ประเทศเนเธอร์แลนด์ หรือที่มักเรียกกันว่า ฮอลแลนด์ (Holland) หรือฮอลันดา เป็นประเทศซึ่งตั้งอยู่ในยุโรปตะวันตกตอนเหนือ ชื่อประเทศมีรากศัพท์มาจากคำว่า “Neder” หรือ “ต่ำ” เนื่องจากภูมิประเทศส่วนใหญ่ของเนเธอร์แลนด์เป็นที่ราบลุ่ม และพื้นที่ประมาณหนึ่งในสี่ของประเทศต่ำกว่าระดับน้ำทะเล เนเธอร์แลนด์ได้ปรับพื้นที่โดยการสูบน้ำออกจากทะเลสาบและทางน้ำต่างๆ เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้ เนเธอร์แลนด์ได้สร้างเขื่อน ทางระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศประสบภาวะอุทกภัย เนเธอร์แลนด์จึงมีสิ่งก่อสร้างด้านวิศวกรรมการจัดการน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
คริสต์ศตวรรษที่ 17 ถือได้ว่าเป็นยุคทองของเนเธอร์แลนด์ เช่นเดียวกับ สเปน โปรตุเกส และอังกฤษ ซึ่งเป็นมหาอำนาจทางทะเลในการแสวงหาโอกาสทางการค้าในดินแดนต่างๆ ของโลก เนเธอร์แลนด์เป็นมหาอำนาจทางทะเล และเศรษฐกิจชั้นนำของยุโรปในเวลานั้น และกรุงอัมสเตอร์ดัมก็เป็นศูนย์กลางการเงินของยุโรป และเนเธอร์แลนด์ เป็นประเทศเจ้าอาณานิคม และอาณานิคมที่สำคัญ และอุดมสมบูรณ์ที่สุดคือประเทศอินโดนีเซียในปัจจุบันนี้เอง จนกระทั่งภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยอินโดนีเซีย จึงได้ประกาศเอกราชจากการเป็นอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์เมื่อ พ.ศ.2492 สำหรับปัจจุบันนี้เนเธอร์แลนด์เป็นราชอาณาจักรที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ได้มีข่าวฮือฮากันไปทั่วโลก เมื่อ เจ้าหญิงกาตารีนา-อามาลียา เจ้าหญิงแห่งออเรนจ์ มงกุฎราชกุมารีแห่งราชบัลลังก์เนเธอร์แลนด์ ผู้ที่จะได้เป็นพระราชินีแห่งเนเธอร์แลนด์พระองค์ต่อไป ที่กำลังจะมีพระชนมายุครบ 18 พรรษาในช่วงต้นเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ โดยพระองค์จะได้รับเงินประจำตำแหน่งรายปี 1.6 ล้านยูโร (ราว 60 ล้านบาท) ทำให้พระองค์ได้ทรงเขียนจดหมายถึง นายมาร์ค รูทท์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ประสงค์ที่จะปฏิเสธการรับเงินรายปีดังกล่าว เนื่องจากไม่สบายพระทัยที่จะรับเงินดังกล่าว โดยที่ไม่ได้กระทำการใดๆ ที่เป็นประโยชน์ในทางตอบแทน อีกทั้งยังไม่สบายพระทัย เหตุประชาชนจำนวนไม่น้อยยังทุกข์ยาก โดยเฉพาะช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19
สาเหตุสำคัญที่มงกุฎราชกุมารี เจ้าหญิงกาตารีนา-อามาลียาไม่ประสงค์ที่จะรับเงินประจำตำแหน่งรายปีนี้ก็คือ พระองค์ตั้งพระทัยว่าจะใช้เวลา 1 ปีหลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมแล้วเพื่อการไป gap year (แกพ เยียร์) ยังต่างประเทศเพื่อค้นหาตัวเอง ภายใต้แนวคิดที่ว่า ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เอาไว้ให้แน่ใจว่า อยากเรียนอะไร แล้วค่อยสมัครก็ยังไม่สาย ด้วยการใช้ชีวิตและหาประสบการณ์ต่างแดน เพื่อที่จะได้พบเจอเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ ที่มาจากหลากหลายวัฒนธรรม อันเป็นทางเลือกหนึ่งที่นักเรียนชาติตะวันตกนิยมทำกันเพราะสามารถค้นพบได้ว่าตัวเอง ชอบอะไร และสนใจอยากจะไปเรียนสาขาวิชาไหนจริงๆ เพื่อใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต โดยเจ้าหญิงกาตารีนา-อามาลียาได้เขียนจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ความว่า
“7 ธันวาคม 2021 ข้าพเจ้าจะมีอายุครบ 18 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด ข้าพเจ้าจะได้รับเงินรายปี แต่ข้าพเจ้ากลับรู้สึกไม่สบายใจที่จะรับเงินดังกล่าว ตราบใดที่ข้าพเจ้ายังไม่ได้กระทำการใด เพื่อเป็นการตอบแทนประเทศเลย อีกทั้งนักเรียนนักศึกษาคนอื่นๆ ก็กำลังประสบกับความยากลำบากมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวิกฤต
โควิด-19”
เจ้าหญิงกาตารีนา-อามาลียา ทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์โตในพระราชาธิบดีวิลเลิม-อเล็กซานเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์ และสมเด็จพระราชินีมักซิมาแห่งเนเธอร์แลนด์ มีพระขนิษฐาร่วมสายพระโลหิตอีก 2 พระองค์ คือ เจ้าหญิงอะเลกซียาแห่งเนเธอร์แลนด์ และเจ้าหญิงอารียานแห่งเนเธอร์แลนด์ รัชทายาทลำดับที่ 2 และ 3 แห่งราชวงศ์ออเรนจ์-นัสเซาของเนเธอร์แลนด์
ปัจจุบันราชวงศ์เนเธอร์แลนด์ได้รับงบประมาณปีละประมาณ 47.5 ล้านยูโร ซึ่งในส่วนของพระราชาธิบดีและพระราชินี ได้รับสำหรับงบประมาณใช้จ่ายส่วนต่างๆ ในพระองค์ทั้งหมดประมาณ 7.2 ล้านยูโร (ประมาณ 268 ล้านบาท)
สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งในการปฏิเสธที่จะรับเงินรายปีของเจ้าหญิงอามาลียาอาจมาจากการที่พระราชาธิบดีวิลเลิม-อเล็กซานเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์ และพระราชินีมักซิมา และครอบครัวได้เดินทางไปพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศในประเทศกรีซ ท่ามกลางการระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในการเดินทางออกนอกประเทศในช่วงเวลานั้นอย่างรุนแรงเมื่อปีที่แล้ว
ทำให้พระราชาธิบดีวิลเลิม-อเล็กซานเดอร์ และสมเด็จพระราชินีมักซิมากับครอบครัวต้องรีบเดินทางกลับทันที หลังจากมีเสียงติฉินอย่างรุนแรงว่าไม่เหมาะสมจากสาธารณชนได้ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้นทุกที
