| ที่มา | คอลัมน์ จิปาถะ มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ส.พลายน้อย |
เล่าถึงท้าวหุลละมานทางฝั่งลาวมาแล้ว ก็ขอเล่าถึงเรื่องทางอีสานของไทยไว้ด้วย แต่จะขอกล่าวเฉพาะเรื่อง “พระรามชาดก” ตอนกำเนิดหนุมานที่เขาเรียกว่า “หุลละมาน” ใกล้กับทางลาว เรื่องพระรามชาดกมีดังต่อไปนี้
พญาราพณาสวร (ทศกัณฐ์) แปลงเป็นพระอินทร์เข้าหานางสุชาดา ต่อมานางสุชาดาทราบความจริงมีความโกรธแค้นมาก ขอพรพระอินทร์ลงไปเกิดในลงกาเพื่อแก้แค้น พระอินทร์ประทานพรให้ตามความประสงค์ นางสุชาดาได้จุติลงไปเกิดในครรภ์ของนางจันทา มเหสีพญาราพณาสวร ในคืนนั้นนางจันทาฝันว่ามีลูกแก้วลอยมาแต่ฟ้า มาลอยวนเวียนอยู่รอบตัวนาง 3 รอบแล้วเข้าไปในท้อง
สักครู่หนึ่งก็กลับออกมาเป็นสายลวดรัดพญาราพณาสวรจนขาดใจตาย แล้วลูกแก้วก็หายไป นางจันทาเล่าความฝันให้ราพณาสวรฟัง พญาจึงให้หาอุปราชท้าวพิมพีมาทำนายฝัน ท้าวพิมพีได้วิชาโหราศาสตร์มาแต่ฟ้า จึงทำนายว่านางจันทาจะมีครรภ์และได้ลูกเป็นหญิงมาแต่ชั้นดาวดึงส์ ลงมาเกิดเพื่อแก้แค้นที่ไปทำลายจิตใจเขาก่อน ถ้าเลี้ยงไว้จะเป็นอันตรายถึงชีวิต เมื่อเกิดมาให้ลอยแพไปเสียให้พ้นเมือง
คำทนายของท้าวพิมพีเป็นจริง นางจันทาคลอดลูกเป็นหญิง พญาราพณาสวรรักมาก ชอบมาอุ้มขึ้นนั่งตักลูบหน้าลูบหัวแล้วพูดว่า “ดูซิลูกเราน่ารักเป็นหนักหนา แล้วไฉนจึงว่าเกิดมาทำร้ายพ่อ ไม่มีทางว่าจะเป็นไปได้เลย”
ในขณะที่ท้าวราพณาสวรพูดชื่นชมอยู่นั้นเอง กุมารีก็นั่งเล่นเอามือไขว่คว้าไปตามประสาเด็ก เผอิญไปคว้ามีดด้ามแก้วในขันหมากได้ก็กวัดแกว่งไปมาเผอิญไปถูกคางพ่อเข้า พญาราพณาสวรก็ร้องโวยวาย เชื่อว่ากุมารีเกิดมาฆ่าพ่อจริงๆ สั่งให้เอาไปลอยแพ
หลังจากนางสุชาดาจุติลงมาแล้ว พระอินทร์ก็คงจะติดตามมาโดยตลอด จึงทราบเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสด็จลงมาที่แพนั้น แล้วบอกกุมารีให้รู้ว่าเดิมชื่อสุชาดา เมื่อมาเกิดใหม่ให้ชื่อว่าสีดา ต่อจากนั้นพระอินทร์ได้เนรมิตเรือสำเภาลำน้อยบรรจุโภชนาหารของทิพย์ แล้วสั่งว่าเรือลำนี้เป็นของกายสิทธิ์ จะให้ไปที่ไหนก็ได้ตามใจปรารถนา และเมื่อให้นางสีดากินน้ำทิพย์น้อยหนึ่งแล้ว ได้เขียนหนังสือให้ดูนางก็รู้แจ้งทั้งร้อยเอ็ดภาษา
พระอินทร์จึงสั่งว่า เมื่อไปถึงบ้านเมืองใดให้เขียนหนังสือภาษาเมืองนั้นไว้ ใครเห็นก็จะรักใคร่เอ็นดูเหมือนลูกแม่เดียวกัน ปรากฏว่านางสีดาไปถึงไหนใครก็เมตตารักใคร่ คราวหนึ่งพญานาคชื่อโอดกาลิกามาพบมีใจสงสารรับไปอยู่กับลูกสาวชื่อนางบับพาวรรณ นางสีดาอยู่กับพญานาค 14-15 ปี จึงเดินทางต่อไป ได้พบฤษีที่เกาะดอนใหญ่แห่งหนึ่ง ฤษีได้สร้างปราสาทให้อยู่พร้อมกับเนรมิตนางสาวๆ ให้อยู่เป็นเพื่อน 10 คน นางเหล่านี้ล้วนมีหน้าตาคล้ายนางสีดา นอกจากนี้ได้เนรมิตนางค่อมไว้คอยรับใช้อีก 20 คน
นางสีดาของลาวคงต้องต่ออีกสักนิด เพื่อให้รู้ว่าต่างกันอย่างไร
