โอบามาทิ้งทวน โดย ชุมฉันท์ ชำนิประศาสน์

AFP

นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เปิดบ้านต้อนรับผู้นำนานาประเทศเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และการประชุมที่เกี่ยวข้องอยู่ในขณะนี้

แน่นอนว่าผู้นำซึ่งเป็นที่จับตาเป็นพิเศษคือ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งมาเข้าร่วมประชุมอาเซียน-สหรัฐ ซัมมิต

ไม่เพียงเพราะเป็นผู้นำชาติมหาอำนาจ หากทิ้งทวนเยือนเอเชียเป็นครั้งสุดท้ายก่อนอำลาตำแหน่ง ที่สำคัญคือเป็นผู้นำสหรัฐที่ยังดำรงตำแหน่งและมาเยือน สปป.ลาวเป็นคนแรก

ช่วงเวลาเว้นวรรคที่ไม่เคยมีผู้นำคนใดมาลาวเป็นผลมาจากสงครามเวียดนาม ยุคซีไอเอแทรกซึมเข้ามาปราบปรามคอมมิวนิสต์

Advertisement

จากข้อมูลของสำนักข่าวเอพี สหรัฐทิ้งกับระเบิดไว้ในลาวอย่างชุกชุมราว 2 ล้านตัน ตั้งแต่ปี 2507-2516 ร้อยละ 30 ยังไม่ระเบิด จนทุกวันนี้ลาวครองสถิติประเทศที่มีกับระเบิดมากที่สุดในโลก ตั้งแต่เกิดสงครามจนถึงปี 2551 มีชาวลาวเหยียบกับระเบิดตายและบาดเจ็บพิการแล้วกว่า 50,000 ราย

การที่โอบามามาลาวครั้งนี้จึงมีใบปะหน้ามาอย่างชัดเจนว่าเพื่อสะสางอดีตที่ค้างคาดังกล่าว จะได้เดินหน้าความสัมพันธ์ต่อไปได้ ด้วยการทุ่มเงิน 90 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3,150 ล้านบาท สำหรับให้ลาวใช้เยียวยาผลกระทบจากกับระเบิดใน 3 ปีข้างหน้าตาม “ข้อผูกมัดทางศีลธรรม”

ส่วนบรรดานักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศมองแบบเจาะลึกว่า สหรัฐคงอยากกระชับสัมพันธ์กับลาวมากขึ้น หลังจากสนิทกับเวียดนามมากขึ้น

Advertisement

ถ้ามองการแข่งขันของมหาอำนาจในภูมิภาคอาเซียนระหว่างจีนกับอเมริกา มีการปรับกระบวนอยู่พอสมควร

โดยเฉพาะเมื่อกรณีพิพาททะเลจีนใต้เพิ่มดีกรีร้อนขึ้น เวียดนามขยับมาอยู่ใกล้สหรัฐ ส่วนลาวก็ขยับเข้าใกล้เวียดนาม ในขณะที่สิงคโปร์ มาเลเซีย และบรูไน มีสัมพันธ์อันดีกับสหรัฐอย่างคงเส้นคงวา ส่วนกัมพูชาใกล้ชิดจีนมากที่สุดในยุครัฐบาลฮุนเซน

สำหรับไทยพยายามจะอยู่ตรงกลางอย่างที่เคยเป็น แต่ด้วยเงื่อนไขจากเหตุการณ์รัฐประหารจึงยากที่จะดำรงความสนิทชิดเชื้อกับสหรัฐแบบเดิม การจะกระโจนเข้าหาจีนแบบเต็มตัวก็ยากอีก เพราะอำนาจการต่อรองลดลง

ด้านฟิลิปปินส์ จากเดิมที่เป็นมหามิตรอันดับต้นๆ ของสหรัฐมาตลอด จนมาปีนี้พอเปลี่ยนผู้นำเป็นแนวบู๊-ห้าวมากเกินไป ความสัมพันธ์เริ่มส่อแววจะมีปัญหา

ไม่เพียงเพราะนโยบายปราบปรามยาเสพติดที่ปล่อยให้มีการฆ่าตัดตอนอย่างเอิกเกริก จนมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 2,000 คน แต่ก่อนจะมาถึงการประชุมเวทีอาเซียนครั้งนี้ที่ สปป.ลาว นายร็อดริโก ดูแตร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ หลุดสบถคำเดิมที่เคยเรียกคู่กรณีอื่นๆ ไปเรียกโอบามาว่า “ลูกโสเภณี” ทำให้โอบามาต้องยกเลิกหมายที่จะพบปะพูดคุยกันไปโดยปริยาย

การยกเลิกนี้น่าจะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้นำฟิลิปปินส์เลยทีเดียว เพราะการอ้างว่า “ฉันเป็นของฉันอย่างนี้” ไม่ได้เป็นข้ออ้างที่จะทำให้ยืนอยู่บนเวทีโลกได้โดยไม่ต้องเกรงใจใคร

ถ้าดูๆ ไปแล้ว บทเรียนจากนี้อาจใช้กับประเทศอื่นๆ ที่ชอบอ้าง “ฉันเป็นของฉันอย่างนี้” ได้ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image