งในรัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุถึงกลไกที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของพรรคการเมืองอย่างแท้จริง

5.คุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ กรธ.ไม่ได้ระบุให้ผู้สมัครต้องยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีย้อนหลังให้ประชาชนทราบ

6.การเพิ่มอำนาจให้ศาลรัฐธรรมนูญมากเกินไป

7.การให้พรรคการเมืองเสนอชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 3 คน

และ 8.การปิดช่องให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ยากในทางปฏิบัติ อาจทำให้เกิดวิกฤตในอนาคตได้

ประเด็นเหล่านี้เป็นจุดอ่อนในรัฐธรรมนูญที่ สปท.การเมืองจะรายงานต่อที่ประชุม สปท.ในวันที่ 8-9 ก.พ.นี้ เพื่อให้ทำเป็นมติ สปท.เสนอต่อ กรธ.นำไปทบทวนแก้ไขต่อไป

เชื่อว่าหาก กรธ.รับฟังความเห็น และปรับปรุงแก้ไข จะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ

แต่หากยังยืนยันตามร่างเดิม อาจจะถูกต่อต้านจนไม่ผ่านประชามติได้

นายวิทยา แก้วภราดัย สปท.ด้านการเมือง กล่าวถึงการประชุมร่วมกันของ สปท. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ กรธ.ในวันที่ 3 ก.พ. เพื่อซักถามประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ว่า

กมธ.การเมืองมีมติเสนอคำถามที่จะถาม กรธ. 4 ข้อ คือ

1.หลังร่างรัฐธรรมนูญประกาศใช้ไปแล้ว ได้กำหนดให้ กรธ.จัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญจำนวน 10 ฉบับ และกำหนดให้ สปท.ทำงานอีก 1 ปี จึงจะถาม กรธ.ว่าในช่วงเวลา 1 ปีที่เหลือภารกิจของ สปท.จะทำอะไรต่อ

2.กรณีที่ห้าม ส.ส.แปรญัตติงบประมาณ ที่รัฐธรรมนูญเขียนว่าโครงการใดๆ ในความหมายคือมีอะไรบ้าง

3.สิทธิเสรีภาพ ของปวงชนชาวไทย ในเรื่องความเสมอภาคของต่างด้าว ในความเป็นมนุษย์จะได้รับความเสมอภาคเหมือนคนไทยหรือไม่

และ 4.หลังจากจากนี้ไปแล้ว กรธ.จะมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ สปท.อีกหรือไม่

โดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธาน กมธ.การเมือง จะเป็นผู้เสนอคำถาม

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการประชุมในวันที่ 3 ก.พ.เป็นการเป็นการประชุมเพื่อซักถาม กรธ.ในประเด็นที่ไม่เข้าใจ และไม่มีความชัดเจนในร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น

ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด

ไม่แต่ สปท. ที่ยังมีข้อสงสัย

ในการชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญกับ คสช. แบบไม่เป็นทางการในรอบแรกก็ยังมากด้วยคำถาม

รวมไปถึงการนำดเอาเสียงสะท้อนที่เป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อร่างรัฐธรรมนูญเสนอให้นายมีชัยได้รับทราบ

และมีข้อตกลงว่า สนช. และ สปท. จะรวบรวมข้อสงสัย ปัญหา และความเห็นของสังคมมาให้กับ คสช.พิจารณา

เพื่อทบทวนและหารือทั้งจุดยืนและท่าทีต่อร่างรัฐธรรมนูญอีกครั้ง

ความไม่เป็นเอกภาพต่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับของนายมีชัยเดินไปซ้ำรอยเดิมกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ คือถูกล้มเสียตั้งแต่ก่อนจะไปถึงการทำประชามติหรือไม่

ยังเป็นประเด็นที่ไม่สามารถมองข้ามได้

คำตอบที่เป็นจริงจะปรากฏในกลางเดือนกุมภาพันธุ์