Mare of Easttown ประนีประนอมต่อความทรงจำอันเจ็บปวด

Mare of Easttown ประนีประนอมต่อความทรงจำอันเจ็บปวด

ซีรีส์อาชญากรรมดราม่าเข้มข้นของค่าย HBO “Mare of Easttown” ที่ได้นักแสดงหญิงระดับเอลิสต์วงการ “เคท วินสเล็ท” มารับบท “แมร์” หรือ “แมรี่แอนน์” นายตำรวจนักสืบหญิงประจำเมืองอีสต์ทาวน์ ที่ติดทั้งกับดักในชีวิตตัวเองที่ไม่สามารถมูฟออนหลังการฆ่าตัวตายของลูกชาย พร้อมกับหน้าที่ที่ถูกคาดหวังจากคนในเมืองว่าเธอยังไม่สามารถไขคดีเด็กสาววัยรุ่นในเมืองหายสาบสูญไปกว่า 1 ปี ได้สำเร็จ หนำซ้ำยังเกิดเหตุเด็กสาววัยรุ่นอีกคนถูกฆาตกรรมปริศนาไว้กลางป่า และตามมาด้วยเด็กสาวอีกคนหายตัวปริศนา กลายเป็นสามคดีที่ชาวเมืองอีสต์ทาวน์หวาดกลัวและพุ่งความกดดันมายังตำรวจสายสืบฝีมือดีอย่าง “แมร์”

ซีรีส์เปิดเรื่องเล่ากิจวัตรของ “แมร์” อย่างเรียบง่าย เธอเกิดและเติบโตจนมาเป็นตำรวจสายสืบในเมืองบ้านเกิดตัวเอง นั่นทำให้การลงพื้นที่ทำคดีของเธอจะว่าง่ายก็ง่าย แต่เอาเข้าจริงก็มีความยากและลำบากใจอยู่ในที เนื่องจากคดีก่อเหตุแต่ละเรื่อง ไม่ว่าจะลักเล็กขโมยน้อย ไปจนถึงคดีสำคัญตัวคนทำผิดก่อเหตุ รวมทั้งผู้ได้รับผลกระทบทุกคนต่างเป็นคนคุ้นเคย บ้างก็เป็นเพื่อนตั้งแต่ยังเด็ก เป็นผู้คนละแวกเดียวกันเห็นหน้าค่าตากันบ่อยๆ ในเมืองเล็กๆ อีสต์ทาวน์แห่งนี้ ลองนึกภาพว่าตัวละครนายตำรวจหญิง “แมร์” ถูกดีไซน์ราวกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ใครๆ เดือดร้อนก็หวังพึ่งพิงเธอ ผู้คนสามารถโทรศัพท์สายตรงร้องทุกข์มาที่ “แมร์” แล้วเธอก็ขับรถไปบ้านผู้ร้องทุกข์ที่เป็นคนรู้จักในละแวกย่านถิ่นที่อยู่ได้เลย โดยไม่ต้องผ่านการแจ้งเหตุไปยังสถานีตำรวจ

 

Advertisement

“เคท วินสเล็ท” รับบทตำรวจหญิงลูกสองที่เลิกรากับสามี ต้องเผชิญความทรงจำเลวร้ายเมื่อลูกชายคนโตที่มีปัญหาทางจิต ติดยาเสพติด และลงเอยที่ฆ่าตัวตาย เหลือเพียงหลานชายตัวน้อยไว้เป็นประจักษ์พยานของการเคยมีชีวิตอยู่ของเขา “แมร์” พร้อมแม่ของเธอ พยายามใช้ชีวิตโดยไม่พูดถึงความเจ็บปวดครั้งนี้ เช่นเดียวกับลูกสาววัยรุ่นอีกคนของแมร์ “ชีวอน” ที่พยายามจะปลดล็อกความรู้สึกตัวเอง และทำให้แม่เห็นว่าเธอมีความสุข เข้มแข็งและผ่านไปได้ แต่การที่ “ชีวอน” เป็นคนแรกของบ้านที่มาเห็นศพพี่ชายฆ่าตัวตายต่อหน้าต่อตาก็กลายเป็นบาดแผลลึกๆ ที่ปิดซ่อนไว้ และแม่ไม่เคยสัมผัสถึงความฝังใจของลูกสาวได้เลย “แมร์” เลือกที่จะทำเป็นลืมและใช้ชีวิตขับเคลื่อนไปด้วยการทำงานอย่างหนัก แต่แล้วเธอก็กลับพาชีวิตไปข้างหน้าหลังความเจ็บปวดจากการสูญเสียได้อย่างลุ่มๆ ดอนๆ

“Mare of Easttown” ค่อยๆ พาคนดูส่องเข้าไปในจิตใจของตัวละคร “แมร์” โดยเข้าใจและปะติดปะต่อได้ว่าทำไมเธอจึงใช้ชีวิตราวกับโกรธเกรี้ยวลงโทษใส่ตัวเองตลอดเวลา พร้อมกับแบกรับความเครียดอัดแน่นจากหน้าที่การงานที่ถูกคาดหวังและกดดัน โดยที่ยังไม่สามารถไขคดีที่สังคมให้ความสนใจได้

Advertisement

เส้นเรื่องที่คู่ขนานไปกับชีวิตของ “แมร์” คือ การไขคดีฆาตกรรมอันซับซ้อนชวนขนลุกของ “แอริน” เด็กสาววัยรุ่นที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว พร้อมกับยังต้องรับหน้าที่ไขอีกคดีที่ “เคธี่” เด็กสาววัยรุ่นแม่เลี้ยงเดี่ยวอีกคนหายตัวปริศนา ทั้งสองคดีกลายเป็นคดีปริศนาท้าทายการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ อีกทั้งเมื่อยิ่งพิสูจน์ลงลึกไปเท่าไหร่ คดีของ “แอริน” ก็ดูจะยิ่งฝุ่นตลบมากขึ้นจนพบว่ามีผู้น่าสงสัยหลายคน และเริ่มพัวพันกับผู้คนในเมืองอีสต์ทาวน์มากขึ้นทุกขณะ

ใครฆ่า “แอริน” ในเมืองอีสต์ทาวน์ เป็นเส้นเรื่องที่จะไขปริศนาสุดท้ายในตอนจบ ซึ่งความเป็นลิมิเต็ดซีรีส์ 7 ตอนจบทำให้เรื่องราวไม่เยิ่นเย้อ น่าติดตามไปจนสุดทาง พร้อมกับสไตล์เรื่องแนวสืบสวนที่ต้องทิ้งลายหักมุม เล่นกับคนดูหลายชั้นเพื่อให้เรื่องราวลุ้นกันหยดสุดท้าย

ขณะที่เส้นเรื่องฝั่งดราม่าที่ว่ากันตามจริงเป็นแก่นหลักของ “Mare of Easttown” คือพาร์ตชีวิตของ “แมร์” นั้น เราจะได้เห็นชีวิตอีกด้านของตำรวจหญิงผู้เข้มแข็งกลับติดอยู่ในวังวนความเศร้าโศกของแม่ผู้สูญเสีย เช่นเดียวกับผู้คนในเมืองที่โอบล้อมไปด้วยสถานการณ์ความสูญเสียคนใกล้ชิดในรูปแบบต่างๆ ซึ่งแต่ละคนมีวิธีการและการตอบสนองทางอารมณ์ต่อความเศร้าแตกต่างกันออกไป

นอกจากนี้ซีรีส์ยังมีโครงเรื่องที่จงใจสะท้อนถึงภาวะ “การเป็นแม่ในวัยรุ่น” ซึ่งตัวละครแม่ๆ ทั้งหลายในเมืองอีสต์ทาวน์ล้วนผ่านชีวิตแม่วัยรุ่นกันมาทั้งนั้น รวมทั้ง “แมร์” ด้วยเช่นกัน แต่ประเด็นหลักคือ ไม่ว่าความเป็นแม่ในวัยรุ่นจะไม่สมบูรณ์เพียบพร้อม แต่เราจะได้เห็นถึงความสัมพันธ์ของแม่กับลูกในหลายคู่ที่เกิดขึ้นในเมืองอีสต์ทาวน์ ไม่ว่าจะลงเอยที่สุขนาฏกรรมหรือโศกนาฏกรรม สายใยของแม่และลูกนั้นเข้มแข็งและยิ่งใหญ่เสมอ

“Mare of Easttown” อาจจะดูเป็นซีรีส์ดราม่าแนวสืบสวนสอบสวนที่ไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่น่าตื่นเต้นที่ผู้ชมจะรีบกดดู แต่เมื่อเริ่มดูแล้วเราก็รู้ในทันทีว่าด้วยฝีมือการแสดงและพลังดาราของ “เคท วินสเล็ต” ที่พาให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าดูตั้งแต่ต้นจนจบ ผนวกด้วยคดีฆาตกรรมที่เล่ามาแบบเรียบๆ แต่ก็ชวนให้ต้องติดตามให้กระจ่าง ผสมด้วยพล็อตเรื่องดราม่า หรือ “สาร” ที่แท้จริงของซีรีส์เรื่องนี้ที่ต้องการพูดถึงการใช้ชีวิตไปต่อข้างหน้าให้ได้ หรือมูฟออนหลังความเจ็บปวดแสนสาหัส

เรื่องราวท่วงทำนองที่เราได้เห็นใน “Mare of Easttown” คือชีวิตของคนคนหนึ่งที่กว่าจะประนีประนอมกับความทรงจำอันเจ็บปวดของตัวเองได้ ก็ต้องรอเวลาให้เข้ามาฟาดชีวิตจนในที่สุดเธอก็พร้อมจะเผชิญหน้ามองย้อนกลับไปยังจุดที่เจ็บปวดนั้นอย่างยอมรับความเป็นจริง เพื่อฟื้นฟูหัวใจจากความเศร้าและกล้าจะมีชีวิตต่อไปข้างหน้าอย่างมีความสุขให้ได้

ถือเป็นลิมิเต็ดซีรีส์คุณภาพที่ควรค่าแก่การรับชมด้วยท่วงทำนองการเล่าเรื่องดราม่าและอาชญากรรมได้กัดกินหัวใจ

ติสตู
(ภาพประกอบ Youtube Video / HBO)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image