โควิด-19 เป็นโรคระบาดที่ทำลายความปกติในชีวิตประจำวัน รักษาได้ หายได้ และตายได้เหมือนกับโรคอื่นๆ ทั้งหลาย แต่ก็ไม่ควรจะ เขย่าขวัญ กันเหมือนในหนังซอมบี้เกาหลี
การอธิบายเกี่ยวกับโรคด้วยความรู้เป็นสิ่งสำคัญเพราะจะทำให้รู้เท่าทัน รู้ประพฤติปฏิบัติในการป้องกันตัวเองและผู้อื่น
เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ขึ้น รัฐบาลควรจะต้องมีความสามารถในการอ่านเหตุการณ์ให้ออก ใช้ ความรู้ กับ ความฉลาด ในการอธิบายเพื่อสร้างความเข้าใจ และนำเสนอทางออกที่จับต้องได้ ไม่ใช่เอาแต่คุยโวโอ้อวดเพ้อๆ ไปว่า เราไม่ทิ้งกัน
ยกตัวอย่าง ในสถานการณ์ระบาดของโควิด รอบสอง นี้ เมื่อพบว่า แรงงานต่างด้าว กับ บ่อนการพนัน เป็นลูกระเบิด รัฐบาลนี้ถึงกับไปไม่เป็น!
เป็นความจริงว่า ประเทศไทยต้องการแรงงานจากต่างชาติและที่มีอยู่ในประเทศนับล้านคนก็มีทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย
ขบวนการลักลอบนำ แรงงานต่างด้าว เข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายนั้นมีอยู่จริง ทำกันเป็นขบวนการ ทำเป็นล่ำเป็นสัน
ที่สำคัญคือทำอย่างเปิดเผย เพียงแค่ไม่ไปเดินผ่าน ด่าน ตม.
ไม่มีผู้กล้าสักคนที่จะลงมือสะสางขบวนการที่ว่านั้น !
ส่วนบ่อนการพนันนั้น ตั้งแต่คนไทยออกไป ปอยเปต ไม่ได้ ตลอดแนวภาคตะวันออกของไทยก็เรียงรายไปด้วยบ่อน
ไม่ต้องพูดถึง ขาใหญ่ ทั้งหลายใน กทม.และปริมณฑลที่ใช้วิกฤตนี้เป็นโอกาสทำเงิน
ทั้งแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายและบ่อนการพนัน เป็นเรื่องผลประโยชน์ก้อนใหญ่ที่มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กับการซื้อขายตำแหน่งในวงราชการ
รัฐบาลนี้ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทำตัวแบบแก้ผ้าเอาหน้ารอด
ไม่ได้ใช้วิกฤตบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์แก่คนส่วนใหญ่
ไม่ได้ใช้โอกาสพัฒนาปรับปรุงด้านสุขอนามัยให้กับแรงงานต่างชาติที่ถูกกฎหมายในระบบนับล้านๆ คน มิหนำซ้ำยังปล่อยให้มีการตั้งข้อรังเกียจกันแบบ เหมาเข่ง หาว่าแรงงานต่างชาติเป็นตัวแพร่เชื้อโควิด-19
ที่โคม่าไปกว่านั้นคือ ทัศนคติ ของผู้ที่เป็นรัฐมนตรี!
จะว่าไปรัฐบาลนี้ก็เหมือนเป็น วัวสันหลังหวะ จึงไม่ยอมใช้จังหวะโอกาสที่ได้เห็น แผลเน่า นี้ปรับปรุงพัฒนาระบบบริหารงานบุคคล ตำรวจ ทหาร และข้าราชการฝ่ายปกครอง
ขลาดกับโง่มารวมกันอยู่เมื่อใดก็บรรลัยเมื่อนั้น !?!!