ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ 5-11 กุมภาพันธ์ |
---|---|
ผู้เขียน | จรัญ พงษ์จีน |
“นายมีชัย ฤชุพันธุ์” ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงสรุปเนื้อหาและสาระสำคัญของ “ร่างแรก” ต่อสื่อมวลชนไปเป็นที่เรียบร้อยลงเอยตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ทุกประการ
จากนี้ เตรียมส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พรรคการเมือง และประชาชนไปศึกษารายละเอียด เพื่อส่งความคิดเห็น ข้อเสนอแนะกลับมาเพื่อปรับปรุงแก้ไขต่อไป ผ่านหลายช่องทาง ทั้งเว็บไซต์ ไปรษณีย์ อี-เมล และทางโซเซียลมีเดีย
“จุดเด่น” ของร่างรัฐธรรมนูญ “ฉบับมีชัย” ไฮไลต์ได้แก่ “ปฏิรูป-ปราบคนโกง”
คือ การวางกลไกป้องกันและตรวจสอบ ขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐและเอกชน การป้องกันและตรวจสอบมิให้ผู้เคยต้องคำพิพากษา หรือคำสั่งเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเด็ดขาด
การที่การยกร่างเนื้อหาออกมาแบบ “โหดห้ามอุทธรณ์” เนื่องจาก “21 อรหันต์ทองคำ” ชุดใหม่ได้ยึดกรอบการยกร่างตาม “รัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557” เป็นแม่แบบ
อันว่า รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 ที่ กรธ. ยึดมาเป็น “กรอบ” ที่ “หิน” สุด-สุด ได้แก่ มาตรา 35 ที่กำหนดหลักการตายตัวไว้เป็น “บัญญัติ 10 ประการ”
ตำราเล่มเดิมและเล่มเดียวกับที่กรรมาธิการยกร่างชุด “36 อรหันต์ทองคำ” ยุค “บวรศักดิ์” นำไปเป็น “กรอบ” ในการยกร่าง และพังพาบมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“บัญญัติ 10 ประการ” ดังกล่าวประกอบด้วย
1. การรับรองความเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกัน จะแบ่งแยกมิได้
2. การให้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่เหมาะสมกับสภาพสังคมของไทย
3. “กลไกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน ตรวจสอบ และขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งในภาครัฐและเอกชน”
4. “กลไกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและตรวจสอบมิให้ผู้เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายว่าการกระทำทุจริตและประพฤติมิชอบเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองเด็ดขาด”
5. กลไกที่มีประสิทธิภาพที่ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและพรรคการเมืองสามารถปฏิบัติหน้าที่หรือดำเนินกิจการได้โดยอิสระ ปราศจากการครอบงำ หรือชี้นำโดยคณะหรือคณะบุคคลใด
6. กลไกการเสริมสร้างความเข้มแข็งของหลักนิติธรรมและธรรมาภิบาลในทุกภาคส่วนทุกระดับ
7. กลไกที่มีประสิทธิภาพในการปรับโครงสร้างและขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและสังคมเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมอย่างยั่งยืน
8. “กลไกที่มีประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงินของรัฐให้เป็นไปอย่างคุ้มค่าและตอบสนองต่อประโยชน์ส่วนรวม ให้สอดคล้องกับสถานะทางการเงินการคลังของประเทศ”
9. กลไกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันมิให้มีการทำลายหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญ
10. “กลไกที่มีประสิทธิภาพเพื่อผลักดันให้มีการปฏิรูปเรื่องสำคัญต่างๆ ให้สมบูรณ์”
“บัญญัติ 10 ประการ” แห่งมาตรา 35 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ใน (3)-(4)-(8) และ (10) ซึ่งถือว่าเป็นกระดูกติดมันสำหรับนักเลือกตั้งทั้งสมัครเล่นและอาชีพ ซึ่ง “กรธ.” เขียนแบบสับขาหลอก และกระจัดกระจาย “พรางตัว” อยู่ตามบทบัญญัติต่างๆ ในหลายหมวดหมู่ ทาง “มีชัย ฤชุพันธุ์” ระบุว่า เป็นห้องเครื่องสำคัญที่ทำให้ “คนการเมือง” เคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก เพราะรับไม่ได้
ทั้งนี้ ที่ “กรธ.” เน้นเรื่องการปราบปรามทุจริตอย่างจริงจัง ก็เพื่อจะทำให้การเมืองไม่ใช่เป็นที่ฟอกตัวของคนที่เคยทำผิด จึงใช้หลักการเดียวกันกับคุณสมบัติ เพราะหากศาลตัดสินว่ามีความผิดไม่ว่าจะได้รับนิรโทษกรรมหรือไม่ คนเหล่านี้จะไม่มีสิทธิกลับมาเป็น ส.ส. ได้อีก
“เจ้ามือการพนัน ค้ายาเสพติด ฟอกเงิน ฉ้อโกง ใครทำผิดข้อหาเหล่านี้ จะกลับเข้ามาสู่การเมืองไม่ได้ และถ้าตราบใดที่ร่างรัฐธรรมนูญจะถูกยกร่างอีกกี่ครั้ง สิ่งเหล่านี้จะต้องอยู่และหนักไปอีกด้วยซ้ำ” นายมีชัย เน้นย้ำ จุดเข้มแข็งของ “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559”
(3)-(4)-(8) แม้จะออกโหด อำมหิต สำหรับนักการเมือง แต่ถูกใจซาดิสต์ และ “เหล่าคนดี” ได้พอประมาณ จึงมีทั้ง “ฝ่ายเชียร์” และ “แช่ง” อยู่ในตัวพร้อมสรรพ
เหลืออีก 1 ประการ ที่ยังไม่รู้ว่า “กรธ.” จะนำไปฝั่งชิพไว้ใน “บทเฉพาะกาล” ส่วนไหน กับ (10)
ว่าด้วย “กลไกที่มีประสิทธิภาพเพื่อผลักดันให้มีการปฏิรูปเรื่องสำคัญต่างๆ ให้สมบูรณ์”
ซึ่ง “กมธ.” ชุด “เรือแป๊ะ” เคยออร์แกไนซ์ออกมาเป็น “คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ” หรือ “คปป.”
กับภารกิจ เพื่อประโยชน์แห่งการดำเนินการปฏิรูปประเทศให้ต่อเนื่อง จนบรรลุผล รวมทั้งเพื่อป้องกันระงับความขัดแย้งระหว่างคนในชาติและสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น
ซึ่งในลำดับต่อมา เมื่อมีการนำ “อำนาจหน้าที่ คปป.” ออกมาขยายผล ปรากฏว่ามีอิทธิฤทธิ์เหนือปฐพี ขี่คอ ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและบริหาร
เป็นต้นว่า สามารถแต่งตั้งคณะกรรมการชุดต่างๆ-ขับเคลื่อนการปฏิรูป ระงับยับยั้ง หรือกระทำการใดได้ ไม่ว่าการกระทำนั้นจะมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติหรือในทางบริหาร
และที่ดูตลกสุด คือให้ถือว่าคำสั่ง การกระทำ และการปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว เป็นคำสั่ง การกระทำหรือการปฏิบัติที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายและเป็นที่สุด
หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับ “โปลิตบูโร” ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ยังไงยังงั้น
“คปป.” ของ กมธ.ชุดเก่า จึงถูกรุมกินโต๊ะหนัก และกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญให้ “เรือแป๊ะ” ถูกคว่ำ
อย่างไรก็ตาม (10) แห่งบัญญัติ 10 ประการ เชื่อว่า “กูรู” ระดับ “มีชัย ฤชุพันธุ์” น่าจะผ่าทางตันได้สำเร็จ
โรดแม็ปว่าด้วยประชามติ คงจะผ่านฉลุย เพื่อก้าวสืบไปสู่โหมดเลือกตั้งในลำดับถัดไป
ลงเอยตามกรอบเวลาที่วางไว้ คือไม่เกินปลายปี พ.ศ.2560