ปีนี้รัฐบาลไทย โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จัดให้วันตรุษจีน 12 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นวันหยุดพิเศษ รวมกับวันหยุดอื่นทั้งปีเป็น 28 วัน เดือนกุมภาพันธ์จึงมีวันหยุด “ยาว” ติดต่อกัน 3 วันสุดสัปดาห์นี้ คือ 12-13-14 กุมภาพันธ์ เป็น Long weekend
สถิติของสำนักทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย รายงานถึงสกุลแซ่ที่คนไทยเชื้อสายจีนใช้มีมากถึง 4,700 แซ่ และมีผู้ใช้ “แซ่” ขึ้นต้นสกุลทั่วประเทศมีจำนวน 773,117 คน อันดับสกุลแซ่ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในประเทศไทย 5 สกุลแซ่ตามลำดับ คือ แซ่ตั้ง (เฉิน) แซ่ลิ้ม (หลิน) แซ่หลี (หลี่) แซ่อึ้ง (หวง) และแซ่โง้ว (อู๋)
ชาวไทยเชื้อสายจีน คือชาวจีนที่เกิดในประเทศไทยและเป็นเชื้อสายของผู้อพยพชาวจีน ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีชาวจีนโพ้นทะเลมากที่สุด ประมาณกว่า 100 ปีนี้ ชาวจีนได้นำวัฒนธรรมแซ่เข้ามาพร้อมพัฒนาสังคม หลังจากนั้นมีการตั้งสกุลแซ่ขึ้น
ประเทศไทยเมื่อหลังประเทศจีนเปลี่ยนมาเป็นสาธารณรัฐประชาชนจีน จากการเมืองการปกครองในระบอบกษัตริย์มาเป็นประชาธิปไตยในระยะไม่นาน และปรับเปลี่ยนเป็นระบบคอมมิวนิสต์
ประเทศจีนปกครองในระบบจักรพรรดิมานานนับห้าพันปี กระทั่งมีการปฏิวัติซินไฮ่ เริ่มด้วยการก่อการ “อู่ชาง” นำไปสู่การโค่นล้มราชวงศ์ชิง และสิ้นสุดระบอบการปกครองจักรพรรดิ ได้รับการจัดตั้งเป็นสาธารณรัฐ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 1912 ถึงหลังคริสต์ศักราช 1949
เมื่อปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์ชิงได้สำเร็จ เปลี่ยนการปกครองเข้าสู่ระบอบสาธารณรัฐ กษัตริย์ปูยี เป็นกษัตริย์องค์สุดท้าย มีการชิงอำนาจของผู้นำทหารในยุคขุนศึก เมื่อเกิดการปฏิวัติชินไฮ่ พ.ศ.2454 โดย ดร.ซุนยัดเซ็น หัวหน้าพรรคก๊กมินตั๊ง เป็นผู้นำเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นประชาธิปไตย ต่อเมื่อ เหมา เจอ ตุง มายึดอำนาจปรับเปลี่ยนเป็นคอมมิวนิสต์ เมื่อ พ.ศ.2492 ด้วยเหตุการณ์สงครามกับญี่ปุ่น
นับแต่นั้นมา ราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนจึงขาดความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างนั้น ในยุค จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ปฏิวัติเมื่อ ปี 2501 ไทยขาดความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน คนไทยที่ใช้ “แซ่” ทั้งก่อนหน้านั้น และหลังจากนั้น ต้องขอเปลี่ยนเป็นนามสกุลกันเป็นแถว แถมยังถูกกีดกันจากรัฐบาลไทยมาโดยตลอด เช่นการเกณฑ์ทหาร และที่สุดต้องมีการยื่นแจ้งความเป็นคนไทยจากการเกิดเพื่อให้มีสิทธิเลือกตั้ง ด้วยการแจ้งกับอำเภอ
กว่าจะคลี่คลายได้ต้องใช้เวลาพอสมควร โดยเฉพาะการปฏิวัติ 6 ตุลาคม 2519 ขณะนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี นายดุสิต ศิริวรรณ เป็นรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เข้มงวดกับการมีพฤติกรรมเป็นคอมมิวนิสต์ของนิสิตนักศึกษาและนักหนังสือพิมพ์นักข่าว มีการสั่งปิดหนังสือพิมพ์รวม 13 ฉบับ
หลังจาก พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ปฏิวัติและเป็นนายกรัฐมนตรี เหตุการณ์จึงคลี่คลาย กระทั่งหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้รับเลือกตั้งและเป็นนายกรัฐมนตรีไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน พบกับเหมา เจอ ตุง สัมพันธ์ภาพทางการทูตจึงกลับมาอีกครั้ง
จากนั้นจนบัดนี้ “ไทยจีนใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ครับ
วันนี้ ราชอาณาจักรไทยให้วันตรุษจีนเป็นวันหยุดราชการ 1 วัน ไม่ทราบว่าวันอังคารที่จะถึงนี้ จะมีการเชิดสิงโตฉลองวันหยุดตรุษจีนเป็นครั้งแรกในทำเนียบรัฐบาลไหมครับ
หากสงกรานต์ปีนี้ สถานการณ์ “โควิด-19” หมดไป เดือนเมษายน ปีนี้ 13-15 ในเมืองจีนโดยเฉพาะที่มหาวิทยาลัยเฉิงตูน่าจะมีเทศกาลสงกรานต์เป็นครั้งแรก หลังจากเตรียมตัวเตรียมใจมาตั้งแต่สองสามปีก่อนแล้ว
ทีนี้ รับรองว่า “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” อย่างแท้จริง
แล้ว สงกรานต์เชิญ ท่านสี จิ้น ผิง มารับน้ำสงกรานต์จากท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ดีไหมครับ
เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์
