ยุคขาดแคลน

วันที่ 20 กรกฎาคมเป็นวันเริ่มต้นล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มจำนวน 13 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม ฉะเชิงเทรา ชลบุรี อยุธยา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา โดย ศบค.กำหนดมาตรการเข้มข้น กลางวันให้หลีกเลี่ยงการออกจากเคหสถาน กลางคืนห้ามออกจากบ้านตั้งแต่ 21.00 น.ถึง 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังกำหนดมาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง เพื่อมิให้ประชาชนเดินทางไปมา ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ

ทั้งนี้ ศบค.ประเมินการระบาดว่า ขณะนี้โรคโควิด-19 ในประเทศไทยเป็นสายพันธุ์เดลต้าเกินกว่ากึ่งหนึ่ง โดยสายพันธุ์นี้แพร่เชื้อเร็วและเมื่อติดเชื้อจะลงปอดได้เร็วอันเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเข้าสู่อาการโคม่าและเสียชีวิตเร็ว ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุขแถลงถึงวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนหลักของไทยที่จะนำมาฉีดให้ประชาชนโดยสรุปว่า ปริมาณการนำเข้าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า
มีประมาณ 5 ล้านโดสต่อเดือน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้ประมาณการว่าคนไทยจะได้รับวัคซีนป้องกันโควิดประมาณ 5 ล้านคนต่อเดือน

นอกจากนี้ ศบค.ยังนำแบบจำลองการระบาดมาเปิดเผยว่า หากประเทศไทยสามารถควบคุมการระบาดได้ดี ในเดือนสิงหาคมถึงกันยายนก่อนไทยจะได้รับวัคซีนบิ๊กล็อตที่เพิ่งซื้อ คนไทยจะป่วยเป็นโรคโควิด-19 ประมาณ 9,000 ถึง 12,000 คน แต่ถ้าไม่มีการควบคุมใดๆ จะมีผู้ป่วยถึงวันละ 3.2 หมื่นคน ปริมาณผู้ป่วยที่มากขึ้นหมายถึงปริมาณเตียงผู้ป่วยที่น้อยลง และเมื่อเตียงผู้ป่วยหมด ย่อมมีผลต่อการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น สภาวการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแล้ว และหากจำนวนผู้ป่วยเป็นไปตามที่คาดการณ์ สภาวการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมด้วย

ในยุคที่หลายอย่างขาดแคลน จำเป็นต้องพึ่งพาการบริหาร การกำหนดเป้าหมาย การวางแผนปฏิบัติ และการทำความเข้าใจต่อผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดมีความสำคัญ ขณะนี้ ศบค.กำลังทำความเข้าใจสถานการณ์ให้ประชาชนรับทราบ ทั้งเรื่องวัคซีน ทั้งเรื่องเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ทั้งเรื่องจำนวนผู้ป่วย แต่ในบรรดาหลายเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจต่อประชาชน เรื่องที่สำคัญที่สุดหนีไม่พ้นคู่มือการรับมือกับโรคระบาดในห้วงเวลาที่ขาดแคลน ทั้งการขาดแคลนยา ขาดกำลังพล รวมไปถึงขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภคเนื่องมาจากการขาดรายได้ระยะยาว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image