ปม‘สายสีเขียว’

หนึ่งในผลงานรัฐบาลที่หยิบยกขึ้นมาโชว์ นั่นคือการเร่งก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ

หนึ่งในนั้นคือโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย 1ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า และส่วนต่อขยาย 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่เปิดบริการแล้ว โดยให้ประชาชนขึ้นฟรี เพราะมีปมเงื่อนที่รัฐบาลยังยื้อ ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ แต่ภาระไปตกอยู่กับผู้ลงทุนนั่นคือ “บีทีเอส”

ปมแรกเกิดขึ้นมาสมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะหัวหน้า คสช. ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2562 วันที่ 11 เมษายน 2562 ให้ กทม.จ้างเอกชนเพื่อติดตั้งระบบไฟฟ้า จัดการเดินรถและบริหารการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายโดยเร็ว

อีกทั้งให้คณะกรรมการที่มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน เจรจากับ “บีทีเอส” รวมโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย 1 และส่วนต่อขยาย 2 ให้เป็นโครงข่ายเดียวกัน มีอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม

Advertisement

กระทั่งปัจจุบัน เปิดบริการส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ แล้ว ซึ่งผู้โดยสารที่นั่งฟรีในขณะนี้นั้น ทาง “บีทีเอส” เป็นผู้ลงทุนระบบการเดินรถทั้งหมด และให้บริการเดินรถโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน

รวมทั้งส่วนต่อขยายช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า และช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง ที่ กทม.เก็บค่าโดยสาร แต่ยังค้างค่าจ้างเดินรถมานานกว่า 4 ปีแล้ว

เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา กทม.ออกประกาศจะเก็บค่าโดยสารช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-คูคต ในอัตราสูงสุด 104 บาท แต่เป็นราคาที่แพงเว่อร์ และสูงกว่าราคา 65 บาทตลอดสาย ในกรณีต่ออายุสัมปทานให้ “บีทีเอส”

Advertisement

นายกฯจึงสั่งให้ กทม.เลื่อนเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายออกไปโดยไม่มีกำหนด “บีทีเอส” จึงต้องให้บริการฟรีไปเรื่อยๆ โดยแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด

เมื่อไม่นานมานี้ “บีทีเอส” ส่งหนังสือถึง กทม.และบริษัทกรุงเทพธนาคม เพื่อทวงหนี้กว่า 3 หมื่นล้านบาท แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ ขณะที่สภากรุงเทพฯ ก็มีมติไม่อนุมัติงบประมาณให้ กทม.นำไปชำระหนี้ให้กับ “บีทีเอส”

“บีทีเอส” จึงรอความหวังจากนายกฯให้ช่วยแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว

เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา “บีทีเอส” บอกเล่าปัญหาผ่านจอมอนิเตอร์บนรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ผู้โดยสารรับรู้ โดยระบุข้อความ “ตามที่กรุงเทพมหานครและบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ค้างชำระค่าจ้างเดินรถกว่า 10,000 ล้านบาท ค่าติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลอีก 20,000 ล้านบาท บริษัทได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้สามารถบริการเดินรถให้กับประชาชนได้ แม้จะไม่ได้รับชำระค่าจ้าง ทั้งยังจะมีค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต”

ก่อนจะตบท้ายว่า “พวกเราขอกราบวิงวอนให้ ฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้โปรด…แก้ไขปัญหานี้ด้วย”

ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายนี้ ถูกดองมากว่าครึ่งปีแล้ว นับจากวันที่เสนอเข้า ครม. เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน แต่ยังไม่มีมติอะไรออกมา เพราะนายกฯ สั่งให้สอบถามความเห็นหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

เมื่อไม่นานมานี้ อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาลแจ้งถึงความคืบหน้า ที่ไม่มีอะไรคืบหน้าว่า ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณากฎหมายต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังให้ความคิดเห็นเพิ่มเติม และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม

ไม่รู้ว่า ครม.จะซื้อเวลาอีกนานแค่ไหน ไม่ตัดสินใจสักทีว่าจะต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือไม่ หากปล่อยให้คาราคาซังไปนานวัน จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ไม่กล้าลงทุนกับรัฐบาลอีก ซึ่งจะส่งผลเสียหายอย่างมาก

ดังนั้น นายกฯและ ครม.ควรรีบตัดสินใจแก้ปม“สายสีเขียว” โดยเร็ว

วุฒิ สรา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image