ที่มา | คอลัมน์สยามประเทศไทย มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
กรุงสุโขทัย ราชธานีแห่งแรก เป็นรัฐในอุดมคติของไทยที่ถูกครอบงำและกล่อมเกลาให้เป็นความทรงจำด้วยอารมณ์ความรู้สึกร่วมเหนียวแน่นและกว้างขวางมาก
ดังนั้น จะยุ่งยากมากๆ หรือเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น เพราะกระทบกระเทือนหลายอย่างที่สถาปนาให้สืบทอดไว้เป็นประวัติศาสตร์แห่งชาติมานานมากเกือบ 100 ปี
ประวัติศาสตร์แห่งชาติฉบับที่ใช้งานทุกวันนี้เพิ่งสร้างใหม่ (เมื่อประมาณ พ.ศ. 2436-2475 สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์) เพื่อธำรงรักษาอำนาจของชนชั้นนำกลุ่มเล็กๆ ของลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยกีดกันส่วนใหญ่ที่เป็นคนกลุ่มต่างๆ ออกไป คนเหล่านั้นอยู่ในลุ่มน้ำทางภาคเหนือ, ภาคอีสาน, และภาคใต้
สังคมไทย “ประวัติศาสตร์คืออนาคต” ก็จริง แต่เป็นอนาคตที่เหมือนอดีต ไม่ใช่อนาคตใหม่ที่แตกต่างจากเดิม
[เหล่านี้ ผมได้จากบทความเรื่องอนาคตในความทรงจำ ของ นิธิ เอียวศรีวงศ์ พิมพ์ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ 26 สิงหาคม-1 กันยายน 2559 หน้า 30]
อุดมคติที่อยู่ในอนาคต เป็นอุดมคติที่เชื่อว่าเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต เช่น “บ้านเมืองจะสงบสุขรุ่งเรือง ด้วยพ่อปกครองลูก เหมือนสมัยพระร่วง” หรือ “บ้านเมืองดี ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เหมือนสมัยสุโขทัย ราชธานีแห่งแรก” ฯลฯ
ในทางสากล ประวัติศาสตร์คืออนาคต เพราะอนาคตคือความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เหมือนปัจจุบัน และไม่มีวันเหมือนอดีต
แต่การเมืองไทย อดีตเป็นอย่างไร ปัจจุบันก็แบบนั้น และอนาคตก็แบบเดิม (มติชนสุดสัปดาห์ ประจำวันที่ 26 สิงหาคม-1 กันยายน 2559 หน้า 8)
“ในโลกที่ไม่ได้คิดถึงความเปลี่ยนแปลง มนุษย์จะฝันถึงอนาคตที่แตกต่างจากเดิมได้อย่างไร” นิธิ เอียวศรีวงศ์ บอกไว้
ดังนั้น ยากมากที่ไทยจะเปลี่ยนความรู้สึกเป็นอย่างอื่น จึงจะต้องพิทักษ์รัฐในอุดมคติ ไว้ต่อไป “สุโขทัย ราชธานีแห่งแรกของไทย” ทั้งๆ เป็นเรื่องโกหก