ที่เห็นและเป็นไป : หวังวูบที่ กสทช.

ที่เห็นและเป็นไป : หวังวูบที่ กสทช.

ในสถานการณ์โลกที่ต้องเผชิญวิกฤตสารพัดเรื่อง รัฐบาลทุกชนชาติต้องแบกรับแรงบีบอัดมากมาย ในการนำพาประเทศให้ผ่านความยุ่งยากไปให้ได้

จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความเข้าอกเข้าใจจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้อยู่ในฐานะอำนาจหน้าที่กำหนดความเป็นไปของชาติ

คนในองค์กรที่กฎหมายให้อำนาจเพื่อทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของชาติ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำหน้าที่นั้นตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายอย่างเคร่งครัด และหวังผลได้ในประสิทธิภาพ

เบื้องต้นเลยนั้น คนที่ได้รับอำนาจเข้ามาเพื่อทำหน้าที่นี้จะต้องสละความพอใจ หรือไม่พอใจส่วนตัวออกจากทัศนคติที่ใช้ในการทำหน้าที่

Advertisement

จัดการให้ทัศนคติของตัวเองมีผลประโยชน์ของประเทศเป็นเป้าหมายหนึ่งเดียว

ปลุกพลังจิตให้เข้มแข็ง จริงจัง มั่นคงต่อประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ให้อคติใดๆ มาชี้นำทัศนคติได้

สภาวะจิตใจเช่นนี้ของคนในองค์กรที่มีอำนาจ มีความสำคัญยิ่งที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าเป็นการบริหารจัดการที่จะนำพาประเทศผ่านวิกฤตไปได้หรือไม่

Advertisement

โลกเวลานี้ เคลื่อนไปด้วยเทคโนโลยีการสื่อสาร เป็นยุคออนไลน์ ทุกอย่างพัฒนาและดำเนินการผ่านคลื่น

หากใครที่ติดตามและทำความเข้าใจยุคสมัยที่เรียกว่า 5จี จะรู้ดีว่าการพัฒนาทุกเรื่องในโลกนับจากนี้จะตัดสินความเหนือกว่ากันที่พัฒนาการเทคโนโลยีการสื่อสาร และโทรคมนาคม

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วยเทคโนโลยีนี้ถือเป็นการเปลี่ยนยุคครั้งใหญ่ของมนุษยชาติ

ประเทศจะพัฒนาไปได้จะต้องอาศัยผู้มีความรู้ความสามารถ และเชี่ยวชาญประสบการณ์การบริหารความทันสมัยเหล่านี้

ด้วยเหตุทั้งหลายเหล่านี้เองที่ทำให้ “คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ” หรือ กสทช. มีความสำคัญอย่างยิ่งจะต้องรักษาและต่อยอดความรู้และประสบการณ์เอาไว้

ความรู้ ความสามารถที่จะบริหารจัดการเทคโนโลยีแห่งยุค อย่างเข้าใจองค์ประกอบต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้วในประเทศ พร้อมทั้งมองเห็นเป้าหมายและวิธีการที่จะพัฒนาให้ก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้น ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดกับใครก็ได้

จะเป็นผลดีต่อการพัฒนาประเทศจะต้องส่งเสริมผู้มีประสบการณ์ให้ต่อยอดความรู้ความสามารถที่มีอยู่แล้วให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุผลนี้เอง เมื่อได้รับทราบ “ผลการสรรหาคณะกรรมการ กสทช.ชุดใหม่” จึงทำให้หลายคนเหลียวมามองด้วยความสนใจยิ่ง ว่าเกิดอะไรขึ้น

“ทำไมจึงมองไม่เห็น ไม่เคยรับรู้ถึงประสบการณ์ของผู้ที่ผ่านการสรรหา”

เกิดคำถามขึ้นมากมายว่า “ทำไมจึงทิ้งผู้ที่ชัดเจนว่ามีความรู้ความสามารถที่เกิดจากประสบการณ์มาต่อเนื่อง”

ยิ่งก่อความรู้สึกใจหายเมื่อหลังจากนั้นมีการบอกเล่ากันถึงเบื้องหลังการสรรหา ที่เกี่ยวข้องกับทัศนคติส่วนตัวอันเกิดจากบางเรื่องราวที่ไม่ใช่ประโยชน์ของชาติในเรื่องนี้โดยตรง

ซ้ำยังเล่าลือกันเรื่องผลประโยชน์ในเครือข่ายธุรกิจที่เกี่ยวข้องเข้ามาเป็นตัวกำหนด

โยงใยสู่การเข้ามาคุมการบริหารเพื่อเป้าหมายที่ยังเป็นข้อกังขาว่าเพื่อส่วนรวม หรือพวกพ้อง

ท่ามกลางยุคสมัยที่การบริหารเทคโนโลยีการสื่อสารเป็นตัวกำหนดชะตากรรมการพัฒนาประเทศ

คณะกรรมการ กสทช.ชุดใหม่ จะเป็นคำตอบว่าประเทศไทยเราจะก้าวร่วมยุคกับโลกสมัยใหม่ได้หรือไม่

ถ้าทัศนคติของการจัดการถูกกำหนดด้วยอคติบางอย่าง และอิทธิพลของบางสิ่งที่ทำให้ไม่หนักแน่นต่อผลประโยชน์ส่วนรวม

เป็นทัศนคติที่ไม่เห็นความจำเป็นของการก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง

ยังอยู่ในกรอบความคิด ความเชื่อแบบ “ให้ถนนลูกรังหมดไปก่อน”

ก็ เอวัง!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image