ความไม่ต่อเนื่องทางนโยบาย รมต.ที่โลกลืม

ยังมิทันที่ผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 รัฐมนตรีจะออกฤทธิ์ ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปรากฏว่าเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นเสียก่อนแล้ว

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตัดสินจำคุกแกนนำ กปปส.คดีชุมนุมชัตดาวน์กรุงเทพฯ และคัดค้านการเลือกตั้งคนละหลายปี ทำให้คนมีวาสนาได้เป็นรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่งทันที 3 เก้าอี้ หนึ่งในนั้นคือนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ผลการตัดสินกลายเป็นเงื่อนไขเร่งให้การปรับคณะรัฐมนตรีเกิดเร็วขึ้น ส่วนจะลงเอยที่ใครขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรอง และการตัดสินใจของหัวหน้ารัฐบาลเป็นหลัก

กระทรวงศึกษาธิการได้ชื่อว่า เป็นกระทรวงที่เปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงบ่อยที่สุด ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้ยังรักษาอันดับแชมป์ใช้รัฐมนตรีเปลืองสุดไว้ได้อย่างเดิม

Advertisement

หวยจะออกที่ใครก็ตาม สิ่งที่สังคมวงการการศึกษากังวลเช่นทุกครั้งก็คือ ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายทางการศึกษาอีกครั้ง

ที่ผ่านมา นอกจากการแทรกแซงทางการเมืองต่อการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตั้งแต่ระดับบริหารจนถึงข้าราชการครู เพื่อตอบแทนบุญคุณและสร้างฐานทางการเมือง ทำให้เกิดปัญหาทางการศึกษาแล้ว

อีกประเด็นหนึ่งที่ส่งผลกระทบทั้งคุณภาพและความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา คือ ความไม่ต่อเนื่องทางนโยบาย เมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้งทำให้นโยบายเดิมที่รัฐมนตรีคนเดิมดำเนินมาจะหยุดชะงัก ไม่ได้รับการสานต่อหรือถูกเปลี่ยนไปอีกแนวทางหนึ่งเรื่อยมา

Advertisement

เพราะสิ่งที่นักการเมืองหวั่นไหวมากที่สุดก็คือการถูกวิจารณ์ว่าไม่มีความคิด ไม่มีผลงาน กลายเป็นรัฐมนตรีที่โลกลืม นั่นเอง

คนมาใหม่จึงต้องการแสดงความเป็นตัวของตัวเองว่า มีกึ๋น มีผลงาน มีของใหม่มาขาย ไม่ลอกเลียนแบบของเก่า

ฉะนั้นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันติดตามจับตาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับแนวทางนโยบายทางการศึกษาที่ดำเนินมาและข้อเสนอของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาซึ่งยังค้างคา ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร จะล่าช้าออกไปอีกเพียงไร

เพราะอย่างน้อยที่สุดเสนาบดีคนใหม่ต้องใช้เวลาศึกษางาน รับฟังการบรรยายสรุปจากหัวหน้าหน่วยงานประจำทุกแท่งก่อนเริ่มลงมือปฏิบัติงาน หากมีการแบ่งความรับผิดชอบระหว่างรัฐมนตรีกันใหม่ยิ่งต้องใช้เวลาเพื่อเกลี่ยงานให้ลงตัวอีกระยะหนึ่งก่อนเดินหน้าต่อไป

กล่าวเฉพาะนโยบายใหม่ถอดด้ามล่าสุดของนายณัฏฐพล ถูกฝ่ายค้านนำขึ้นมาเป็นหัวข้อหนึ่งในอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ แนวนโยบายบูรณาการทางการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพโรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง โรงเรียนคุณภาพชุมชน ควบรวมโรงเรียนแบบยกแผงเป็นรายจังหวัด

โดยมีคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษารัฐมนตรี และผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการลงไปกำกับ ติดตาม สนับสนุน การดำเนินงานของแต่ละจังหวัด ถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงฝ่ายข้าราชการประจำ และแต่งตั้งคนใกล้ชิดดำรงตำแหน่งผู้บริหารหน่วยงานสำคัญในกระทรวงศึกษาอาจเข้าข่ายแสวงหาผลประโยชน์

การชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านของอดีตรัฐมนตรีสามารถหักล้างได้หมดจดหรือไม่แค่ไหน ขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้ที่ติดตามการอภิปรายแต่ละคน ที่แตกต่างกันไป

ความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นจะส่งผลให้การดำเนินนโยบายต่อเนื่องหรือหยุดชะงักลง จึงขึ้นอยู่กับผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งคนใหม่ มีความรู้ ความเข้าใจ มีความคิด มองประเด็นปัญหาทางการศึกษาลึกซึ้งเพียงไร และจัดลำดับความสำคัญของเรื่อง ที่ควรจะเร่งรัดผลักดันก่อนหลังอย่างไร

แม้คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะแถลงยืนยันดำเนินนโยบายที่ผ่านมาต่อไปก็ยังไม่แน่และไม่มีหลักประกันพอว่า คนมาใหม่จะเห็นด้วยและผลักดันเท่าที่ควร จนกว่าจะได้ยินคำสัญญาสาธารณะจากรัฐมนตรีว่าการตัวจริง เสียงจริง ในเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตามนโยบายและภาระงานสำคัญเร่งด่วนที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ รัฐบาลนี้ได้ให้สัญญาประชาคมอย่างเป็นทางการแล้วตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) ด้านการศึกษา วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปรากฏในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564

กล่าวถึงกลไกสนับสนุนการขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ คือการเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ให้มีผลบังคับใช้ เพื่อสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทางสังคมและสื่อ ในการสร้างความรู้ความเข้าใจและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการกระจายอำนาจสู่สถานศึกษาฯ

เพียงแค่สิ่งที่ควรเร่งรัด คือ ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเพียงเรื่องเดียวก็ท้าทายมากแล้วสำหรับเสนาบดีคนใหม่

จะเป็นตัวบ่งชี้ว่านายกรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาลตัดสินใจเลือกคนที่ใช่ ถูกต้อง เหมาะสมหรือไม่ จะได้เสียงตอบรับ หรือร้องยี้มากกว่าเพราะไปคว้าใครที่ไหนมาก็ไม่รู้ คอยดูกัน

สมหมาย ปาริจฉัตต์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image