สหรัฐอเมริกาบรรดามลรัฐต่างๆ แข่งกันให้สินบนประชาชนเพื่อไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เลือกได้

ในขณะที่ในประเทศไทยกำลังถกเถียงกันเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้ประชาชนแบบเลือกชนิดวัคซีนไม่ได้ มิหนำซ้ำวัคซีนมีอยู่ 2 ชนิด โดยชนิดหนึ่งนั้นทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่รับรองให้เป็นวัคซีนที่ใช้การได้อย่างสมบูรณ์ทำเอาคนไปฉีดวัคซีนชนิดนี้อกสั่นขวัญแขวนไปตามๆ กันขนาดผู้หลักผู้ใหญ่ระดับรองผู้ว่าราชการจังหวัดไปฉีดยังต้องสวมพระเครื่องไปเต็มคอและบอกตรงๆ ว่ากลัว สำหรับวัคซีนชนิดดังกล่าวนี้มีผู้มีสิทธิได้รับการฉีดก่อนเพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น ตำรวจต่างสละสิทธิไม่ยอมฉีดกันไม่น้อยเลย ส่วนวัคซีนอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกแล้วกันไว้ให้ผู้สูงอายุฉีดเท่านั้น ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีก็ฉีดครบ 2 เข็มแล้วได้รับใบรับรองให้เดินทางไปต่างประเทศได้โดยไม่ต้องถูกกักตัว 14 วัน ส่วนวัคซีนชนิดที่ฉีดให้คนทั่วไปถึงฉีดครบ 2 เข็มแล้วก็ยังไม่ได้ใบรับรองเดินทางไปต่างประเทศโดยไม่ต้องถูกกักตัว 14 วันนะครับ เพราะเป็นวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกยังไม่ยอมรับรองมาตรฐานนั่นเอง

ครับ ! อีทีนี้ก็เลยเกิดมีวัคซีนทางเลือกขึ้นมาเมื่อราชวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถาบันการวิจัยและวิชาการชั้นสูง (มิใช่สถาบันอุดมศึกษา แต่มีสถาบันอุดมศึกษาอยู่ในส่วนงาน) และจัดการศึกษาทางวิชาการและวิชาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม การแพทย์ และการสาธารณสุข มีวัตถุประสงค์ในการวิจัย สร้าง ประมวล ประยุกต์ ส่งเสริม เผยแพร่ พัฒนา จัดการศึกษาและผลิตบุคลากรในระดับสูง เพื่อสร้างองค์ความรู้ เป็นศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม การแพทย์ และการสาธารณสุข ให้บริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขแก่ประชาชน ให้ความช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ประสบภัยพิบัติ รวมทั้งส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม และทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมโดยใช้ภาษีของประชาชนได้รับสิทธิพิเศษให้สั่งวัคซีนเข้ามาได้ซึ่งตามปกติแล้วรัฐไทยจะผูกขาดการสั่งวัคซีนเฉพาะป้องกันไวรัสโควิด-19 ไว้แต่เพียงผู้เดียวอันเป็นปัญหาของการขาดแคลนวัคซีนในประเทศไทยอย่างหนักในปัจจุบัน

แต่ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นคือวัคซีนที่ราชวิทยาลัยสั่งเข้ามาใช้ในเมืองไทยนั้นเป็นวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกแล้วและทางราชวิทยาลัยแจ้งว่าทางราชวิทยาลัยจะขายต่อให้หน่วยงานต่างๆ เช่น องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัทห้างร้านและสถาบันต่างๆ โดยคิดเงินเข็มละ 1,000 บาท ซึ่งคนหนึ่งต้อง

ฉีด 2 เข็ม เป็นเงิน 2,000 บาท โดยให้ผู้ซื้อนำไปฉีดให้ผู้คนในความรับผิดชอบฟรีแต่ผู้ซื้อต้องจ่ายเงินให้ราชวิทยาลัยแห่งนั้นที่อ้างว่าไม่ได้คิดกำไรแม้แต่บาทเดียว

Advertisement

มีข่าวแจ้งมาเป็นระยะว่ามีบริษัทห้างร้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประกาศจองวัคซีนจากราชวิทยาลัยเป็นจำนวนมากเพื่อฉีดให้ผู้คนภายใต้ความรับผิดชอบกันอย่างคึกคัก

สาเหตุที่ผู้เขียนต้องเขียนบทความเรื่องนี้ขึ้นมาเนื่องจากได้ทราบถึงนโยบายการเปิดประเทศของสหรัฐอเมริกา เช่น มลรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นมลรัฐที่มีพลเมืองมากที่สุดในสหรัฐอเมริกามีนโยบายเปิดรัฐอย่างเต็มที่ โดยประกาศเลิกสวมหน้ากากให้ใช้ชีวิตแบบปกติกันเลยล่ะ เพราะมั่นใจในวัคซีนหลากหลายชนิดที่ล้วนแล้วแต่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกทั้งสิ้นเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซบเซาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ ดังนั้น ผู้ว่าการรัฐ นายกาวิน นิวซัม ได้ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้ว่า ทางรัฐแคลิฟอร์เนียได้ทุ่มเงิน 116.5 ล้านเหรียญอเมริกัน (ประมาณ 3,495 ล้านบาท) เพื่อให้เป็นรางวัลแก่ผู้ที่เดินทางมาฉีดวัคซีนแบบไม่ต้องนัดหมายเลย และเป็นใครก็ได้ 2 ล้านคนแรกจะได้บัตรกำนัลมูลค่า 50 เหรียญ พูดง่ายๆ คือใครไปฉีดก็ได้เงินติดกระเป๋ากลับไป 1,500 บาท ฟรีๆ นอกจากนี้ ยังมีรางวัลแบบชิงโชคโดยเอาชื่อของผู้ฉีดวัคซีนแล้วทั้งหมดมาจับสลากมีรางวัล 31 รางวัล โดย 30 รางวัลแรก รางวัลละ 50,000 เหรียญ (ประมาณ 1,500,000 บาท) ส่วนรางวัลที่ 1 เป็นเงิน 1.5 ล้านเหรียญ (ประมาณ 45 ล้านบาท) จัดเป็นข่าวดีสำหรับคนไทยที่จะบินไปฉีดวัคซีนฟรีที่มลรัฐแคลิฟอร์เนียในวันนี้ พรุ่งนี้หรือก่อนวันที่ 7 มิถุนายนที่จะถึงนี้เลยนะครับ

ส่วนคนที่อายุไม่เกิน 17 ปี อยากเรียนต่อระดับอุดมศึกษาแบบฟรีๆ ในมหาวิทยาลัยของรัฐในมลรัฐนิวยอร์กก็บินไปฉีดวัคซีนฟรีที่นิวยอร์กได้นะครับ เพราะที่นั่นเขาให้ลุ้นสิทธิเรียนฟรีในมหาวิทยาลัยของรัฐนิวยอร์กอยู่ สำหรับที่มลรัฐโอไฮโอมีรางวัลเดียวครับถ้าฉีดวัคซีนฟรีแล้วมีสิทธิลุ้นรางวัลเดียว คือ 1 ล้านเหรียญสหรัฐเลย

Advertisement

ยังมีอีกหลายมลรัฐครับ แต่เอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกันเพราะหดหู่ใจเหลือเกินเกี่ยวกับเรื่องฉีดวัคซีนไวรัสโควิด-19 ของประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่งของผองเรา

โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image