ศึกพรรคร่วมชี้อายุรัฐบาล

ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมกับรัฐมนตรีอีก 9 คน

จาก 3 พรรค คือ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แม้ผลการลงมติคะแนนไว้วางใจทั้ง 10 รัฐมนตรีจะผ่านตามระเบียบของพรรคร่วมรัฐบาลที่กุมเสียงข้างมากในสภาไว้ จะมีบ้างที่พรรคฝ่ายค้านเปิดแผลใหม่ให้รัฐมนตรีที่โดนชำแหละ ต้องหาทางชี้แจงแก้ไขกล่าวหาต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชน

แต่ศึกที่ดูท่าแล้วจะไม่จบง่ายๆ นั่น กรณีการโหวตสวนมติของพรรค พปชร. ของกลุ่ม 6 ส.ส.ดาวฤกษ์     ที่งดออกเสียงรวมเป็น 12 เสียง “เปิดวอร์” ใส่

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ภท. ทำให้ได้คะแนนเสียงไว้วางใจอยู่ที่ 268 ต่อ 201 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

Advertisement

กลายเป็นเปิดศึกไม่ไว้วางใจกันเองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล แม้แกนนำพรรค อย่าง พล.อ.ประวิตร      วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.จะควันออกหู

ถึงขั้นจะขับทั้ง 6 ส.ส.ดาวฤกษ์ พ้นพรรค โทษฐานโหวตขัดกับมติพรรค ก่อนที่คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จะหาช่องด้วยการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน หามาตรการลงโทษ 6 ส.ส.ดาวฤกษ์ แต่คนที่ไม่ไร้เดียงสาทางการเมืองก็มองกันออกว่าเป็นเพียงแค่การซื้อเวลา หาทางลงของพรรค พปชร.

ทั้งที่ 61 เสียงของพรรค ภท. โหวตให้รัฐมนตรีของพรรค พปชร. แบบ 100% ไม่มีแตกแถว งานนี้คงไม่จบกันแค่คำขอโทษจากผู้ใหญ่ทั้งในพรรค พปชร. และรัฐบาล

ถ้าหากจะยกเหตุผลที่ 6 ส.ส.ดาวฤกษ์ ระบุว่า รัฐธรรมนูญให้เอกสิทธิ์การโหวตของ ส.ส. ไม่ต้องยึดตามมติพรรค งานนี้หากทุกพรรคร่วมรัฐบาล ยึดเหตุผลดังกล่าวบ้าง

ในการขับเคลื่อนงานในสภา ซึ่งรัฐบาลจะอยู่ได้ก็ด้วยเสียงข้างมากของ ส.ส. หาก ส.ส.ไม่ต้องยึดตามมติพรรคในทุกเรื่อง โหวตได้เป็นอิสระ มีหวังรัฐบาลคงอยู่ได้ไม่ครบเทอม

แม้สถานะของรัฐบาลในเวลานี้จะไม่ได้อยู่ในสภาพปริ่มน้ำแล้ว เพราะมีเสียงรวมอยู่ที่ 275 เสียง ต่อ 212 เสียง ถ้าจะโฟกัสกันที่ 275 เสียงของรัฐบาล

หากพรรค ภท.ยึดเหตุผลให้เอกสิทธิ์ ส.ส.เวลาโหวตในสภาบ้าง ถ้าทั้ง 61 ส.ส.และบวกอีก 4 เสียงของ ภท.ไม่เอาด้วยในบางเรื่อง

เสียงของรัฐบาลที่รวมกลุ่มดาวฤกษ์ จะเหลืออยู่ที่ 210 เสียง กลับมาอยู่ในสภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ต้องลุ้นกันทุกเรื่องที่ต้องอาศัยเสียงข้างมากในสภา โหวตให้รัฐบาลได้เดินหน้าทำงานต่อ

จริงอยู่ในสภาพการเมืองปัจจุบัน ระดับนำของพรรคร่วมรัฐบาลต่างอ่านเกมการเมืองกันออก แบบที่ไม่มีใครกลัวใคร

ศึกระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลครั้งนี้ จะเป็นอีกครั้งถึงการชี้วัดบารมีของ “บิ๊กรัฐบาล” ว่าจะกุมสภาพ ส.ส.
ของพรรค พปชร. ให้ยึดมารยาททางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลได้หรือไม่

หาไม่แล้ว ระวังศึกครั้งนี้จะลามปามถึงขั้นรัฐบาลจบเห่ก่อนครบเทอม

จตุรงค์ ปทุมานนท์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image