สงกรานต์ปลอดภัย

แม้เทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะเกิดการระบาดระลอกใหม่อีกครั้ง ข่าวสารเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ได้รับความสนใจจนกลบข่าวการเดินทางกลับภูมิลำเนาตามเทศกาล ซึ่งในปีนี้แม้จะมีสถานการณ์โรคโควิด แต่รัฐบาลยังมั่นใจในการควบคุมโรค ไม่มีคำสั่งล็อกดาวน์ ไม่สั่งห้ามเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด แต่ให้ระมัดระวังในการเดินทาง และเปิดโอกาสให้จังหวัดแต่ละจังหวัดออกมาตรการรองรับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา มี 38 จังหวัดที่ออกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดกลุ่มเสี่ยง จำนวน 14 วัน

ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุเหมือนเช่นทุกปี โดยปีนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน เมื่อเวลาผ่านไป 2 วัน ตรวจสอบสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วันของการรณรงค์ (10-11 เมษายน 2564) เกิดอุบัติเหตุรวม 705 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 56 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 729 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 40 จังหวัด โดยรถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ขณะที่ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปเป็นกลุ่มที่มีการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด

ขณะที่สถิติการเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 11 เมษายนนั้น เกิดอุบัติเหตุ 357 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 30 ราย ผู้บาดเจ็บ 374 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว 34.45% ดื่มแล้วขับ 24.37% ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 87.12% ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 58.26% ถนนกรมทางหลวง 39.94% ถนนใน อบต./หมู่บ้าน 41.18% ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. 26.89% ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป 31.93%

ส่วนทางการได้ดำเนินการป้องกันอุบัติเหตุ ด้วยการตั้งจุดตรวจหลัก 1,916 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 59,518 คน เรียกตรวจยานพาหนะ ดำเนินคดีผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น ไม่สวมหมวกนิรภัย 15,661 ราย ไม่มีใบขับขี่ ทั้งนี้ จาก 2 วันที่ผ่านมา จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ นครศรีธรรมราช (27 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ (จังหวัดละ 4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี (จังหวัดละ 31 คน)

Advertisement

ต่อไปทางศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุได้ประสานจังหวัดต่างๆ คุมเข้มปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนบนเส้นทางสายรอง เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ถนน อบต.และหมู่บ้าน ปรับแผนการจัดตั้งจุดตรวจด่านตรวจ และด่านชุมชนให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุบัติเหตุ โดยเพิ่มความเข้มข้นในการเรียกตรวจความพร้อมทั้งคนและรถ โดยเฉพาะผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับ และตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป การคาดเข็มขัดนิรภัยและสวมหมวกนิรภัย อีกทั้งร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ด้วยการรด ริน พรมน้ำ และไม่สาดน้ำใส่กัน เพื่อให้ทุกการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีความปลอดภัยและห่างไกลจากโควิด-19

ขณะที่ประชาชนที่เดินทาง ไม่ว่าจะเดินทางข้ามจังหวัด หรือเดินทางอยู่ในจังหวัด การป้องกันและลดอุบัติเหตุที่ดีที่สุดต้องเริ่มต้นที่ตัวเอง หากต้องเดินทางสภาพรถและสุขภาพของคนเดินทางต้องแข็งแรง การขับขี่ไม่ใช้ความเร็วสูง ไม่ดื่มของมึนเมา ง่วงไม่ขับ หากง่วงต้องหยุดนอนพัก ถ้าทำได้ แค่นี้จะช่วยให้การขับขี่ยานพาหนะของตัวเองไม่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ทำให้ตัวเองและผู้อื่นเดือดร้อน ข้อปฏิบัติเหล่านี้จะช่วยให้ทุกคนปลอดภัย เพราะต้นเหตุของอุบัติเหตุทางถนนแต่ละปีไม่แตกต่างกัน เพียงแต่มีหลายคนที่ไม่ป้องกันจึงเกิดอุบัติภัย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image