ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
พุกาม เป็นมรดกที่ชาวพม่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
ในหนังสือ หลากรสเรื่อง เมืองพม่า ของ ขิ่น เมี้ยว ชิด เขียนแล้วพิมพ์เป็นเล่มในพม่าครั้งแรก พ.ศ. 2519 (ต่อมาแปลโดย หอม คลายานนท์ พิมพ์เป็นภาษาไทยครั้งแรก พ.ศ. 2545) พรรณนาถึงพุกามไว้ว่าเคยเกิดแผ่นดินไหวก่อน พ.ศ. 2519 จะคัดมาให้อ่านกันดังต่อไปนี้
พุกาม – เมืองที่ท้าทายความสามารถ
การที่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อไม่นานมานี้ได้ทำให้สถูปเก่าหลายองค์ในพุกามถูกทำลายไป นับว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของชาวพม่าปัจจุบัน
“บรรพบุรุษของท่านเมื่อครั้งนานมาแล้วได้สร้างสถูปอันงดงามไว้หลายองค์ ซึ่งเป็นความมหัศจรรย์ทางด้านสถาปัตยกรรมโดยสร้างด้วยมือล้วนๆ มาบัดนี้ท่านมีเทคโนโลยีก้าวหน้า และเครื่องไม้เครื่องมือที่สลับซับซ้อนและละเอียดอ่อน ดูซิว่าท่านสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อรักษามรดกทางวัฒนธรรมของท่าน”
ในจินตนาการของข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้ายังคงมองเห็นความรุ่งเรืองของพุกามอยู่เช่นเดิม เป็นสายตาของเด็กซึ่งเห็นว่าพุกามนั้นเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ และในหัวใจเต็มไปด้วยความรัก ลำพังคำพูดทำให้ข้าพเจ้าผิดหวัง และข้าพเจ้าก็จะไม่พยายามสาธยายว่าข้าพเจ้าเห็นอะไร ความงามต่างๆ นั้น บัดนี้สูญสิ้นไปแล้ว ไม่ละ ข้าพเจ้าย้ำกับตนเองอย่างหนักแน่นว่า ข้าพเจ้าจะไม่ใช่วิธีการระเบิดอารมณ์ใส่ใครๆ อีกแล้ว เพียงพอแล้ว ข้าพเจ้าจะพยายามพินิจพิจารณาสิ่งต่างๆ โดยละเว้นเรื่องของการถูกทำลาย
แม้ในทุกวันนี้ ประชาชนยังใช้สำนวนพม่าที่ว่า “ฝนตกลงมาเป็นทองและเงิน” มันเป็นสำนวนที่บรรยายถึงวันเวลาที่ร่ำรวยและเจริญรุ่งเรืองในยุคพุกาม มีตำนานต่างๆ เล่าถึงวิธีที่นักเล่นแร่แปรธาตุประสบความสำเร็จในการทำวัตถุอย่างหนึ่งให้เป็นทองคำได้ ซึ่งสร้างความร่ำรวยให้แก่ประเทศ ตามเรื่องนั้นทำให้ทุกคนร่ำรวยหมด ร่ำรวยกันมากมาย แม้แต่หญิงหม้ายคนหนึ่งก็สามารถสร้างเจดีย์ได้องค์หนี่ง
จะเป็นตำนานหรือไม่ใช่ตำนานก็ตามที หลักฐานปรากฏอยู่ แสดงว่าในช่วงเวลาหนึ่งในประวัติศาสตร์พุกามได้เคยเจริญรุ่งเรืองมาแล้ว เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้ทุกหนทุกแห่ง ยกตัวอย่างเช่น
อิตาลีในสมัยเรเนอซังส์ เมื่อกรุงคอนสแตนติโนเปิลล่มสลาย อารยธรรมโบราณของกรีกได้ไปเจริญรุ่งเรืองในเมืองต่างๆ ของอิตาลี ในสมัยโน้นประชาชนที่ร่ำรวยและมีอำนาจใช้ทรัพย์สมบัติของเขาในการอุปถัมภ์ค้ำจุน ศิลปกรรม มีผู้ที่รักศิลปะเป็นชีวิตจิตใจ เช่น เมดิซิส์ (Medicis) และคนอื่นๆ ก็ทำบ้างตามสมัยนิยม อย่างไรก็ดีศิลปกรรมได้เฟื่องฟูขึ้น
ดังนั้น เมื่อฝนตกเป็นทองและเงินในกรุงพุกามแต่เก่าก่อนโน้น ประชาชนได้สร้างสถูปต่างๆ พระราชา พระราชินี เจ้านาย และคนสามัญ ทั้งหมดช่วยกันสร้าง พุกามนั้นเป็นแหล่งกำเนิดของพุทธศาสนา และถือเอาคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นแรงบันดาลใจ ช่วงนั้นนับว่าเป็นช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่ของการสร้างสรรค์ทีเดียว เป็นช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่จริงๆ
ด้วยเหตุผลที่ว่าคนในสมัยพุกามโบราณนั้นยึดมั่นในพุทธศาสนา เขาได้แสดงออกถึงความสร้างสรรค์ของเขา ผนวกกับความมุ่งมาดปรารถนาของมนุษย์ปุถุชน โดยการสร้างสถูปต่างๆ หลงเหลือไว้ให้เห็น เป็นร่องรอยของความยิ่งใหญ่ของเขา ในการกระทำเช่นนี้เขาไม่เพียงแต่ละทิ้งวัตถุสิ่งของอันงดงามไว้เท่านั้น แต่ยังเป็นการพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดแจ้งถึงความเชื่อในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าด้วย
มีอยู่สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นกว่าบรรดาสิ่งทั้งหมดคือ ประชาชนพุกามนั้นไม่ทำรูปเหมือนหรือหลุมฝังศพที่หรูหราไว้เลย ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์หรือชนสามัญก็ตาม มีอนุสาวรีย์ของพระเจ้าจานสิตธา คิดว่าเป็นเพียงอนุสาวรีย์ของกษัตริย์พระองค์เดียวที่ได้สร้างขึ้น แสดงการที่ทรงคุกเข่ายกพระหัตถ์ขึ้นพนมสวดมนต์ เป็นท่าที่บอกถึงการอ่อนน้อมและเป็นการพิสูจน์ให้เห็นอย่างแน่ชัดว่าพระองค์ทรงมีความเชื่อในแนวทางดำเนินชีวิตของพระพุทธเจ้า
ประชาชนของพุกามโบราณไม่ได้ให้เกียรติแก่อำนาจของบุคคลโดยการสร้างอนุสาวรีย์เหล่านั้น เขาเพียงแต่แสดงออกถึงความเชื่อของเขาในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ตัวของเขาเองและบรรดาความสำเร็จในทางโลกของเขานั้นไม่มีความสำคัญเลย เพราะว่าหนทางแห่งเกียรติยศนั้น นำไปสู่แต่หลุมฝังศพเท่านั้น ไม่มีโกศไว้เก็บกระดูกหรือรูปปั้นเหมือนครึ่งตัวสำหรับเขา เพราะสิ่งทั้งหมดนี้ต้องกลายเป็นธุลีตามกาลเวลา สิ่งเดียวที่ถือว่าเป็นเลิศโดยตลอดได้แก่ความเชื่อของเขา
ด้วยความเชื่อและแรงบันดาลใจของเขาทั้งหลายเหล่านั้น ได้ทำให้เขาสละทรัพย์สมบัติของเขา ในการก่อสร้างสถูปต่างๆ เป็นที่น่ายินดีแม้ทุกวันนี้ที่ได้เห็นการบริจาคด้วยความเต็มใจและเป็นไปตามธรรมชาติ เพื่อนำไปใช้ในการซ่อมแซมสถูปต่างๆ ข้าพเจ้ามีความยินดีด้วยความจริงใจในการกระทำของหลายๆ ท่าน ที่ยินดีสละเท่าที่เขาสามารถทำได้ สาธุ สาธุ สาธุ