สถานีคิดเลขที่ 12 : ห่างไกลความสงบ

เหตุการณ์ที่ผ่านมาอย่างน้อย 3 เหตุการณ์สะท้อนภาพการจัดการของฝ่ายรัฐบาลที่ไม่สัมฤทธิผล

เหตุการณ์แรก คือ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่คว่ำในวาระ 3

เหตุการณ์ที่สอง คือ การเจรจากับชาวบางกลอย

เหตุการณ์ที่สาม คือ การใช้กำลังและกระสุนยางสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 20 มีนาคม

Advertisement

เหตุการณ์ทั้งหมดสะท้อนภาพการใช้อำนาจรัฐในการแก้ปัญหา

เหตุการณ์ที่ 1 เป็นการใช้เสียงข้างมากในรัฐสภามากำหนดเกมการเมือง

จากเดิมที่มีม็อบเยอะ รัฐสภาจึงเสนอทางออกแก้ไขรัฐธรรมนูญ

วันนั้นพรรครัฐบาลและ ส.ว.ยอมโหวตรับร่าง

แต่หลังจากนั้นม็อบน้อยลง แกนนำถูกจับกุม สุดท้ายเสียงจากฝ่ายรัฐบาลและ ส.ว.ก็โหวตคว่ำ

โหวตคว่ำไปโดยที่รัฐบาลไม่รู้สึกว่าจะต้องรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

การกำหนดเป็นนโยบายคือ คำมั่นสัญญา

การที่รัฐสภาโหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญคือการทำตามคำสัญญาไม่สำเร็จ

แต่รัฐบาลไม่รู้สึกอะไรกับการทำตามคำสัญญาไม่สำเร็จ

เหตุการณ์ที่ 2 เป็นเรื่องฝีมือการเจรจา ซึ่งแรกๆ รัฐบาลพยายามแสดงฝีมือ มีการเจรจา มีคำสัญญา กระทั่งชาวบางกลอยที่มาชุมนุมทำเนียบยอมกลับบ้าน

แต่ในที่สุดพวกเขาส่วนหนึ่งก็กลับมา พร้อมข้อกล่าวหาว่า รัฐบาลไม่ทำตามสัญญา

เหตุการณ์ที่ 3 เป็นการใช้กฎหมายและกำลังเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุม

เหตุจากการชุมนุมมาจากการบริหารของรัฐบาลที่ “เอาไม่อยู่” ทำให้คนรุ่นใหม่รับไม่ได้ เกิดเคลื่อนไหว

สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการกล่าวอ้างคือ รักษากฎหมาย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม มีการสลายการชุมนุม

ผลจากการสลายการชุมนุมทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ฝ่ายผู้ชุมนุมบาดเจ็บ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็บาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงว่า สามารถจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมได้ 20 คน

แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดถูกสอบสวนจับกุม

คลิปเหตุการณ์การใช้กำลังที่ว่อนโซเชียล เป็นคลิปที่เห็นเจ้าหน้าที่ใช้กระบองทุบผู้คน

การใช้ความรุนแรงย่อมผิดกฎหมาย

ผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรงต้องถูกจับ เจ้าหน้าที่ที่ใช้กำลังรุนแรงก็ต้องถูกจับเช่นกัน

แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่ถูกจับกุม

สถานการณ์ของประเทศเป็นเช่นนี้มานานแล้ว

กลุ่มที่อยู่ฝ่ายรัฐบาลทำอะไรก็ถูก กลุ่มที่ไม่นิยมรัฐบาลทำอะไรก็ผิด

หากรัฐบาลยังใช้วิธีการเช่นนี้ในการแก้ปัญหา

ยังปล่อยให้ผู้มีอำนาจไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แต่ผู้ไม่มีอำนาจต้องรับผิดตามกฎที่ผู้มีอำนาจบัญญัติและผู้มีอำนาจบังคับใช้ก็อย่าหวังว่าสถานการณ์จะสงบลงไปได้

เพราะความเหลื่อมล้ำระหว่าง “ผู้ใช้อำนาจ” กับ “ผู้ถูกใช้อำนาจ” จะห่างออกไปเรื่อยๆ

สถานการณ์เช่นนี้ ยังมองไม่เห็นว่าจะลงเอยอย่างไร

แต่ความหวังที่อยากเห็นความสงบเกิดขึ้น เริ่มห่างไกลความจริงไปเรื่อยๆ

หวั่นใจเหลือเกินว่า ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิม

นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image