ไทยกับ‘สงครามโลก-โรค’

ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี 2484-2488 กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปลายปี 2562 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน 2564

ไทยเผชิญกับสภาวการณ์นั้นแตกต่างกันอย่างไรและเหตุไหนร้ายแรงสร้างความเสียหายมากกว่ากัน?!

สงครามโลกครั้งที่ 2 อุบัติขึ้นในทวีปยุโรปเมื่ออังกฤษและฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเยอรมนี เมื่อ 3 กันยายน 2482 เยอรมนีเข้าครอบครองดินแดนทวีปยุโรปตะวันตกและด้านเหนือในหลายประเทศ

เช้าวันที่ 8 ธันวาคม 2484 ญี่ปุ่นส่งกองบินไปทิ้งระเบิดเพิร์ล ฮาร์เบอร์เพื่อทำลายฐานทัพเรือและกำลังทางอากาศของสหรัฐ

Advertisement

คืนวันเดียวกัน ญี่ปุ่นได้ส่งกองเรือยกพลขึ้นบกตามฝั่งทะเลในอ่าวไทย ตั้งแต่บางปู จังหวัดสมุทรปราการ ประจวบฯ ชุมพร
สุราษฎร์ฯ นครศรีฯ สงขลา ปัตตานี เพื่อเป็นทางผ่านเข้ายึดพม่าและมลายูของอังกฤษ

นอกจากนี้ ยังส่งทหารโดยทางรถไฟเพื่อเข้าสู่อรัญประเทศ จังหวัดปราจีนฯอีกแห่งหนึ่ง

เกิดการสู้รบของกำลังฝ่ายไทยเพื่อต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น และต้องยุติลงเมื่อรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม สั่งให้หยุด

Advertisement

จากนั้นได้ลงนามในข้อตกลงในกติกาสัญญาพันธไมตรีและการยุทธร่วมกันกับญี่ปุ่น

มกราคม 2485 ไทยประกาศสงครามกับอังกฤษและสหรัฐอย่างเป็นทางการ นำประเทศเข้าสถานะสงคราม

ตลอดระยะเวลาสงคราม ไทยต้องประสบกับการถูกโจมตีทางอากาศสถานที่ราชการ บ้านเรือนราษฎร ทรัพย์สินเสียหาย กำลังพลเสียชีวิตกว่าครึ่งหมื่น

ภายใต้รัฐบาลจอมพล ป. ช่วงสงครามเกือบ 4 ปี ประเทศไทยประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอย ข้าวยากหมากแพง เงินเฟ้อ ตลาดมืด กักตุนสินค้า สภาพสังคมเสื่อมโทรม คดีอาชญากรรมผุดเป็นดอกเห็ดหน้าฝน ขวัญกำลังใจของทหารและประชาชนตกต่ำ

สงครามยุติลงด้วยญี่ปุ่นเป็นฝ่ายปราชัย หลังโดนถล่มด้วยระเบิดนิวเคลียร์ของสหรัฐที่ฮิโรชิมาและนางาซากิเมื่อสิงหาคม 2488

หากไม่ได้ขบวนการเสรีไทยนำโดย ปรีดี พนมยงค์ ที่ปฏิบัติการใต้ดินและร่วมมือกับสหรัฐและอังกฤษเพราะไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลจอมพล ป. ประเทศไทยก็จะกลายเป็นผู้แพ้สงครามเช่นเดียวกับญี่ปุ่น

ส่วนสงครามโรคระบาด โควิด-19 ที่กระจายไปทั่วโลก มีผู้เสียชีวิตกว่า 3 ล้านคน ป่วยวิกฤตกว่า 1 แสนคน

รัฐบาลและประชาชนแต่ละประเทศกำลังฝ่าฟันกับภาวการณ์นี้อยู่

สำหรับประเทศไทย เสียชีวิต 140 คน (25 เม.ย.64) การระบาดระลอก 3 จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน เป็นที่น่าวิตกอย่างยิ่ง

เรื่อง “วัคซีน” รัฐบาลถูกตั้งคำถามอย่างมากว่าทำไม “จัดซื้อ-จัดหา” ล่าช้า ฉีดแล้วกลัวจะมีผลข้างเคียง เหตุใดไม่ลงโทษคนมีตำแหน่ง คนมีอำนาจที่ติดและแพร่โควิด ฯลฯ

เศรษฐกิจตกต่ำถดถอย โดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยว บันเทิง อุตสาหกรรมการบิน การขนส่ง การผลิต ร้านอาหาร การส่งออกนำเข้า ฯลฯ

วิสาหกิจ เอสเอ็มอี ขาดทุนย่อยยับ เป็นหนี้ถ้วนหน้า ชาวบ้านเดือดร้อนยากจน คนในครอบครัวตกงาน

ผู้นำที่ชื่อ “ป.-ประยุทธ์” ซึ่งอยู่ในอำนาจเกือบ 7 ปี มีทั้งคนชอบและคนเกลียดถึงขั้นชุมนุมประท้วงขับไล่ให้ออกไปไม่เว้นแต่ละวัน

การบริหารราชการแผ่นดินหลายอย่างล้มเหลวถูกโจมตี เช่นขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญให้มี ส.ส.ร. การใช้กฎหมาย 2 มาตรฐาน กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว การไม่รักษาสัจจะวาจา การทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นต้น

แม้ “ป.-ประยุทธ์” จะถูกซักฟอกมาแล้ว 2 รอบ มีชนักปักหลังมากมาย ปรับ ครม.มาหลายครั้ง แต่ก็ยังอยู่ในอำนาจ

ประเทศไทยกำลัง “ติดหล่ม-จมปลัก” อยู่ในภาวะสงครามการแพร่ระบาดของโควิด

มีชีวิตประชาชนทั้งประเทศเป็นเดิมพันว่าจะรอดวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างไรและเมื่อใด?!

ในขณะที่ “ป.-ประยุทธ์” เองต้องการอยู่ในตำแหน่งนายกฯอย่างน้อยอีก 2 ปีเพื่อให้ครบเทอม

ไม่มีวัคซีนตัวไหนที่จะฉีดให้คนไทยสามัคคีกันในภาวะ “วิกฤตศรัทธา” ที่เกิดกับ “ผู้นำ” ประเทศมากขึ้นทุกวันเช่นนี้!?!

ศุกร์ มังกร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image