เหตุการณ์…หฤโหด 30 ศพ

คํ่าคืนแสนโศกสะเทือนใจคนไทย…28 มกราคม พ.ศ.2520 “ทหารเขมรแดง” สังหารหมู่ชาวบ้านคนไทยใน 3 พื้นที่คือ หมู่บ้านน้อยป่าไร่ บ้านหนองดอ และบ้านกกค้อ รวม 30 ศพ

ท่านผู้อ่าน มติชน รายวัน ติดต่อมาถึงผู้เขียน ให้บอกกล่าวเล่าเรื่องย้อนอดีตเหตุการณ์โหด สะเทือนขวัญ เจ็บแค้นที่สุดของคนไทย…

ข้อมูลทางราชการแทบหาไม่ได้ เพราะราชการไทยไม่ชอบบันทึก ขีดเขียน หรือถ้ามี… ก็คงอยู่ในตู้ที่ไม่มีใครสนใจ … ผู้เขียนต้องอาศัยการค้นหาบันทึก เรื่องเล่า เป็นการส่วนตัวของหลายท่านมาเรียบเรียง…

Advertisement

ภาพเก่า…เล่าตำนาน ขอนำเรื่อง เขมรแดง สังหารโหดคนไทย 3 หมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ.2520 ผู้หญิง เด็ก ถูกสังหาร เพื่อสังเวย เย้ยอวด แสนยานุภาพของทหารเขมรแดง…

9 ตุลาคม พ.ศ.2513 นายพล ลอน นอล ก่อการรัฐประหารล้มอำนาจของรัฐบาลเจ้านโรดม สีหนุ สถาปนาสาธารณรัฐกัมพูชา และแต่งตั้งตัวเองเป็นประธานาธิบดีและประมุขแห่งรัฐ มหาอำนาจสหรัฐสนับสนุน ลอน นอล

พอล พต ผู้นำกองกำลังของคอมมิวนิสต์ในกัมพูชาที่จีนสนับสนุน ทำสงครามกองโจรต่อต้าน ลอน นอล…

Advertisement

เช้าตรู่วันที่ 17 เมษายน พ.ศ.2518 พอล พต ผู้นำฝ่ายคอมมิวนิสต์กัมพูชานำกำลังบุกยึดกรุงพนมเปญเป็นผลสำเร็จ

เหตุที่พอล พต เลือกวันนี้ คือ ตรงกับ “วันปีใหม่” ของชาวกัมพูชา ผู้นำเขมรแดงจอมโหดต้องการสร้างศักราชใหม่ให้แผ่นดิน ให้ปีใหม่ปีนั้นเป็นปีเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของกัมพูชาใหม่ทั้งหมด

นายพล ลอน นอล หนีออกจากกัมพูชาไปอินโดนีเซีย และเดินทางต่อไปสหรัฐอเมริกา

พอล พต ผู้นำเขมรแดงเข้ากุมอำนาจสูงสุดในแผ่นดินกัมพูชา ผู้นำเขมรแดงฝันจะรื้อฟื้นอาณาจักรกัมพูชาที่เคยรุ่งโรจน์เมื่อพันปีก่อน

พอล พต ต้องการใช้ทฤษฎีสังคมนิยมแบบสุดโต่งของตน สร้างความรุ่งโรจน์ให้กัมพูชา ประชาชนทุกคนต้องทำการเกษตร ทำไร่ ทำนา

กองทัพเขมรแดงภายใต้การสนับสนุนของจีน กล้าหาญชาญชัย เหิมเกริม รุกไปทางตะวันออกเข้าครอบครองดินแดนบางส่วนของเวียดนาม

เขมรแดงมาทางตะวันตก ปล้นคนไทยตามแนวชายแดน…

(ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน …การกระทำของเขมรแดง มันคือการปล้น แย่งชิง ทรัพย์สิน ต้องการอำนาจ ความเป็นใหญ่ ฆ่าผู้บริสุทธิ์เพื่อตัวเอง…มันคือ อาชญากรรม มิใช่อุดมการณ์ของคอมมิวนิสต์ หรือการสร้างชาติ อะไรทั้งนั้น)

พฤษภาคม พ.ศ.2518 ทหารเขมรแดงอาจหาญไปโจมตีทหารเวียดนามบนเกาะฟู้โกว๊กและเกาะโถเจา และล้ำเขตเข้าไปในจังหวัดตามแนวชายแดนเวียดนาม

ชาวเวียดนาม ชาวกัมพูชา เป็นเพื่อนบ้านกัน ไปมาหาสู่กันหลายศตวรรษ ทั้งสองชาติเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส มีชาวเวียดนามเข้ามาทำมาหากินในกัมพูชาไม่น้อย…

แน่นอนที่สุด ชาวเวียดนามเป็นเจ้าของกิจการใหญ่โต ร่ำรวย

เมื่อท่าทีของ พอล พต รังเกียจ รังแก…ชาวเวียดนามจำนวนมากอพยพออกจากกัมพูชา บางส่วนหนีตายมาไทย

ผู้นำสูงสุดของเวียดนาม “เขม่น” พอล พต…จ้องจะบดขยี้

กลับมาคุยกันเรื่อง เขมรแดงที่เป็นภัยคุกคามของไทยแสนสาหัส

ชายแดนไทย-กัมพูชา ยาวประมาณ 800 กิโลเมตร พื้นที่บางแห่งเป็นภูเขา เป็นทุ่งนา เป็นป่าโปร่ง ไม่มีรั้ว ไม่มีป้ายบอก

เส้นเขตแดนอยู่ตรงไหน…แทบไม่มีใครรู้

ช่วงสงครามในกัมพูชา เขมรรบกันเอง ทุกฝ่ายถืออาวุธ ทุกฝ่ายหิวโหยต้องการเสบียงอาหาร ยารักษาโรค เสื้อผ้า ที่เคราะห์ร้ายที่สุด คือ ประชาชนที่ล้มตายนับล้านคนจากความหิวโหย เจ็บป่วย ถูกจับกุมคุมขัง ถูกสังหารโหด

ขอเรียนกับท่านผู้อ่านที่เคารพ… ในเวลานั้น…ไม่รู้ใครเป็นใคร

พื้นที่ชายแดนไทยไม่ปลอดภัย ชาวบ้านตลอดแนวใช้ชีวิตแบบเสี่ยงตาย จะละทิ้งถิ่นฐานก็ไม่รู้จะไปไหน จะทำมาหากินอย่างไร กองกำลังไม่ทราบฝ่าย โจรผู้ร้าย ปล้น ฆ่า โจรกรรม ข้ามไป-มา ฯลฯ

ต้องเล่าความจริงให้ลูกหลานทราบนะครับ…ชาวบ้านบางส่วนตามแนวชายแดน ก็ติดต่อค้าขายกับทหารกัมพูชาทุกฝ่ายอย่างเป็นล่ำเป็นสัน บางรายก็ร่ำรวย การส่งของ ขายของ ก็ไม่ยากเย็นอะไร ช่องทางธรรมชาติไปได้หมดทั้งกลางวัน กลางคืน…

การลักลอบค้าขาย ลักลอบเข้าเมือง เป็นเรื่องทำเงิน ทำทอง

เขมรก็ปล้นกันเอง สกุลเงินของชาวเขมรในเวลานั้นไม่มีใครยอมรับ ธนบัตรเหมือนแบงก์กงเต๊ก …ประเทศพินาศล่มสลาย

ชาวเขมร พร้อมครอบครัว จะแอบซุกซ่อนทองคำขนาดจิ๋วไว้ตามร่างกาย ในเสื้อผ้า ทองคำ เป็นปัจจัยนำไปแลกกับทุกอย่างที่ต้องการ เพื่อผ่านด่านตรวจ ติดสินบนทุกฝ่าย ชาวเขมรนับแสนหนีตายเข้ามาในไทย

เรื่องไม่ดี ไม่งาม ที่เกิดขึ้น คือ มีการขนย้าย ลักลอบนำพาชาวเขมรเข้าไทยโดยรับสินบน ค่าจ้าง เป็นทองคำ…

ผู้เขียนที่เพิ่งจบการศึกษาจาก ร.ร.จปร. เป็นผู้หมวดปืนเล็ก ไปปฏิบัติงานในพื้นที่ ไม่ทราบจริงๆ ว่า เขมรฝ่ายไหน อย่างไร แต่ที่ชัดเจนคือ กองทัพมีคำสั่งกำหนด ควบคุม “ยุทธปัจจัย” ห้ามค้าขายในพื้นที่

ถ่านไฟฉาย ข้าว ผงชูรส ผ้าพันแผล ยาทุกชนิด ฯลฯ เป็นของต้องห้าม …เลยทำให้สินค้าเหล่านี้มีราคาสูง มีการลักลอบค้าเกือบตลอดแนวชายแดน

ในทุกสงครามมี “เศรษฐีสงคราม” เสมอ…

1 ในเหตุการณ์สะเทือนใจที่เกิดขึ้นจากการกระทำของเขมรแดง…

“ป่าไร่” เป็นชื่อตำบลหนึ่งในเขต อ.อรัญประเทศ มีที่มาจากหมู่บ้านแห่งนี้มีต้นไม้ไผ่พันธุ์หนึ่งที่ชาวบ้านเรียกว่า “ไม้ไร่” เกิดขึ้นตามธรรมชาติเต็มทั่วไปหมด และสมัยก่อนจะมีแต่ป่าเลยเรียกกันติดปากว่า “ป่าไร่”

ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ตรงนี้เป็นชาวอรัญฯ โดยแท้มีอยู่ 6 ครอบครัว ที่ตั้งรกรากอยู่เป็นกลุ่มแรก เมื่อปี พ.ศ.2500 คือครอบครัวของนายพัน สอนเจริญ นายโกศรี พัฒนพรรค นายพูน จำปาเทศ นายลี เจริญดี นายไสว บุญเจริญ และนายสิงห์ บุญเจริญ

แต่เดิมจะเรียกกันว่า “บ้านน้อยป่าไร่” อยู่ที่อยู่ห่างจากชายแดนเพียง 1 กม.เศษ

นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 เป็นต้นมาเหตุการณ์ชายแดนด้านอรัญประเทศกับกัมพูชา มีการกระทบกระทั่งกันตลอดเวลา กัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทย และทำลายทรัพย์สินของคนไทยตามแนวชายแดน

เหตุการณ์สังหารหมู่คนไทย…

เมื่อคืนวันที่ 28 มกราคม พ.ศ.2520 เวลาประมาณ 22.00 น. ทหารเขมรแดงจำนวนหนึ่งเข้าโจมตี “บ้านหนองดอ” หลังจากนั้นจึงโจมตี “บ้านกกค้อ” ที่อยู่ใกล้เคียงกัน

บ้านหนองดอ มีชาวบ้านเสียชีวิต 21 ศพ

บ้านกกค้อ มีผู้เสียชีวิต 8 ศพ

“ที่หมายสุดท้าย” ของเขมรแดงในคืนวันนั้น คือ เข้าโจมตีที่บ้านน้อยป่าไร่ ที่มีกำลังของตำรวจตระเวนชายแดน 18 นายเฝ้าระวังอยู่

ตชด.ในหมู่บ้าน ยิงต่อสู้… ตชด.พลีชีพ 1 นาย คือ จ.ส.ต.ภิรมย์ แก้ววรรณา

ท่ามกลางความมืดอันแสนยาวนาน …ทหารเขมรแดงสังหารคนไทยไป 30 คน มีทั้งชาย หญิง คนแก่ เด็ก ผู้หญิง …เผาหมู่บ้านกลายเป็นเถ้าถ่าน…

ข้อมูลที่ผู้เขียนรวบรวมมาได้…ตชด.ที่รักษาความปลอดภัยใกล้บ้านน้อยป่าไร่ ยิงต่อสู้กับเขมรแดงได้ประมาณ 20 นาที

กำลังเขมรแดงถอยกลับไป… ราว 30 นาที กำลังทหารเขมรก็กลับมายิงใส่ฐานอีก… สถานการณ์เลวร้าย

ตชด.วิทยุขอกำลังมาช่วย… รถเกราะล้อยาง V 100 เคลื่อนที่มุ่งหน้าไปสนับสนุน ตชด.ในหมู่บ้านน้อยป่าไร่ …

อีกเพียง 1 กม. จะถึงที่หมาย…รถเกราะ ตชด. โดนกับระเบิดพังพินาศ …นี่เป็นสูตรการทำสงครามที่ใช้ได้ผลเสมอ…

การยิงต่อสู้ยังเกิดขึ้นท่ามกลางเปลวไฟยักษ์ที่เขมรแดงจุดเผาหมู่บ้าน และยังตรึงกำลังกันไว้ทั้ง 2 ฝ่าย

บ้านหนองดอและบ้านกกค้อถูกเผา มี 29 ศพนอนตาย

การสู้รบลากยาว…ชาวบ้านและ ตชด. รอคอยฟ้าสาง

เมื่อพอมีแสงรำไร… พ.ต.ท.สมนึก พลสิทธิ์ ผู้กำกับการ ตชด.เขต 2 นำกำลังช่วยลำเลียงชาวบ้านที่บาดเจ็บออกจากบ้านน้อยป่าไร่

วันรุ่งขึ้น ภาพแห่งความสยดสยองของเด็กเล็กที่ถูกสังหาร กลายเป็นข่าวหน้า 1 ใน หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ

ต้องขออภัยท่านผู้อ่านครับ…ภาพ เด็ก เด็กเล็กที่ถูกสังหาร ไม่เหมาะที่จะนำมาเผยแพร่ มันเป็นการกระทำเยี่ยงสัตว์ป่า

เหตุสังหารหมู่ในคืนวันนั้น ทำเอาชาวบ้านตามแนวชายแดนอีกหลายหมู่บ้านต่างพากันอพยพเข้ามายังตัวเมืองอรัญประเทศ โดยอาศัยอยู่ตามศาลาวัดเป็นส่วนใหญ่

ขอเพิ่มเติมเป็นข้อมูลว่า วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2520 กองกำลังเขมรแดงเข้ามาโจมตี ปล้นที่บ้านสันรอชะงันและบ้านสะแหง อ.ตาพระยา จ.ปราจีนบุรี (ยังมิได้จัดตั้งจังหวัดสระแก้ว)

ผู้เขียนเป็นนักเรียนนายร้อย จปร. ชั้นปีที่ 5 อ่านจากหนังสือพิมพ์เป็นหลัก คิดในใจว่า… ถ้าเราเป็นผู้หมวดในพื้นที่ เราจะทำอย่างไร เห็นได้ชัดว่า…ถ้าเคลื่อนกำลังเดินเท้าออกไป จะโดนซุ่มรุมกินโต๊ะ ถ้านำทหารขึ้นรถบรรทุกก็จะโดนวางระเบิดตายกันหมดทั้งคัน… รอฟัง แอบเชียร์ให้ไทยตอบโต้…

ขอขยายความเพิ่ม…เขมรแดงภายใต้การนำของ พอล พต ในช่วงเวลานั้น ได้รับการอุ้มชูดูแลจากจีนแบบสุดลิ่มทิ่มประตู กล้าท้าทายยักษ์ใหญ่เวียดนาม เขมรแดงนำกำลังบางส่วนไปสังหารประชาชนเวียดนามตามแนวชายแดนกัมพูชา-เวียดนาม

ทหารเขมรแดงส่วนใหญ่เป็นเด็กหนุ่ม หรือเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ใช้อาวุธ AK-47 และ RPG ตั้งแต่หัวจรดเท้า คือ สิ่งของมาจากจีน

ระดับหัวหน้า…จะเป็นวัยกลางคน วิธีดูระดับความอาวุโสของทหารเขมรแดง คือ ดูที่ปากกาปลอกสีทองที่จะเหน็บกระเป๋าเสื้อ มองเห็นได้ชัดบนเสื้อสีดำ ถ้ามีปากกา 3 อันเรียงกันถือว่า บิ๊กๆๆ

นาฬิกาของระดับบิ๊กๆ ต้อง ราโด้ เรือนทอง รุ่นที่หน้าปัดไม่เป็นรอยขูดขีด ใส่รองเท้ายาง มีผ้าพันรอบคอ…โหดเหมือนกันหมด

ช่วงนั้น… เวียดนามผละออกจากจีน แล้วไปซบกับมหา อำนาจโซเวียตเฝ้ามองและมีแผนจะคว่ำ พอล พต ลงให้ได้

บ่อยครั้ง…มีประกาศปลุกระดมให้ชาวกัมพูชาลุกขึ้นต่อสู้กับเวียดนาม ทำให้เกิดเหตุสังหารหมู่ชาวเวียดนามในภาคตะวันออก

กองทัพเวียดนามอดทนต่อท่าทีของ พอล พต ไม่ไหว…

ในวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2521 วิทยุฮานอยได้ประกาศการจัดตั้งแนวร่วมสามัคคีประชาชาติกู้ชาติกัมพูชา ก็คือ กลุ่มเขมรแดงที่ไม่ชอบ พอล พต ต้องการโค่นล้ม หักหลัง พอล พต โดยมีเวียดนามหนุนหลัง

โซเวียตแตกคอกับจีน…โซเวียตสนับสนุนกองทัพเวียดนาม…

22 ธันวาคม พ.ศ.2521 ทหารเวียดนามราว 1.5 แสนนาย รุกเข้าสู่กัมพูชา… เพียง 2 สัปดาห์ ทหารเวียดนามอันแข็งแกร่งยึดพนมเปญได้

7 มกราคม พ.ศ.2522 พอล พต พร้อมกองกำลังเขมรแดงหนี ถอยร่น มากบดาน มาซ่องสุมตามแนวชายแดนไทย…

กลุ่มเขมรแดงกลายเป็น “ตัวเรียกแขก” ให้ทหารเวียดนามตามมาขยี้ติดแนวชายแดนไทย

เวียดนามจัดตั้ง “สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา” เวียดนามปกครองประเทศกัมพูชา …รัฐบาลไทยติดตามสถานการณ์อย่างใจจดใจจ่อ…

กองทัพเขมรแดงที่เคยคุกคามไทยมาซบ มาอิงแอบอยู่กับไทยแบบเนียนๆ พื้นที่ตรงข้ามจังหวัดสุรินทร์

ผู้เขียนในขณะเป็นร้อยตรี ตั้งฐานหมวดปืนเล็กอยู่ บริเวณถ้ำน้ำ เขาตาง็อก อ.วัฒนานคร ได้รับคำสั่งว่า…”อย่ายิงเขมรแดง.. ให้หน่วยในแนวหน้า เฝ้าระวังกองทัพเวียดนามที่จะตามมาตีเขมรแดง”

ต่อมาอีกไม่นาน….ได้รับคำสั่งให้ไปวางทุ่นระเบิดดักรถถัง ดักยานพาหนะของกองทัพเวียดนามที่มีแนวโน้มจะบุกไทย ตรงช่องทางบริเวณถ้ำน้ำเขาตาง็อก อ.คลองหาด …

อ้าวเฮ้ย…นี่อะไรกัน (วะ) …ไม่ต้องถาม …ทำตามคำสั่ง

นายทหารเด็กๆ ไม่รู้เรื่องการปรับ-เปลี่ยนขั้ว อะไรทั้งสิ้น

ย้อนไป 30 มิถุนายน พ.ศ.2518 คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี ไปเปิดประตูความสัมพันธ์ไทย-จีน เปิดประตูความสัมพันธ์ พูดจาปรับทุกข์ ผูกมิตร สถาปนาช่องทางพูดกัน โดยเฉพาะเรื่องภัยคุกคามจากเวียดนาม

ม.ร.ว.คึกฤทธิ์และทีมงาน มองเหตุการณ์ทะลุ อ่านเกมส์ขาด

หลังจากนั้น…มีคณะเจรจาจากประเทศไทยเดินทางไปหารือ เจรจา กับจีนอีกหลายคณะ หลายประเด็น ที่เป็นหลักประกันความมั่นคงให้ไทย

ที่ชัดเจนที่สุด คือ ไทยหันมากอดคอ-จับมือกับจีน และเขมรแดง เพื่อต่อต้านเวียดนาม

(4 กรกฎาคม พ.ศ.2518 มีการชุมนุมใหญ่ของนักศึกษา เพื่อผลักดันให้อเมริกาถอนตัวจากไทย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)

กำลังของสหรัฐทยอยถอนตัวออกไปจากไทย…หันซ้ายหันขวา ไม่มีประเทศไหนมาเป็น “ตัวช่วย” ไทยแน่นอน

ทุกอย่างเป็นไปตามคาด…กองทัพเวียดนามรุกไล่ บดขยี้เขมรแดงมาประชิดชายแดนไทย ไทยถูกเวียดนามกล่าวหาว่าสนับสนุนเขมรแดง

สงครามในเขมรยืดเยื้อ ยาวนาน…

ศึกครั้งนี้…ใหญ่หลวงนัก…นายพล หวั่น เตี่ยน ดุง (Vn Tin Dng) ของเวียดนามก็ลั่นวาจาว่า จะบุกยึดกรุงเทพฯได้ในเวลาแค่ 2 ชั่วโมง

เวลานั้น กองทัพเวียดนามห้าวหาญสุดๆ เพิ่งชนะสงครามรวมชาติ รถถัง ปืนใหญ่ ทหารราบ นับแสน เป็นนักรบตัวจริง

กองทัพเวียดนามไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว ระดมยิงปืนใหญ่ใส่ค่ายผู้อพยพ ที่ตั้งเขมรแดงตามแนวชายแดนไทยแบบ “ไม่อั้นกระสุน”

มีการเจรจาลับ “ด่วนจี๋” กับผู้นำจีนเพื่อให้ดึงกำลังทหารเวียดนามออกไปจากชายแดนไทย…

ผลการเจรจาลับ… 17 กุมภาพันธ์-16 มีนาคม พ.ศ.2522 ทหารจีนนับแสนเปิดฉากทำสงครามจีน-เวียดนาม ณ บริเวณชายแดนจีน-เวียดนาม สงครามตามแบบจีน คือ ใช้ปืนใหญ่ยิงให้แหลกทุกตารางเมตร แล้วใช้ทหารราบ รถถังตามไปบดขยี้ ฆ่าให้หมด

กำลังทหารของเวียดนามที่กำลังมาจ่อชายแดนไทย ต้องถอนกำลังออกไปเพื่อไปรบกับจีนทางตอนเหนือ …สถานการณ์ชายแดนคลี่คลาย

ท่านผู้อ่าน… ทหาร-ตชด. ที่อยู่ในเหตุการณ์เวลานั้น…กรุณาให้เกียรติ เพิ่มเติม แนะนำข้อมูล เพื่อให้สังคมไทยได้รับรู้มากกว่านี้นะครับ …

นี่คือ… ช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ ที่ไม่ควรจางหายไปกับกาลเวลา

แปลและเรียบเรียงโดย
พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image