ถ้าว่ากันตามระบบ “นักการเมือง” ที่นั่งอยู่บนหัวข้าราชการนั้นต้องทำหน้าที่ในเชิงนโยบาย
นักการเมืองควรมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลแตกต่างจากคนที่จำเจกับงานประจำวัน
ส่วน “ข้าราชการ” แต่ละกอง กรม กระทรวงนั้นเป็นผู้รู้ผู้ชำนาญ เป็นนักปฏิบัติเฉพาะทาง ควรต้องกล่าวไปตามจริงว่า อะไรผิดอะไรถูก ใช่หรือไม่ใช่ ดีหรือเสียเป็นอย่างไร
ไม่ใช่ขอให้ได้อยู่ในตำแหน่งก็สอพลอกันไปวันๆ
แผนการจัดหาวัคซีนของไทยผิดพลาดเพราะ “การนำ” ของฝ่ายการเมือง
การระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 นี้ก็เกิดจากผิดพลาดของการเมือง
“หมอยง” นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พูดมาตั้งแต่ต้นว่า โควิดที่ระบาดรอบนี้
ร้อยละ 98 เป็นสายพันธุ์อังกฤษที่ “เล็ดลอด” มาจากประเทศเพื่อนบ้าน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำฝ่ายบริหาร เป็น “นายกรัฐมนตรี” และเป็น “ผอ.ศบค.”
เป็นนักการเมือง !?
อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก็เป็นนักการเมือง
ถามว่า ได้สั่งการให้ทำอะไรกับ “ผู้นำเข้า” โควิด-19 เชื้อร้ายสายพันธุ์อังกฤษในคราวนี้บ้าง !
“ระบบราชการ” ภายใต้การเมืองที่ไม่ซื่อและไม่ปกป้องคุ้มครองชีวิตประชาชนนั้นได้ปกปิดซ่อนเร้นอำพรางอย่างมิดชิด
กระทั่งเมื่อเข้าสู่ “ตาจน” “นักการเมือง” กับ “ข้าราชการ” ก็ถนัดทำแต่ “อาศัยอำนาจตาม…”
แล้วจึงสั่งไม่ให้ออกจากบ้าน สั่งให้หยุดทำมาหากิน !
คล้ายกับว่าเป็น “คำสั่ง” ที่มุ่งหมายปกป้องคุ้มครองประชาชน
แท้จริงคือการแก้ผ้าเอาหน้ารอด
ถึงแม้แผนการทำงานจะผิดพลาดใหญ่หลวง ไม่มีวัคซีนเพียงพอที่จะฉีดให้กับบุคลากรทางแพทย์ กลุ่มเสี่ยงและผู้สูงอายุ แต่ที่ประเทศไทยนี้ก็ไม่ต้องมีใคร “รับผิด”
เช่นเดียวกับที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ทหารเคลื่อนรถถังและกำลังพลรบออกมาก่อรัฐประหาร แค่หาเหตุผลสองสามข้อมาอ้างก็ลบล้างความผิด ไม่เคยถูกดำเนินคดี ไม่เคยต้องติดคุก
ไม่ต้องมีความรับผิดใดๆ
นักการเมืองทำความผิดพลาด บริหารล้มเหลว เลอะเทอะอย่างไรก็แค่บอกว่า “ทำงานเต็มที่แล้ว” จบ !
ไม่ต้องรู้สึกกระดาก “สำนึกผิด” ไม่ต้องกล่าวคำ “ขอโทษ”
ยิ่งเรียกร้องให้ “ลาออก” นั้นไม่มีทาง
นอกจากจะไม่ลาออกแล้วยังมีพวกจัดขบวนกลองยาวแห่เชียร์ให้อยู่ยาว # save ตัวมันเอง
# save ประชาชนตาดำๆ หรือ-ฝันไปเถอะ !?!!
